วันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

“ชยพล” จี้กองทัพเรือตอบให้ชัด จะกู้เรือหลวงสุโขทัยหรือไม่ หลังเรือล่มมาปีกว่า ถามเหตุใดไม่ให้สหรัฐฯ ช่วยกู้ทั้งลำ กลับจบแค่การปลดอาวุธ ย้ำต้องกู้เรือเท่านั้น ประชาชนจึงจะเห็นความจริง

 


ชยพล” จี้กองทัพเรือตอบให้ชัด จะกู้เรือหลวงสุโขทัยหรือไม่ หลังเรือล่มมาปีกว่า ถามเหตุใดไม่ให้สหรัฐฯ ช่วยกู้ทั้งลำ กลับจบแค่การปลดอาวุธ ย้ำต้องกู้เรือเท่านั้น ประชาชนจึงจะเห็นความจริง

 

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 ชยพล สท้อนดี สส.กรุงเทพฯ เขต 8 พรรคก้าวไกล แถลง Policy Watch หัวข้อ “นิราศ(เรือหลวง)สุโขทัย: จากเรือรบสู่ประการังเทียม?” ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล โดยชยพล ได้ไล่ไทม์ไลน์ของเรือหลวงสุโขทัยที่อับปางลงตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2565 พร้อมกับกำลังพลอีก 106 นาย ซึ่งขณะนั้นกองทัพเรือได้เดินเรือออกจากฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี มุ่งหน้าไปร่วมงานเทิดพระเกียรติพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เนื่องในวันครบรอบ 100 ปี วันคล้ายวันประสูติขององค์พระบิดาของกองทัพเรือไทย

 

พร้อมกันนี้ ชยพล ได้ยกการอภิปรายของอดีต สส.ก้าวไกลอย่าง พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ที่เคยอภิปรายถึงประเด็นการล่มของเรือหลวงสุโขทัยไว้ ว่าประกอบด้วยปัญหา 3 ประการ ไม่ว่าจะเป็น (1) สภาพอากาศ ในวันเกิดเหตุรายงานพยากรณ์อากาศของกองทัพเรือได้รายงานไว้ว่าคลื่มลมจะสูงประมาณ 2.5 เมตร และรายงานของเอกชนระบุไว้ว่าคลื่นจะสูงถึง 6 เมตร ถึงอย่างนั้นหากเรือหลวงสุโขทัยถูกบำรุงรักษาอย่างถูกต้องตามงบประมาณที่ขอไป ก็ไม่มีทางที่จะล่มได้อย่างแน่นอน (2) สภาพความพร้อมของเรือ เช่น สมอเรือ มอเตอร์ยังมีอาการขัดข้อง มาตรวัดในเรือใช้งานไม่ได้ เครื่องจักรสั่นสะเทือนผิดปกติ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าใช้งานได้ 3 จาก 4 เครื่อง และ (3) ความผิดพลาดของการสั่งการซึ่งจุดที่เรือหลวงสุโขทัยล่ม จะใกล้กับท่าเรือบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่เหตุใดถึงพยายามเดินเรือกลับไปสัตหีบจนอับปางในที่สุด

 

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการซ่อมบำรุงของเรือหลวงสุโขทัย เช่นเรื่องการซ่อมบำรุงแผ่นเหล็กที่ถูกกร่อนจนบางต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งซ่อมไปเพียง 5 จุดจาก 13 จุดที่มีปัญหา แล้วไปซ่อมอีก 10 จุดที่ไม่ได้มีปัญหาอะไร และมีคิวรอการซ่อมอยู่ถึง 19 รายการ

 

