วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

“ณัฐวุฒิ” ชี้! ทางรอดประเทศ ต้องมีรัฐบาลฝ่ายปชต. “เพื่อไทย” ต้องแลนด์สไลด์เท่านั้นจึงจะได้จัดตั้งรัฐบาล

 


“ณัฐวุฒิ” ชี้! ทางรอดประเทศ ต้องมีรัฐบาลฝ่ายปชต. “เพื่อไทย” ต้องแลนด์สไลด์เท่านั้นจึงจะได้จัดตั้งรัฐบาล


วันนี้ (9 พ.ย. 2565) ที่เพจเฟซบุ๊ก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้โพสต์จาก “หัวใจไม่หยุดเต้น EP.55” ถึงทางรอดของประเทศคือต้องมีรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย และพรรคเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์เท่านั้น  จึงจะได้จัดตั้งรัฐบาล ถ้าไม่แลนด์สไลด์ “ณัฐวุฒิ” ฟันธงว่าเป็นฝ่ายค้านล้านเปอร์เซ็นต์! โดยมีรายละเอียดดังนี้


หัวใจไม่หยุดเต้น EP.55


“ทางรอดของประเทศคือต้องมีรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย”


ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า 3ป จะแตกตัวออกเป็นอย่างน้อยสองพรรค “พลังประชารัฐ” กับ “รวมไทยสร้างชาติ”


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเดินหน้าล่าฝันของตัวเอง ทำแฮตทริกนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่สาม สถานการณ์แบบนี้เท่ากับว่าผู้กุมอำนาจเดินหน้าเข้าสู่สนามเลือกตั้ง อากัปอาการมั่นใจ ไม่กังวลกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 23 พฤศจิกายน


ลักษณะแบบนี้แสดงออกให้จับสังเกตได้ครั้งหนึ่งแล้วนะครับ นั่นคือก่อนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี ของตัวพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งขณะนั้นกลุ่มผู้มีอำนาจชุดนี้ไม่มีความไหวหวั่นเช่นเดียวกัน


ถ้าบรรยากาศของการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหลังจากการประชุมเอเปค สิ่งที่จะต้องเป็นแน่ ๆ คือรัฐบาลนี้จะไม่มีทางอยู่ครบเทอม หากพล.อ.ประยุทธ์เดินเข้า “พรรครวมไทยสร้างชาติ” จริง เท่ากับว่าต้องมีเวลายุบสภาให้องคาพยพ เช่น สุชาติ ชมกลิ่นและชาวคณะ มีเวลาลาออกจาก “พรรคพลังประชารัฐ” เข้าไปสังกัดพรรคใหม่ให้ทันกับวันเลือกตั้ง ซึ่งนั่นหมายความว่าต้องยุบสภาก่อนครบวาระแน่ ๆ


ส่วนพล.อ.ประวิตร ถ้ายังปักหลักอยู่กับ “พรรคพลังประชารัฐ” คงได้เห็นลูกน้องคนสนิทอย่าง “ผู้กองธรรมนัส” กลับเข้าไปร่วมทางกันอีกครั้ง


การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงมีสองฝ่าย นั่นก็คือ ฝ่ายประชาธิปไตย และฝ่ายอำนาจนิยม เข้าชิงชัยกัน โจทย์สำคัญของ “พรรคเพื่อไทย” คือต้องแลนด์สไลด์เท่านั้นจึงจะได้จัดตั้งรัฐบาล ถ้า “เพื่อไทย” ไม่แลนด์สไลด์ เป็นฝ่ายค้านล้านเปอร์เซ็นต์!


