“ณัฐชา” ทวงสัญญานายกฯ 7 วัน หาความจริง 'ปลาหมอคางดำ' ยังเงียบ จี้คณะทำงานฯ เร่งชี้แจง
วันที่
29 กรกฎาคม 2567 ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กรุงเทพฯ
เขต 27 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า
จากกรณีการระบาดของปลาหมอคางดำที่กำลังสร้างวิกฤตทำลายทั้งอาชีพเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและเสี่ยงกระทบต่อระบบนิเวศอย่างรุนแรงในเวลานี้
ทำให้เมื่อสัปดาห์ก่อน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมาสั่งการให้ 'ทำความจริงให้ปรากฏ' ต่อมา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับลูกและแจ้งต่อสาธารณะว่าได้ตั้งคณะทำงานตามล่าหาความจริง
ขีดเส้นใน 7 วันต้องรู้ นับเวลาเริ่มต้น วันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ครบ 7 วัน
ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ต่อเวลาให้จนถึงวันนี้เป็นสิบวันถ้วน
ทว่าความจริงยังไม่ปรากฏแถมกลับมืดมนลงทุกที เพราะคณะทำงานดังกล่าวเงียบหายไป
ส่วนบริษัทเอกชนที่มีข้อมูลพาดพิงว่าเกี่ยวข้องกับการนำเข้ามาและอาจเป็นต้นตอการระบาดในครั้งนี้ก็ยังคงหลบหน้า
ไม่ยอมมาชี้แจงใดๆ ต่อคณะกรรมาธิการที่สภาตั้งขึ้น
ณัฐชา
กล่าวต่อว่า อย่างที่ตนได้อภิปรายในสภาฯ ไปแล้ว
ประเทศไทยเคยเจอสถานการณ์ที่ภาครัฐต้องชนกับทุนมาแล้วครั้งหนึ่ง
ครั้งนั้นเป็นประเด็นเรื่องหมูเถื่อน
เป็นประเด็นที่ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากต้องขาดทุนล้มหายตายจากไปจากตลาดเกือบหมด
จนเกิดสภาพกึ่งผูกขาดที่ทำให้หมูมีราคาแพงกระทบปากท้องค่าครองชีพมาจนถึงตอนนี้
เป็นเหตุให้พี่น้องประชาชนเฝ้าจับตาติดตามมาตลอดว่าใครคือไอ้โม่งที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ครั้งนั้น
"แต่สถานการณ์ก็ดูเหมือนซ้ำรอยอีกแล้ว
เมื่อทุนใหญ่ทำท่าว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง กรณีปลาหมอคางดำก็เหมือนกรณีหมูเถื่อน
ท่าทีของนายกรัฐมนตรี ดูขึงขังเอาจริงเอาจังตอนออกสื่อตอนแรกเหมือนเดิม
หน่วยงานต่างๆ ก็รับลูกขีดเส้นดูเอาจริงเอาจังบอกว่าต้องหาตัวการคนผิดให้ได้เหมือนเดิม
เป็นละครหน้าฉากบทเดิม ๆ เล่นกันเหมือนเดิม ๆ”
“สุดท้ายก็เป็นแค่ลมปากเหมือนเดิม ตอนนี้เกินเส้นตาย 7 วันตามที่สัญญาไว้ว่าจะทำความจริงให้ปรากฏ
แต่ก็ดูเหมือนความจริงกำลังจะเงียบหายไปกับสายลมอีกเรื่องหนึ่ง
ซึ่งจากการดำเนินงานผ่านกลไกสภาฯ ร่วมกับภาคประชาชนและผู้เดือดร้อน
เราเชื่อว่ามีข้อมูลบ่งชี้ให้รัฐไปทำงานหาตัวคนต้องรับผิดชอบต่อได้แน่
แต่เรากลับยังคงไม่ได้รับความจริงว่าต้นตอสาเหตุของปลาชนิดนี้มาได้อย่างไร
กระบวนการวิธีการก็ยังคงเป็นปริศนาว่าเหตุใดปลาที่อยู่ในประเทศแถบแอฟริกาใต้ถึงมาโผล่อยู่ใจกลางประเทศไทย
ซึ่งผมได้กล่าวไปแล้วในการอภิปรายครั้งที่ผ่านมาว่าสามารถเรียกได้เลยว่าคือปลาเถื่อน
และเหตุการณ์ปลาเถื่อนครั้งนี้ต้องเฝ้าดูว่ารัฐไทยกับกลุ่มทุน จุดจบจะจบลงแบบใด
พี่น้องประชาชนเท่านั้นที่จะสามารถช่วยกันติดตาม
และตามทวงถามความจริงให้เกิดขึ้นให้ได้"
ณัฐชา
กล่าวต่อไปอีกว่า สิ่งที่พวกเราทำผ่านสภาฯ ได้ก็ได้ทำไปหมดแล้ว
ตอนนี้เหลือเพียงว่าจะไปตามคณะทำงานหาความจริงของรัฐบาลได้ที่ไหน
ใครรู้ฝากแจ้งข่าวด้วย เพราะตั้งแต่ครบเวลาแล้วก็สาบสูญไปเลย
หรือถ้าพวกท่านรู้ตัวว่าพี่น้องประชาชนถามถึง ก็ช่วยปรากฏตัวมารายงานความคืบหน้าด้วย