หลังเกิดเหตุการณ์ ตนอยากให้พี่น้องประชาชนลองคิดดูว่ากองทัพเรือนั้นคิดอย่างไร ถึงมีท่าทีทั้งขัดแย้งกันไปมาอยู่เสมอ เช่น หลังเกิดเหตุมีการเริ่มกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง และเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 กองทัพเรือได้เริ่มเปิดให้บริษัทได้ยื่นซองประมูลโครงการกู้เรือหลวงสุโขทัยเป็นครั้งแรก ผ่านไปเป็นเวลา 2 เดือนหลังจากวันที่เรือล่ม กองทัพเรือได้แจ้งว่าผลการสอบสวนมีความคืบหน้าไปกว่า 90% ซึ่งก็คือเสร็จกระบวนการในขั้นตอนของการสอบปากคำพยานทั้งหมดเกือบ 300 คน โดยเหลือเพียงแค่การกู้เรือเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบ

 

ซึ่งทางกองทัพเรือได้ให้ข่าวว่า คาดว่าจะเริ่มกู้เรือกันได้ในเดือนเมษายนปี 2566 เป็นอย่างช้า หลังจากผ่านไปกว่า 7 เดือน ในช่วงเดือนกันยายนปี 2566 จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการการทหาร ได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีการล็อคสเปคในการจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่ ทำให้ สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องออกมาขอสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

 

และในระหว่างวันที่ 21 กันยายน 2566 กองทัพเรือก็เริ่มต้นกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าเอกสารไม่ครบ ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ค้านสายตาคนรอบข้างมาก จน กมธ.การทหาร ต้องเชิญกองทัพเรือเข้าชี้แจง โดยชยพลตั้งคำถามว่า กองทัพเรือเองก็ย้ำมาตลอดว่าการกู้เรือเป็นภารกิจด่วน แล้วเหตุใดจึงล้มกระดานเสียเอง ทำให้ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่จากการเริ่มยื่นซองกันในช่วงเดือนตุลาคม 2566 ขัดกับที่กองทัพกล่าวไว้แต่แรก ว่าพร้อมเริ่มกู้เรือตั้งแต่เดือนเมษายน 2566

 

ชยพล กล่าวต่อว่า กระทั่งวันที่ 19 มกราคม 2567 ตนได้เปิดเอกสารจาก JUSMAGTHAI 2 ฉบับ ซึ่งมีเนื้อหาคือการทวงถามรายงานข้อเท็จจริงในกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง และการเตือนว่าตามสัญญาการใช้ยุทโธปกรณ์จากสหรัฐอเมริกา ก่อนจะให้บุคคลที่สามมายุ่งกับยุทโธปกรณ์ของสหรัฐได้ ต้องได้รับคำยินยอมจากรัฐบาลของสหรัฐฯ ก่อน และ JUSMAG ก็ได้ส่งหนังสือมาแจ้งกองทัพเรือไทย ให้ทำตามข้อตกลงการใช้อาวุธ โดยส่งหนังสือมาครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 แจ้งให้ส่งรายงานโดยระบุข้อมูลคือ “วันที่เกิดเหตุ ข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขข้อผิดพลาดโดยกองทัพเรือ และข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์”

 

ทางสหรัฐฯ รอคำตอบจากกองทัพเรือไทยมาเกือบปี ซึ่งหมายความว่าตลอด 1 ปี กองทัพเรือเตะถ่วงเรื่องการกู้เรือและล่าช้าในเรื่องการสรุปข้อเท็จจริงที่ควรต้องชี้แจงให้ประชาชนและประเทศคู่ค้าด้วย ขณะที่ในวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ผบ.ทร. ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความร่วมมือกับกองทัพเรือสหรัฐฯ ว่าจะร่วมมือกันลงไปสำรวจซากเรือหลวงสุโขทัย ลงไปถ่ายรูปสำรวจเก็บหลักฐาน พร้อมตามหาผู้สูญหายอีก 5 นายและปลดอาวุธเรือ แต่พอพูดถึงเรื่องการกู้เรือ กลับไม่มีระบุว่ากองทัพเรือสหรัฐฯ จะร่วมการกู้เรือครั้งนี้ หรือจะยังคงมีการกู้เรืออยู่หรือไม่

