วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ธิดา ถาวรเศรษฐ : ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกลหรือไม่ ประเทศไทยก็ไม่เหมือนเดิม!!!

 


ธิดา ถาวรเศรษฐ : ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกลหรือไม่ ประเทศไทยก็ไม่เหมือนเดิม!!!


เหตุการณ์ 7 สิงหา ปี 2567 ก็จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองอีกวาระหนึ่ง หลังจากที่ในอดีตคือสัญลักษณ์วันเปิดการต่อสู้ด้วยอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์ไทย ต่อมา 7 สิงหา ปี 2559 ก็เป็นวันลงประชามติอัปยศของรัฐธรรมนูญฉบับชนชั้นนำจารีตอำนาจนิยมที่แย่ที่สุดในประวัติรัฐธรรมนูญไทย แต่ 7 สิงหา ปี 2567 หากมีการตัดสินยุบพรรคก้าวไกลก็จะเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงระบอบที่ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยในการปกครองประเทศอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะกรณีแก้ไขมาตรา 112 ตามวิถีทางรัฐสภา


ดิฉันจะไม่พูดถึงปัญหาข้อกฎหมาย เพราะมีคนพูดกันมากพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคก้าวไกล แต่ดิฉันในฐานะประชาชนที่ต่อสู้นอกเวทีรัฐสภาภาคประชาชนมากว่า 50 ปี ค่อนข้างหนักใจว่า ถ้าเวทีรัฐสภาในการต่อสู้เพื่อแก้ไขกฎหมายล้มเหลว ภารกิจมันจะมาตกกับเวทีนอกรัฐสภา ซึ่งดิฉันไม่อยากเห็นการต่อสู้รุนแรงมากขึ้นระหว่างประชาชนกับอำนาจจารีตอำนาจนิยมของชนชั้นนำที่ปกครองประเทศไทย แต่ทำไงได้ล่ะ เมื่อฝั่งชนชั้นนำผู้ปกครองเลือกใช้วิธีนี้ทำลายพลังก้าวหน้า เฉพาะหน้าไม่ได้คำนึงถึงผลระยะยาวและยุทธศาสตร์การเมืองที่ควรจะเป็น


ทัศนะของฝ่ายชนชั้นนำจารีตนิยม จะเป็นทัศนะที่มองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง จะเป็นทัศนะที่หยุดนิ่ง ได้แต่เอาอดีตที่เป็นคุณต่อพวกตนมารับใช้ปัจจุบัน ไม่เห็นอนาคตที่เปลี่ยนแปลงจากเดิม จึงไม่แปลกที่คนเหล่านี้จะทำสิ่งซ้ำ ๆ เดิม คือการทำรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ เขียนรัฐธรรมนูญล้าหลัง ใช้การปราบปรามด้วยอาวุธและกฎหมาย รวมทั้งการยุบพรรคการเมืองที่อาจเป็นอันตราย ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามจะครองอำนาจการปกครองให้ได้ โดยมองไม่เห็นว่าประชาชนและเยาวชนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล อย่างมีนัยสำคัญเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของประชาชนจริง


โอกาสที่จะทำเหมือนเดิมคือการยุบพรรคก้าวไกลจึงมีอยู่สูง โดยคิดเอาว่า


(1) เพื่อทำลายผู้นำพลังก้าวหน้าในฐานะพรรคการเมืองที่ได้รับความนิยมสูง และอาจเป็นอันตรายต่อการดำรงอำนาจนำของชนชั้นปกครองเดิม


(2) หยุดยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามแบบที่ประชาชนอยากเห็น ซึ่งไม่ใช่รัฐธรรมนูญของชนชั้นนำเดิม รวมทั้งการแก้ไขกฎหมายอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรา 112


(3) ให้เวลาพรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยมอำนาจเดิมปรับปรุง เพื่อยังรักษาเสียงส่วนใหญ่แบบเดิมไว้ได้ และให้การตั้งพรรคการเมืองใหม่หวาดกลัว ไม่อาจมีนโยบายสุ่มเสี่ยงที่จะเผชิญการยุบพรรคอีก ถือเป็นการยื้อเวลาและใช้กลยุทธ์ทุกอย่างเพื่อต่อสู้กับประชาชนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้อำนาจคืนกลับมาเป็นของประชาชน และทวงความยุติธรรมให้ประชาชนทั้งที่ตายและเป็นคืนมา


แต่ถ้าปาฏิหาริย์ ฝั่งอนุรักษ์นิยมเกิดไม่ยุบพรรคก้าวไกลโดยอ้างปัญหากฎหมาย ขั้นตอนที่ไม่ถูกต้องก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเห็นด้วยกับการที่พรรคก้าวไกลมีนโยบายแก้กฎหมาย มาตรา 112 และนอกจากนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มุ่งประหารชีวิตทางการเมืองของแกนนำสำคัญและบุคคลากรก้าวหน้า เพราะยังมีศาลอื่นที่ใช้จัดการในปัญหาคุณธรรมของผู้เสนอกฎหมายและมีพฤติกรรมสนับสนุนพลังนอกสภาด้วย เกือบ 2 ทศวรรษแล้วที่ประเทศไทยถูกยุติพัฒนาการสู่ระบอบประชาธิปไตย แต่ตรงข้าม กลับสร้างพลังแห่งความเปลี่ยนแปลงสังคม นี่คือเหรียญอีกด้านของการทำรัฐประหาร 2 ครั้ง และสืบทอดอำนาจจนถึงบัดนี้


ถ้าฝ่ายจารีตอำนาจนิยมไม่เปลี่ยนทางยุทธศาสตร์ให้มีเป้าหมาย ระบอบประชาธิปไตยร่วมกับพลังก้าวหน้าที่เติบโตขึ้นทุกวัน สงครามระหว่าง 2 ระบอบก็ยังไม่จบ และจะมีศพมากขึ้น (ไม่ใช่เฉพาะศพฝ่ายประชาชน)


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ธิดาถาวรเศรษฐ #ศาลรัฐธรรมนูญ #ยุบพรรค #ก้าวไกล