ชาวปัตตานีต้อนรับอบอุ่น
‘ธนาธร’ ขอโอกาสพรรคก้าวไกลนำพาสันติสุขสู่ชายแดนใต้ เชิดชูความแตกต่างหลากหลาย
เป็นจุดเริ่มต้นสร้างประเทศที่ดี
วันที่
1 พฤษภาคม 2566 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล
รณรงค์หาเสียงที่อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โดยขึ้นรถแห่รอบเมืองร่วมกับผู้สมัคร
ส.ส. พรรคก้าวไกล จังหวัดปัตตานีทั้ง 2 เขต ได้แก่ ชาญชัย
ศรีสุด ผู้สมัคร ส.ส.ปัตตานี เขต 1 (เบอร์ 10) และ อับดุลเราะมัน สายาเดะ ผู้สมัคร ส.ส.ปัตตานี เขต 2 (เบอร์ 1) โดยมีรอมฎอน ปันจอร์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
พรรคก้าวไกล
อดีตอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ฯ
ร่วมปราศรัยด้วย
ธนาธร
ได้เชิญชวนพี่น้องชาวปัตตานี ให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม
โดยระหว่างปราศรัย ได้กล่าวขอโอกาสให้พรรคก้าวไกลเข้ามาแก้ไขปัญหาให้พี่น้องสามจังหวัดชายแดนใต้
ทั้งประเด็นสันติภาพและเศรษฐกิจปากท้อง
"คนไทยคือใคร จากเหนือล่องลงมา ติดชายแดน คนเหนือคือกะเหรี่ยง ปกาเกอะญอ
ลัวะ ม้ง ถ้าขยับมาทางอีสาน ไม่ว่าฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวา ก็ลาวหมด บางเมืองอย่างนครพนม
มุกดาหาร ก็มีคนเวียดด้วย ขยับลงมาหน่อยบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ก็เป็นเขมร
ในระหว่างทางไปดูริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีจีนอพยพ ในกรุงเทพฯ มีทั้งแขกเปอร์เซีย
อินเดีย ลงมาภาคใต้ แถวระนอง มีคนไทยพลัดถิ่น ลงมาหน่อยมลายูพุทธ มลายูมุสลิม
ตกลงอะไรคือคนไทยกันแน่" ธนาธรกล่าว
ธนาธรกล่าวว่า
จุดยืนของพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะเป็นใครก็อยู่ในสังคมเดียวกัน
ต้องมีสิทธิเสรีภาพเหมือนกัน ต้องได้รับบริการจากรัฐที่เหมือนกัน
ได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรมเสมอภาคกัน ไม่เกี่ยวข้องว่าจะรวยหรือจน
ไม่เกี่ยวข้องว่าจะนับถือศรัทธาแบบใด ไม่เกี่ยวข้องว่าจะมาจากจังหวัดไหน
หรือมีเพศสภาพแบบใด ทุกคนต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
นั่นคือขั้นพื้นฐานที่เรียบง่ายที่สุด ถ้าไม่มีเรื่องต่างๆ เหล่านี้
ไม่ต้องพูดถึงเสรีภาพ ไม่ต้องพูดความเจริญก้าวหน้า นี่คือจุดยืนของพรรคก้าวไกล
และนี่คือเหตุผลว่าทำไมพรรคก้าวไกลถึงเรียกร้องระบบที่ดีที่สุด
ที่จะสร้างความเสมอภาค ไม่ว่าคุณจะมีเชื้อชาติ สัญชาติอะไร
นี่คือจุดเริ่มต้นของการสร้างประเทศที่ดี
เราต้องไม่บังคับให้ทุกคนเหมือนกัน แต่จะเชิดชูความแตกต่างหลากหลาย
ต้องยอมรับว่าสังคมที่มีประชากรขนาด 66 ล้านคน ไม่มีทางที่ทุกคนจะมีศรัทธาเหมือนกันได้
ไม่มีทางที่ทุกคนจะคิดเหมือนกันได้ ต้องยอมรับความแตกต่างหลากหลาย
เราจะอยู่ในสังคมนี้อย่างสันติสุขได้
ด้วยการไม่เลือกปฏิบัติและประกันสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกอย่างเท่าเทียมจากรัฐ
ธนาธร
กล่าวว่า ขอโอกาสให้พรรคก้าวไกลเข้าไปสร้างการเปลี่ยนแปลง
และทำให้การเมืองแบบนี้เป็นการเมืองทางหลัก ไม่ใช่ทางเลือก พรรคก้าวไกล
จะไม่ทำการเมืองด้วยการข่มขู่และความกลัว โดยการจะปักธงแบบนี้ได้
จำเป็นที่ผู้สมัครก้าวไกลต้องได้รับชัยชนะ เพื่อพิสูจน์ว่าการเมืองแบบนี้เป็นไปได้
ดังนั้น 14
พฤษภาคมนี้ อนาคตประเทศอยู่ในมือของทุกคน
อยากเห็นอนาคตลูกหลานเป็นอย่างไร ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน
ด้านรอมฎอน
ซึ่งติดตามปัญหาชายแดนใต้มาตั้งแต่ปี 2547 กล่าวว่า
ภายใต้วิธีคิดแบบทหารนำอย่างที่ผ่านมา
ไม่มีความหวังที่จะหาข้อยุติจากความขัดแย้งตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นทวดได้
มีแต่วิธีการที่ก้าวไกลนำเสนอเท่านั้นที่จะนำไปสู่การสร้างสันติภาพ
คือการใช้ระบบรัฐสภาของไทยเข้ามาแก้ปัญหา รวมถึงสปิริตแบบพรรคก้าวไกล
ที่ยืนกรานเรื่องพื้นฐานที่สุดว่าทุกคนเท่ากัน ดังนั้นเลือกตั้งครั้งนี้
ประชาชนต้องเลือกเพื่อกำหนดอนาคตของสามจังหวัดชายแดนใต้ หากไม่เลือกเพื่อเปลี่ยน
ชายแดนใต้คงไม่อาจเบ่งบานไปมากกว่านี้ได้
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เลือกตั้ง66