“ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน" ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อคำวินิจฉัย #ศาลรัฐธรรมนูญ ปม การเสนอแก้ไข #ม112 เป็นการล้มล้างการปกครอง
วันนี้
(1 กุมภาพันธ์ 2567) ที่เพจเฟซบุ๊ก
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เผยแพร่แถลงการณ์
กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 31 ม.ค.
ที่ผ่านมา ความว่า
แถลงการณ์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเสนอแก้ไขกฎหมายมาตรา
112 เป็นการล้มล้างการปกครอง
จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในวันที่
31 มกราคม 2567 ว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
และพรรคก้าวไกลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ
มาตรา 49 วรรคหนึ่ง และสั่งการให้ทั้งสอง
1. เลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา
และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
2.ไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ
ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง
และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561
มาตรา 74
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นองค์กรให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนจากการใช้อำนาจรัฐหลังการรัฐประหาร
2557 และประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง
รวมถึงการถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา
เห็นถึงปัญหาของบทบัญญัติและการบังคับใช้มาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา
ซึ่งหากนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 – 31 มกราคม 2567
มีผู้ถูกดำเนินคดีไม่น้อยกว่า 263 ราย
จากจำนวน 288 คดี
มีความกังวลอย่างยิ่งต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
และมีความเห็นต่อคำวินิจฉัยและผลกระทบจากคำวินิจฉัยดังต่อไปนี้
1.
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
นั้นมีลักษณะเป็นการก้าวล่วงอำนาจนิติบัญญัติ กล่าวคือ
การเสนอให้แก้ไขกฎหมายนั้นเป็นกระบวนการตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้โดยเฉพาะตามรัฐธรรมนูญ
ร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการรอการพิจารณา
ยังไม่ถึงขั้นรับหลักการ ร่างดังกล่าวอาจผ่านการพิจารณาหรือไม่
หรือมีการแก้ไขไปจนแตกต่างจากร่างเดิมก็ได้
ซึ่งทั้งหมดเป็นอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรร่วมกัน
มิใช่อำนาจของผู้เสนอกฎหมายในการแก้ไขกฎหมายได้หากไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร
นอกจากนี้หากร่างกฎหมายดังกล่าวมีลักษณะเป็นการล้มล้างการปกครองก็ไม่อาจผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
และวุฒิสภา
รวมถึงพระมหากษัตริย์ก็ทรงอำนาจในการยับยั้งร่างกฎหมายที่ไม่ทรงเห็นชอบได้ชั่วคราว
อีกทั้งรัฐธรรมนูญ 2560
ยังมีกลไกในการตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายทั้งก่อนและภายหลังการบังคับใช้
ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่ร่างกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่งจะผ่านการพิจารณาหากไม่ได้รับความเห็นชอบจากกระบวนการดังกล่าว
การใช้อำนาจตามมาตรา
49 รัฐธรรมนูญ สั่งให้เลิกไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
จึงเป็นการก้าวก่ายการใช้อำนาจนิติบัญญัติซึ่งมีกลไกในการตรวจสอบไว้โดยเฉพาะแล้ว
ขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจ
ซึ่งมีผลกระทบกระเทือนต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างร้ายแรง
การเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 112
ยังเป็นการใช้สิทธิในการที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารรัฐกิจตาม
ข้อ 25 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
หรือ ICCPR ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติอธิบายว่า
“การบริหารรัฐกิจ”
หมายรวมถึงสิทธิของประชาชนในการใช้อำนาจนิติบัญญัติหรืออำนาจในฐานะสมาชิกของฝ่ายนิติบัญญัติ
และสิทธิที่จะ “เลือกหรือเปลี่ยนรัฐธรรมนูญ
หรือการตัดสินประเด็นสาธารณะผ่านการทำประชามติ”
2.
