วันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

“ตะวัน” ปรากฏตัวที่ศาลอาญา ให้กำลังใจนักข่าวประชาไทและช่างภาพ ยันไม่คิดหลบหนีหลังมีกระแสข่าวถูกออกหมายจับ เพิ่งรู้ 3 สน.ยื่นถอนประกัน ลั่นสู้ต่อแน่นอน ย้ำไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง

 


“ตะวัน” ปรากฏตัวที่ศาลอาญา ให้กำลังใจนักข่าวประชาไทและช่างภาพ ยันไม่คิดหลบหนีหลังมีกระแสข่าวถูกออกหมายจับ เพิ่งรู้ 3 สน.ยื่นถอนประกัน ลั่นสู้ต่อแน่นอน ย้ำไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง

 

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 บรรยากาศที่ศาลอาญา รัชดา วันนี้ พบว่า น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ แฟรงค์ 2 นักกิจกรรมอิสระ  ได้ปรากฏตัวที่บริเวณหน้าศาลอาญารัชดาภิเษก หลังมีกระแสข่าวว่าตำรวจอยู่ระหว่างการขอหมายจับ ในความผิด 3 ข้อหา ได้แก่ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ ก่อความเดือดร้อนรำคาญ และมาตรา 116 ฐานยุยง ปลุกปั่นฯ

 

โดยตะวันพร้อมเพื่อน ระบุว่าเดินทางมาเพื่อให้กำลังใจนักข่าวประชาไท และช่างภาพอิสระ ที่พนักงานสอบสวนคุมตัวมาฝากขัง หลังถูกดำเนินคดีในข้อหาสนับสนุนการทำลายโบราณสถาน ทำข่าวพ่นสีกำแพงวัดพระแก้วเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 และวันนี้นำตัวมาฝากขังศาลอาญา รัชดา

 

ซึ่งตลอดช่วงสายที่นางสาวทานตะวันอยู่ที่ศาลอาญา จะนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนบริเวณบันไดศาล และบริเวณริมขอบถนนทางเดินของศาล โดยมีมวลชนที่สนับสนุนนางสาวทานตะวันมา กอดปลอบให้กำลังใจ ซึ่งนางสาวทานตะวัน มีสีหน้านิ่ง ค่อยข้างเคร่งเครียด และรวมตัวอยู่กับกลุ่มเพื่อนตลอดเวลา

 

นอกจากนี้ยังพบว่า นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ นักกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับในคดีทำให้โบราณสถานเสียหาย ของ สน.พระราชวัง ก็มานั่งรวมอยู่ในกลุ่มด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วงหนึ่ง นายนภสินธุ์ ตะโกนออกมาขณะที่นั่งอยู่บริเวณหน้าศาล ว่า “จะจับก็มาเลยพี่ พวกผมไม่ได้หนี และมาแสดงตัวให้เห็นแล้วที่ศาล”

 

จากนั้นนายนภสินธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตั้งใจมาแสดงตัวตามหมายจับ ไม่มีความกังวลอะไร และไม่ได้หนีไปไหน และตนเองพึ่งได้รับแจ้งจากทนายความว่า ตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นที่บ้านของตนเอง และบ้านของญาติด้วย

 

ขณะที่ นางสาวทานตะวัน บอกด้วยว่า วันนี้ตนเองตั้งใจเดินทางมาให้กำลังใจเพื่อนนักข่าวที่ถูกจับกุม และพึ่งมาทราบว่า ตนเองก็กำลังจะมีหมายจับ ดังนั้น ก็จะไม่หนี ไม่กลัว หากจะจับก็มาที่ศาลอาญารัชดาได้เลย จะรออยู่ที่นี่ พร้อมมองด้วยว่า ก่อนหน้านี้ มีการออกหมายเรียกแค่สร้างความเดือดร้อนรำคาญ เป็นความผิดลหุโทษ จ่ายค่าปรับก็จบ แต่วันนี้ไม่ทราบว่าจะมีการยัดข้อหาอะไรให้ตนเองบ้าง รวมถึงไม่ทราบว่าจะมีหมายจับกี่ใบ ส่วนประเด็นที่จะมีการเพิกถอนการประกันตัวของ 3 สน.นั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกระทีนหัน ยังไม่ทันตั้งตัว และไม่ได้คิดว่าจะสู้ต่อไปอย่างไร แต่ยืนยันว่าจะสู่ต่อไปแน่นอน

 

นางสาวทานตะวัน ยังบอกอีกว่า กรณีที่มีความพยายามที่จะปลุกปั่นว่ามีคนอยู่เบื้องหลังปลุกเยาวชน ซึ่งตนเองยืนยันว่า ไม่มีใครและกลุ่มใดอยู่เบื้องหลังใด ๆทั้งสิ้น เพราะพวกตนเองมีแต่อุดมการณ์ และออกมาด้วยใจล้วน เพื่อเป็นการตั้งคำถามในการยืนยันสิทธิและเสรีภาพ  และมองว่าปัจจุบันคนไทยกำลังตกเป็นเหยื่อไอโอจากภาครัฐ ส่วนที่มีการพยายามโยงพรรคการเมืองมาถึงกลุ่มพวกตนเองนั้น ยืนยันว่าไม่มีพรรคการเมืองใดๆเช่นเดียวกัน

 

ส่วนมองอย่างไรบ้างที่เหมือนมีการพยายามปลุกปั่นฝั่งขวาขึ้นมาหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่ได้กังวล และไม่ได้กลัวอะไร เพราะยืนยันในจุดยืนเดิม แต่ขออย่าถอยหลังกลับไปในปี 2519 และขออย่าตกเป็นเหยื่อของขบวนการไอโอ

 

ขณะที่การดูแลความปลอดภัย บริเวณพื้นหน้าศาลอาญา มีตำรวจศาล และเจ้าหน้าที่ รปภ.ของศาล กระจายกำลัง คอยสังเกตุการณ์และดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่บริเวณโดยรอบ

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ตะวัน