 

ทั้งที่กองทัพเรือได้เข้ามาชี้แจงในสภาฯ หลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าใน กมธ.การทหาร และกมธ.งบประมาณ 2567 ได้พูดถึงความตั้งใจจริงที่จะกู้เรือ โดยระบุความจำเป็นของการกู้เรือไว้ 3 ข้อ คือ (1) เพราะซากเรือขวางทางเดินเรือ (2) เพื่อตามหาผู้สูญหายอีก 5 นาย และ (3) เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการสรุปข้อเท็จจริง จึงจำเป็นต้องกู้อย่างเร่งด่วน เพื่อหาความจริงให้ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ และเพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุการล่มของเรือหลวงสุโขทัย จึงจะสามารถเปิดรายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดให้กับประชาชนได้

 

ต้องกู้เรือเท่านั้นถึงจะเห็นความจริง ต้องกู้เรือเท่านั้นถึงจะเปิดเผยรายงานได้ เข้าใจได้ว่ากองทัพเรือไทยไม่สามารถกู้เรือได้เอง แต่ไม่เข้าใจตรงที่เมื่อมิตรประเทศอย่างสหรัฐได้มาถึงที่แล้ว ทำไมให้ช่วยไม่สุดทาง ทำไมถึงจบแค่การปลดอาวุธ แต่ไม่กู้จิ๊กซอว์นี้ขึ้นมา หรือมันเพราะว่า สัญญาการใช้ยุทโธปกรณ์ของสหรัฐ จะครอบคลุมแค่เฉพาะกับยุทโธปกรณ์ หากมีการปลดอาวุธแล้ว ก็จะสิ้นสถานะการเป็นยุทโธปกรณ์ในทันที ซึ่งแปลว่า จะกู้หรือไม่กู้ จะรู้หรือไม่รู้ความจริง ก็ไม่มีใครมาบังคับได้อีกแล้ว

 

ชยพลกล่าวว่า ตนจึงต้องการย้ำว่าการกู้เรือเท่านั้นถึงจะเห็นความจริง ต้องกู้เรือเท่านั้นถึงจะเปิดเผยรายงานได้ เข้าใจได้ว่ากองทัพเรือไทยไม่สามารถกู้เรือได้เอง แต่ไม่เข้าใจตรงที่เมื่อมิตรประเทศอย่างสหรัฐฯ ได้มาถึงที่แล้ว เหตุใดไม่ให้สหรัฐฯ ช่วยอย่างสุดทาง ทำไมถึงจบแค่การปลดอาวุธ

 

หรือเพราะว่าสัญญาการใช้ยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ จะครอบคลุมเฉพาะเมื่อตัวเรือยังดำรงสภาพการเป็นยุทโธปกรณ์ หากมีการปลดอาวุธแล้ว ก็จะสิ้นสถานะการเป็นยุทโธปกรณ์ทันที ซึ่งแปลว่า จะกู้หรือไม่กู้ จะรู้หรือไม่รู้ความจริง ก็ไม่มีใครมาบังคับได้อีกแล้ว JUSMAG จะไม่ได้ดูแลเรือหลวงสุโขทัยอีกต่อไป ชะตากรรมของเรือหลวงสุโขทัยจะอยู่ในมือของกองทัพเรือไทยเท่านั้น” ชยพลกล่าว

 

ชยพลทิ้งท้ายว่า ตอนนี้ท่าทีของกองทัพเรือเอง ไม่มีความชัดเจนเลยว่าจะยังกู้เรืออยู่หรือไม่ ขัดกับคำพูดตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องขอให้กองทัพเรือออกมายืนยันให้ชัด ว่าสรุปแล้วเราจะได้รู้ความจริงเมื่อใดกันแน่

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เรือหลวงสุโขทัย #ก้าวไกล