“ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย”
กังวล สว.ชุดใหม่ไม่หนุนแก้รัฐธรรมนูญ “จาตุรนต์” แนะ แก้
พ.ร.บ.ประชามติให้ถูกหลัก - ใช้เสียงข้างมากโดยไม่มีเงื่อนไข
เมื่อวันที่
26 กรกฎาคม 2567 ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย (ภรป.)
ซึ่งประกอบด้วย นักวิชาการ ภาคประชาสังคม ตัวแทนประชาชนกลุ่มต่าง ๆ และ
นักการเมืองจากทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน
จัดให้มีการประชุมภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ครั้งที่ 1/2567 ณ โรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพฯ เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนและมีแนวทางในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เตรียมจะเสนอสู่รัฐบาลและสังคม
อาทิ เปิดให้มีการมีส่วนร่วมของประชาชน, สสร.ต้องมาจากตัวแทนของกลุ่มอาชีพที่หลากหลายมากกว่าครั้งก่อน
รวมไปถึงการทำประชามติต้องเปิดให้มีการรณรงค์อย่างเสรี เป็นธรรม และกว้างขวาง
ทั้งนี้ในที่ประชุมยกประเด็นอุปสรรคในการแก้รัฐธรรมนูญซึ่งมีหลายด้าน
โดยสิ่งที่ผู้ร่วมประชุมบางส่วนเริ่มรู้สึกเป็นห่วงไปในทิศทางเดียวกันคือร่างแก้รัฐธรรมนูญจะผ่านวาระหนึ่งของรัฐสภาได้
ต้องอาศัยเสียง “เห็นชอบ” ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน สส. และ สว. ที่มีอยู่
และในจำนวนดังกล่าว ต้องมีเสียงของ สว. ที่ยกมือโหวตเห็นชอบไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม
นั่นก็คือไม่น้อยกว่า 67
เสียง แต่ดังที่หลายฝ่ายเข้าใจคือกติกาการเลือก
สว.ครั้งนี้ทำให้เราไม่ได้
สว.ที่เป็นตัวแทนกลุ่มอาชีพและไม่มีความเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย
ซึ่งจะทำให้การแก้รัฐธรรมนูญ “ยากกว่าที่คิดไว้”
นายจาตุรนต์
ฉายแสง ที่ปรึกษาและกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)
ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวในที่ประชุมภาคีว่า
สิ่งที่จะมาปลดล็อกได้คือ “การทำประชมติ” แม้ในคราวแรกจะไม่มีผลทางกฎหมาย
แต่ผลของการลงประชามติจะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้
สว.ไม่อาจปฏิเสธที่จะทำตามเสียงของประชาชนได้
โดยขณะนี้
พ.ร.บ.ประชามติ กำลังอยู่ในการแก้ไขโดยคณะกรรมาธิการวิสามัญ ของสภาผู้แทนราษฎร
ที่ผมเป็นคณะกรรมาธิการอยู่ด้วย โดยสิ่งที่เห็นตรงกันคือการแก้ไขกติกาแบบ Double Majority ออกไป
แต่สิ่งที่ยังถกเถียงกันคือยังจะต้องกำหนดจำนวนผู้มาออกเสียงมากน้อยเท่าใดหรือไม่และการกำหนดว่าต้องมีคะแนนของผู้เห็นด้วยเป็นจำนวนเท่าไหร่กันแน่
เช่น ต้องมีผู้เห็นด้วยมากกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียง
“สิ่งที่ผมเสนอคือนอกจากไม่ควรใช้กติกาแบบ Double majority แล้ว ยังควรใช้ “เสียงข้างมากเท่านั้น” โดยไม่ต้องมีเงื่อนไขอื่นประกอบ
ที่ผมเสนออย่างนั้น เพราะเป็นเรื่องปกติที่การเลือกตั้งทั่วไปก็ใช้กติกาเช่นนี้
แต่อ้างเรื่องการเลือกตั้งก็ไม่ดีเท่ากับการอ้างพระราชบัญญัติประชามติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ
พ.ศ 2559 ซึ่งกำหนดว่า
“การลงประชามติถือว่าผ่านหากได้รับการเสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสียงทั้งหมด…”
ผมเสนออย่างนี้เพราะว่า
เราต้องมีหลักอย่างใดอย่างหนึ่งที่ต้องอธิบายว่าทำไมเราถึงต้องยกเลิกกติกา Double
majority เพราะฉะนั้นการอธิบายหลักเหตุผลที่ดีที่สุดก็คือว่ารัฐธรรมนูญตัวแม่
(รัฐธรรมนูญ 2560) มาจากการทำประชามติกันมาอย่างไรก็ทำแบบนั้น
เพราะการกำหนดกติกาที่ต่างกันจะทำให้ผู้ที่เห็นไปในทิศทางใดทางหนึ่งย่อมหาเหตุผลมาอธิบายไปต่าง
ๆ นานาได้เสมอ จนอาจทำให้การแก้รัฐธรรมยิ่งยากไปกว่าเดิม หรือง่ายจนเกินไปก็ได้ “
นายจาตุรนต์ กล่าว
ทั้งนี้นายจาตุรนต์ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะเดินหน้าต่อไปได้
ต้องแก้พ.ร.บ.ประชามติ
ให้ใช้หลักเกณฑ์ที่ถูกต้องและอธิบายได้อย่างมีเหตุมีผลเสียก่อน
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #แก้รัฐธรรมนูญ #สว67