วันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

“ก้าวไกล” รับฟังข้อเสนอเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน “ชัยธวัช” ขอการเมืองแห่งความรักเป็นทางออกของความขัดแย้ง ยืนยันหากร่างนิรโทษกรรมฉบับประชาชนเข้าสภาฯ พร้อมสนับสนุน

 


“ก้าวไกล” รับฟังข้อเสนอเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน “ชัยธวัช” ขอการเมืองแห่งความรักเป็นทางออกของความขัดแย้ง ยืนยันหากร่างนิรโทษกรรมฉบับประชาชนเข้าสภาฯ พร้อมสนับสนุน


วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ลานประชาชนของรัฐสภา ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สส. พรรคก้าวไกล ร่วมกิจกรรม ‘ส่งรักให้ถึงสภา ถามหาความยุติธรรมเพื่อนิรโทษกรรมประชาชน’ จัดโดยเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน 


ระหว่างร่วมกิจกรรม ชัยธวัชแสดงความคิดเห็นว่า ในส่วนคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ตนร่วมด้วยนั้น แม้ในกรรมาธิการจะเห็นไม่ตรงกันทั้งหมด แต่ถือเป็นเวทีสำคัญในการรวบรวมความคิดเห็นมาศึกษาเปรียบเทียบเพื่อเป็นแนวทางการตัดสินใจของผู้แทนราษฎร 


ทั้งนี้ต้องย้ำว่าการนิรโทษกรรม ไม่ได้หมายความว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ผิด หรือสนับสนุนให้คนกระทำผิดไปเรื่อยๆ โดยข้อเท็จจริงเราต้องยอมรับว่ามีคนกระทำผิด รวมถึงคนที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด แต่ถ้าเราจะหาทางออกให้สังคมไทย ไม่สามารถมองคดีเหล่านี้ซึ่งเกี่ยวพันกับความขัดแย้งทางการเมือง เป็นอาชญากรรมปกติได้ 


จึงสนับสนุนการผลักดันนิรโทษกรรม ในฐานะส่วนหนึ่งของการคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองที่สืบเนื่องยาวนานเกือบ 2 ทศวรรษ อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งในสังคมไทยคงไม่สามารถยุติได้อย่างสิ้นเชิงด้วยการนิรโทษกรรมเพียงอย่างเดียว จำเป็นต้องมีการพูดคุยทั้งก่อนและหลังนิรโทษกรรมอีกหลายครั้ง 


ชัยธวัชกล่าวว่า ยินดีที่เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนสามารถรวบรวมรายชื่อได้เกือบ 40,000 รายชื่อในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ และนำมาเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรในวันแห่งความรัก ตนคิดว่าการนิรโทษกรรมเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองแห่งความรักและเชื่อว่าการเมืองแห่งความรักจะหาทางออกให้สังคม


“การเมืองแห่งความรักไม่ได้หมายความว่าเราจะรักกันทุกคน แต่คือการเมืองที่มีความเข้าอกเข้าใจกัน ยืนอยู่บนพื้นฐานของความปรารถนาดีต่อส่วนรวมด้วยกัน แม้เราอาจไม่เห็นตรงกันทุกเรื่อง ผมอยากให้ทุกฝ่ายสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยการเมืองแห่งความรักในแง่นี้ ยิ่งมาถึงวันนี้ เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าเราอยากจะผลักดันการเปลี่ยนแปลงอยู่บนพื้นฐานของความเกลียดชัง ความอยากทำลายซึ่งกันและกัน อันนี้ไม่สำเร็จ แต่หากยืนอยู่บนพื้นฐานความปรารถนาดี ยังมีมุมที่เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกันได้ หาพื้นที่ตรงกลางได้ ผมเชื่ออย่างนี้” ชัยธวัชกล่าว


หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวด้วยว่า เมื่อไรที่ร่างนิรโทษกรรมของภาคประชาชนเข้าสู่สภาฯ เราในฐานะส่วนหนึ่งของผู้แทนราษฎร พร้อมสนับสนุนเพื่อพิจารณารวมกับอีกหลายร่าง และหวังว่าเมื่อ กมธ.วิสามัญฯ มีรายงานออกมาแล้ว ก็จะเห็นร่างของฝั่งรัฐบาลที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เสนอเข้ามาเพิ่มเติมและพิจารณาร่วมกัน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #นิรโทษกรรมประชาชน