ตามมาตรา 49 วรรคสองของรัฐธรรมนูญ
ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจสั่งได้เพียงให้เลิกการกระทำ
ซึ่งหมายถึงการกระทำที่เกิดขึ้นแล้ว
แต่คำวินิจฉัยดังกล่าวศาลรัฐธรรมนูญยังวินิจฉัยรวมไปถึงการกระทำในอนาคตในการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา
112 ซึ่งอาจแตกต่างไปจากข้อเสนอของพรรคก้าวไกลก็เป็นได้
การสั่งอย่างคลุมเครือว่า ห้ามเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ
จึงเป็นคำสั่งที่เกินกว่าอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้
แม้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นเด็ดขาดและผูกพันองค์กรรัฐ
แต่คำวินิจฉัยดังกล่าวย่อมไม่กระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั่วไปในการรณรงค์ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา
รวมถึงสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวด้วยเช่นกัน
3.
การแก้ไขประมวกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น
ไม่เป็นการกระทบกระเทือนต่อสถานะของสถาบันกษัตริย์ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พ.ศ. 2560 รับรองไว้ในหมวด 1 และหมวด 2
หากมีการแก้ไขหรือแม้กระทั่งยกเลิกมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา
ก็ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองหรือพระราชอำนาจ
และพระมหากษัตริย์ก็ยังได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายที่บุคคลใด ๆ จะดูหมิ่น
หมิ่นประมาทไม่ได้ เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป ซึ่งมิใช่การล้มล้างการปกครอง
4.
การเป็นนายประกันให้กับบุคคลซึ่งถูกดำเนินคดีตามกฎหมายนั้นเป็นการสนับสนุนให้บุคคลเข้าถึงสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราวอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามมาตรา
29 รัฐธรรมนูญ และตามข้อ 14 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
หรือ ICCPR ซึ่งผลร้ายที่สุดของบุคคลที่เข้านายประกันคือต้องสูญเสียจำนวนเงินตามวงเงินประกันหากจำเลยหลบหนี
การที่ศาลรัฐธรรมนูญนำข้อเท็จจริงดังกล่าวมาพิจารณาประกอบว่าพรรคก้าวไกลล้มล้างการปกครอง
อันเป็นผลร้ายกับนายประกันเกินกว่าที่คาดหมาย อาจทำให้บุคคลทั่วไปไม่กล้าเป็นนายประกันคดีอาญา
ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิทธิในการได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมของผู้ถูกดำเนินคดีอาญาอื่น
ๆ ในอนาคตอีกด้วย
5.
การเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งได้รับการคุ้มครองภายใต้
ข้อ 19 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
หรือ ICCPR เนื่องจากเป็นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับปัญหาของมาตรา
112 และเป็นการแสดงความเห็นว่ามาตรา 112 ควรได้รับการแก้ไข
เพราะเหตุนี้
ศาลรัฐธรรมนูญจะออกคำสั่งจำกัดสิทธิดังกล่าวมิได้
เว้นแต่อาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
และแสดงให้เห็นว่าการจำกัดมีความจำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ที่บัญญัติไว้ในข้อ 19(3) ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
หรือ ICCPR เช่น การรักษาความมั่นคงของชาติ
ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้แสดงความเห็นว่า
กฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกต้องไม่ถูกบังคับใช้เพื่อปกปิดข้อมูลที่เป็นประโยชน์สาธารณะ
หรือเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายกับนักกิจกรรม หรือนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
โดยการอ้างว่ากระทำไปเพื่อรักษาความมั่นคงของชาติ หากต้องการจำกัดสิทธิดังกล่าว
ศาลรัฐธรรมนูญต้องพิสูจน์ความสัมพันธ์ระหว่างการเสนอแก้ไขมาตรา 112 และภัยอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
ขอยืนยันสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ว่าบุคคลทั่วไปยังสามารถสะท้อนปัญหา วิจารณ์
รณรงค์ให้มีการแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายซึ่งกระทบต่อสิทธิเสรีภาพประชาชน
อันรวมถึงมาตรา 112
ประมวลกฎหมายอาญาด้วยเช่นเดียวกัน
ด้วยความเคารพต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #TLHR #ศาลรัฐธรรมนูญ #ม112 #ล้มล้างการปกครอง