ทนายด่าง
เผยแพร่คำแถลงกรณีการเสียชีวิตของ "บุ้ง-เนติพร" นับเป็นวันที่ 78 แล้ว
ที่ไร้คำชี้แจง จี้คณะกรรมการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรม เร่งสอบสวน -
แจ้งสาธารณชนทราบโดยด่วน ก่อนที่ศาลจะไต่สวนการตายตามกฎหมายต่อไป
วันนี้
(31 กรกฎาคม 2567) นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด่าง
ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Krisadang-Pawadee
Nutcharus ระบุว่า
คำแถลงกรณีการเสียชีวิตของ
นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม (บุ้ง)
วันนี้
( 31 กรกฎาคม 2567 ) ซึ่งนับเป็นวันที่ 78 ของการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง
จำเลยในคดีอาญาของศาลอาญาและศาลอาญากรุงเทพใต้
ซึ่งถูกขังอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ กรุงเทพมหานคร
โดยหมายขังของศาลยุติธรรมทั้งสองแห่ง ในฐานะทนายความของนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม
หรือบุ้ง เห็นว่า การเสียชีวิตของบุ้งในวันที่ 14 พฤษภาคม 2567
ยังคงไม่ได้รับการชี้แจงถึงสาเหตุการตายและรายละเอียดอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องในการเสียชีวิตของบุ้งจากหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบแต่อย่างใด
กระทรวงยุติธรรมซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาลดูแลรับผิดชอบกรณีดังกล่าวยังมิได้ดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตของบุ้งเลย
และในส่วนหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบค้นหาความจริงรวมทั้งค้นหาความรับผิดชอบจากกรณีการเสียชีวิตของบุ้งก็ยังมิได้มีการดำเนินการใด
ๆ จนบัดนี้
ข้าพเจ้าในฐานะทนายความของบุ้งในคดีอาญาที่เธอถูกกล่าวหาและยังไม่มีคำพิพากษาใด
ๆ ว่าเธอได้กระทำความผิดตามที่รัฐกล่าวอ้างทั้งสิ้น เห็นว่า
กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นข้อด่างพร้อยอย่างชัดเจนของกระบวนการยุติธรรมไทย
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม
เราได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดในการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงในกรณีการตายของบุ้งเพียงเท่าที่จะสามารถหาได้จากพยานหลักฐานทั้งรายงานทางการแพทย์และภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกจากกล้องวงจรปิดสถานที่เกิดเหตุ
รวมทั้งจากพยานบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวทำให้ได้ข้อยุติในข้อเท็จจริงที่รวบรวมได้ดังต่อไปนี้
ข้อ
1. จากพยานหลักฐานที่จะระบุท้ายคำแถลงฉบับนี้ทำให้เราเชื่อได้ว่า
นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง
ถึงแก่ความตายที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตั้งแต่เช้าวันที่ 14 พฤษภาคม 2567
ข้อ
2. จากพยานหลักฐานภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกจากกล้องวงจรปิดในบริเวณห้องขังของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
ซึ่งนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง รักษาตัวอยู่นั้นเห็นว่า
ในครั้งแรกที่พบว่า นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง
มีอาการอยู่ในภาวะวิกฤตินั้น ไม่มีการกู้ชีพโดยใช้แพทย์หรือพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญและการกู้ชีพโดยบุคคลที่ปรากฎในภาพก็เป็นการช่วยเหลือโดยไม่เป็นตามหลักวิธีทางการแพทย์
และไม่มีการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลทั่วไปต้องมีอยู่ในการกู้ชีพแต่อย่างใด
ข้อ
3. การเคลื่อนย้ายนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง
จากเตียงผู้ป่วยไปสู่ห้องฉุกเฉินของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ใช้เวลานานเกินสมควรและน่าจะมีข้อผิดพลาดในการช่วยเหลือ
เพราะเห็นได้ชัดว่าในขณะทำการกู้ชีพนั้นที่บริเวณหน้าท้องของนางสาวเนติพร