ที่ฟันธงแบบนี้เพราะแม้ว่า 3ป จะแยกพรรคกันจริง แต่ประโยชน์และอำนาจทางการเมืองจะทำให้คนกลุ่มนี้สามารถจะกลับมาจับมือกันเดินใหม่ได้ตลอดเวลา ประวิตรกับประยุทธ์จะเหยียบตาปลากันยังไงก็ตาม แต่ถ้า “เพื่อไทย” ไม่แลนด์สไลด์จะเกิดปรากฏการณ์ขี้หมูไหลรวมขั้วรัฐบาลให้เห็นแน่ ๆ


แล้วที่ยึดอำนาจกันมา ร่างกติกาสืบทอดอำนาจ ตั้งพรรคการเมือง ขัดแย้งกันภายในจนต้องแตกพรรคแตกตัวกันออกมา เหลือเวลาแค่ 2 ปี จะเดินหน้าอยู่ต่อ ทั้งหมดทั้งหลายนี้ถ้าพูดว่าทำเพื่อประชาชน ก็แสดงว่าโกหกเต็มคาราเบล


ถ้า “เพื่อไทย” ไม่แลนด์สไลด์ “พลังประชารัฐ” กับ “รวมไทยสร้างชาติ” และพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันจะได้รับการสนับสนุนจากส.ว. 250 คน เป็นรัฐบาลต่อทันที


ในทางกลับกัน หาก “เพื่อไทย” แลนด์สไลด์ จะบวกคะแนนกับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยตั้งรัฐบาลได้เช่นเดียวกัน ไม่มีความจำเป็นต้องจับมือกับ “พลังประชารัฐ” ไม่มีความจำเป็นต้องจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลใด ๆ ในชุดปัจจุบัน


มีคำถามว่าแม้จะแลนด์สไลด์โดย “เพื่อไทย” ได้ แต่ 250 ส.ว. จะยอมยกมือโหวตให้หรือไม่? ผมเชื่อว่า 250 ส.ว. วันนี้กำลังเฝ้าดูสถานการณ์ หาก “เพื่อไทย” ตัวแทนของฝ่ายประชาธิปไตยได้คะแนนเสียงเกินครึ่งในสภาผู้แทนราษฎร จะมีจำนวนไม่น้อยหันมายกมือตามเจตนารมณ์ของประชาชน ไม่มีทางที่จะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยเข้าไปแล้วถูกล้มในสภาผู้แทนราษฎร


ดังนั้น ภาพที่จะเกิดขึ้นในโลกของความเป็นจริงหลังการเลือกตั้งคราวนี้ จะมีรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย หรือไม่ก็จะมีรัฐบาลฝ่ายสืบทอดอำนาจโดยคนกลุ่มเดิมเท่านั้น


สำหรับ “พรรคเพื่อไทย” นี่คือการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่สุด และนี่คือโอกาสสุดท้ายหากได้เป็นรัฐบาล ถ้าไม่สามารถจะแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนได้ ครั้งต่อไปอาจจะกลายเป็นพรรคพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้ง


ในทางกลับกัน ถ้าหาก “เพื่อไทย” ได้รับชัยชนะเป็นรัฐบาล แล้วสามารถจะแก้ไขปัญหา นำพาประเทศออกจากวิกฤตได้ ก็จะเป็นพรรคการเมืองใหญ่อันดับหนึ่งไปอีกนาน


สิ่งสำคัญในทุกก้าวย่างของ “พรรคเพื่อไทย” วันนี้ จึงคือการรักษาศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชน จะเสี่ยงกับเกมไหนก็เสี่ยงได้ แต่ไม่สามารถจะเสี่ยงกับศรัทธาของประชาชนโดยเด็ดขาด


กระแสข่าวการจับมือกับพรรคการเมืองบางพรรค กระแสข่าวการรับนักการเมืองบางคนเข้าพรรค จึงเป็นเรื่องเล่าเรื่องลือเรื่องวิเคราะห์กันไป


แต่ในการตัดสินใจสุดท้าย ผมเชื่อว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยืนอยู่กับหลักการประชาธิปไตย จะไม่ทำอะไรที่ฝืนศรัทธาประชาชน


ทหาร 3ป กลุ่มนี้อยู่มา 8 ปี คิดจะเฉือนแผ่นดินขายกันแล้วนะครับ ทางรอดเดียวของประเทศคือต้องมีรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย!


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ณัฐวุฒิใสยเกื้อ #หัวใจไม่หยุดเต้น