โฆษกอัยการ
เผย อธ.อัยการสอบสวน เเจ้งข้อหา 112-พรบ.คอมพิวเตอร์ "ทักษิณ" เเล้ว
แจ้งราชทัณฑ์อายัดตัว ด้านเจ้าตัวปฏิเสธข้อกล่าวหาพร้อมยื่นขอความเป็นธรรม
วันนี้
(6 กุมภาพันธ์ 2567) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด
นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ,นายณรงค์ ศรีระสันต์ อัยการพิเศษฝ่าย
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายแผนช่วยเหลือทางกฎหมาย รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด,นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
ร่วมกันเเถลงความคืบหน้าหน้า กรณีที่ นางวิรังรอง ทัพพะรังสี
ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย โพสต์หนังสือ
ความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
พ.ศ. 2550 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2558
นายประยุทธ์
กล่าวว่าทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้รับหนังสือการกระทำผิดนอกราชอาณาจักร
ของนายทักษิณ เมื่อวันที่ 16
กุมภาพันธ์ 2559 ทางอัยการสูงสุดได้พิจารณา
และมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายทักษิณ แต่ขณะนั้นนายทักษิณยังอยู่ต่างประเทศ
จึงมีการออกหมายจับภายในอายุความ 15 ปี
นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ โดยคดีนี้จะขาดอายุความในวันที่ 21 พฤษภาคม
2573
แต่เมื่อวันที่
22 สิงหาคม 2566 ทักษิณเดินทางกลับมาไทยและรับโทษในคดีอาญาเรื่องอื่น
พนักงานสอบสวนจึงได้นำหมายจับไปแจ้งอายัดตัวผู้ต้องหาในกรมราชทัณฑ์ ทำให้
เมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา
อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนและคณะพนักงานสอบสวนที่ดูแลคดีได้เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหากับนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจ
โดยนายทักษิณได้ให้การปฏิเสธพร้อมยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อไปการสูงสุดภายในวันเดียวกันทำให้หลังจากนี้ทางอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนต้องส่งบันทึกคำให้การชั้นสอบสวนและหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้กับพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดีนำไปประกอบสำนวนเพื่อส่งให้กับอัยการสูงสุดพิจารณาซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาดังกล่าว
โดยตามกฎหมาย
ทางอัยการสูงสุดมีอำนาจในการออกความเห็นสามอย่างของสำนวนนี้คือ 1. ข้อเท็จจริงหากเห็นว่าข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วนสามารถสั่งให้พนักงานอัยการไปสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
2. หากข้อเท็จจริงเพียงพอแล้วให้ยืนตามความเห็นเดิมที่ว่า
ให้สั่งฟ้องนายทักษิณตามข้อกล่าวหา 3. หากพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติกรรมไม่เข้าข่ายความผิดสามารถมีความเห็นไม่สั่งฟ้องนายทักษิณได้
ทั้งนี้ต้องพิจารณาตามคำร้องหนังสือขอความเป็นธรรมที่นายทักษิณแย้งมา
ว่ามีข้อต่อสู้อะไรที่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงในสำนวนได้หากไม่มีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมได้
ส่วนประเด็นการอายัดตัวนายทักษิณ
นายนาเคนทร์ อธิบายว่า
ขณะนี้ทางกรมราชทัณฑ์ยังไม่มีคำสั่งชัดเจนในการอายัดตัวนายทักษิณ
จึงต้องรอคำสั่งความชัดเจน จากกรมราชทัณฑ์ หากนายทักษิณได้รับการพักโทษในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้
ตามขั้นตอนกรมราชทัณฑ์จะต้องแจ้งพนักงานสอบสวน ล่วงหน้า 7 วันก่อนปล่อยตัว
เพื่อให้ไปรับตัวนายทักษิณมาดำเนินคดีในคดี 112 และเมื่อพนักงานสอบสวนไปรับตัวแล้วจะพิจารณาเรื่องให้ประกันตัวหรือปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพนักงานสอบสวน
หรือจะไปดำเนินการขั้นตอนการฝากขังผัดแรกของในคดี 112 และเมื่อพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วหรือรับตัวมาแล้วก็จะมีหนังสือมาแจ้งอย่างอัยการสูงสุดว่ามีการรับตัวนายทักษิณมาแล้วและอยู่ในขั้นตอนไหนของพนักงานสอบสวน
และเมื่ออัยการได้รับขั้นตอนจากพนักงานสอบสวนมาแล้วหน้าที่ของอัยการจากนั้นจะต้องมาพิจารณาเอกสารการร้องขอความเป็นธรรมและพิจารณาสำนวนคดี
ส่วนความกังวลสำหรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของนายทักษิณจะทำให้คดียืดเยื้อเหมือนกรณีของนายบอส
อยู่วิทยา ที่มีการร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง
ประเด็นดังกล่าวนายประยุทธ์ยืนยันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นแน่นอนเนื่องจากสำนักอัยการสูงสุดได้ถอดบทเรียนจากกรณีของบอส
อยู่วิทยา
พร้อมปรับแก้ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดในกรณีการร้องขอความเป็นธรรมโดยผู้ถูกกล่าวหาจะต้องเป็นผู้มายื่นคำร้องด้วยตัวเองไม่สามารถให้ทนายความหรือบุคคลบุคคลอื่นที่รับมอบอำนาจมายื่นให้โดยเด็ดขาดและหากเห็นว่าเป็นการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเพื่อประวิงเวลาอัยการสูงสุดก็มีอำนาจในการยุติการร้องขอความเป็นธรรมได้เช่นกัน
พร้อมขอให้สังคมเชื่อมั่นการทำงานของอัยการสูงสุดว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ทักษิณชินวัตร #มาตรา112 #อัยการสูงสุด