เสน่ห์สังคม หรือบุ้งมีอาการบวมจนสังเกตุได้จากภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดของห้องฉุกเฉินที่ได้รับจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
ข้อ
4. การตัดสินใจส่งตัวนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง
ออกจากของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ซึ่งอยู่ห่างไกลมากกว่าโรงพยาบาลทันสมัยอื่นที่อยู่ใกล้เคียง
โดยในขณะนั้นนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง มีหลักฐานบ่งชี้ชัดว่านางสาวเนติพร
เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง
ไม่มีสัญญาณชีพแล้วจึงน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของผู้รับผิดชอบ
ข้อ
5. จากภาพของกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ในขณะที่รถพยาบาลของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์นำตัวนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม
หรือบุ้ง ไปส่งนั้นระบุชัดเจนว่าในการนำตัวนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง
ออกจากรถพยาบาลเพื่อส่งต่อเข้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรตินั้นใช้เวลานานเกินสมควรและผิดปรกติอย่างมาก
ทั้งเห็นได้ว่าแพทย์ผู้มากับรถพยาบาลนั่งมาคู่กับคนขับมิได้อยู่กับผู้ป่วยที่อยู่ตอนหลังของรถแต่อย่างใด
ข้อ
6. จากรายงานบันทึกทางการแพทย์ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติในขณะที่รับตัวนางสาวเนติพร
เสน่ห์สังคม หรือบุ้งนั้นระบุชัดเจนว่าเธอไม่มีสัญญาณชีพแล้ว
และพบว่าการสอดท่อช่วยหายใจที่จะนำอากาศเข้าสู่ปอดนั้นเกิดความผิดพลาด
โดยท่อช่วยหายใจนั้นถูกสอดใส่ไปในหลอดอาหารแทนที่จะสอดใส่ไปที่ในท่อหายใจ
ซึ่งแพทย์ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติได้บันทึกไว้ว่าต้องมีการแก้ไขสอดท่อใหม่ให้ถูกต้อง
อีกทั้งจากการชันสูตรพลิกศพภายหลังพบว่ามีอากาศอยู่ในช่องท้องของผู้ตายจำนวนมากจนทำให้มีอาการป่องบวมอย่างเห็นได้ชัด
ข้าพเจ้าขอเรียนว่า
ข้อสังเกตุทั้ง 6 ประการข้างต้นนั้น
ทนายความและญาติพร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญภายนอกที่ไม่ได้มีส่วนได้เสียได้ตั้งข้อสังเกตุจากรายงานทางการแพทย์ของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
และรายงานทางการแพทย์ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
และรายงานจากการผ่าชันสูตรร่างกายผู้เสียชีวิตภายหลังการตาย
รวมทั้งจากภาพเคลื่อนไหวของกล้องวงจรปิดเท่าที่ได้รับจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเท่านั้น
สำหรับรายละเอียดการวิเคราะห์ทางการแพทย์และทางเคมีรวมทั้งหลักวิชาการกู้ชีพในภาวะวิกฤติกรณีความบกพร่องในการช่วยชีวิตผู้ป่วยนั้นได้จัดทำขึ้นต่างหากเพื่อใช้สำหรับการไต่สวนการตายในชั้นพิจารณาคดีของศาลต่อไป
ข้าพเจ้าขอเรียนว่าทนายความของผู้ตายในกรณีนี้
เห็นว่า นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม
หรือบุ้งได้เสียชีวิตที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ กรุงเทพมหานครแล้ว
การไต่สวนการตายในกรณีนี้จึงต้องกระทำที่ศาลอาญาซึ่งเป็นศาลที่มีเขตอำนาจเท่านั้น
ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมซึ่งได้ตั้งขึ้นเพื่อสอบสวนกรณีนี้เร่งดำเนินการสอบสวนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
พร้อมทั้งเร่งชี้แจงผลการสอบสวนพร้อมรายละเอียดทั้งหมดต่อประชาชนและผู้เกี่ยวข้องโดยด่วน
ก่อนที่จะมีการไต่สวนการตายของนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ณ
ศาลที่มีอำนาจตามกฎหมายต่อไป
นายกฤษฎางค์
นุตจรัส
31
กรกฎาคม 2567
เป็นเวลา
78 วันนับจากการตายของบุ้ง
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #บุ้งเนติพร #บุ้งทะลุวัง #ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม