#16ปีนวมทองไพรวัลย์ : ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ท่านที่เคารพครับ
เรามารวมกันตรงนี้ทุกปีตลอด 16 ปีที่ผ่านมา
เพื่อประกาศยืนยันว่าการตัดสินใจอย่างยิ่งใหญ่ของชายชื่อ “นวมทอง ไพรวัลย์”
คือการตัดสินใจที่ต้องได้รับการเคารพ คารวะ สดุดี และระลึกถึงไปตลอดกาลนาน
16
ปีที่แล้ว ก่อนวันที่ 19 กันยายน 2549
สังคมไทยไม่เคยรู้จักชายคนขับแท็กซี่คนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ทำมาหากินสุจริต
เลี้ยงชีพเลี้ยงครอบครัว แต่หลังจากการรัฐประหาร ชายคนนี้ตัดสินใจขับแท็กซี่เครื่องมือทำกินพุ่งชนรถถัง
ประกาศต่อต้านเผด็จการสุดกำลัง เราจึงได้รับรู้ว่าประเทศนี้มีหัวใจแบบนี้เป็นหัวใจของนักสู้ชื่อ
“ลุงนวมทอง ไพรวัลย์”
ถัดจากลุงนวมทอง
สังคมการเมืองไทยยังคงมีการขัดแย้ง ก็ปรากฏคนแสดงตัวเป็นลุงขึ้นอีกหลายคน จากลุงนวมทองหลายปีต่อมามีคนประกาศตัวว่าเป็น
“ลุงกำนัน” จนปัจจุบันมีคนประกาศตัวว่า “ลุงตู่” “ลุงป้อม” อย่างที่เรารับรู้กัน
เพียงแต่ใครจะเป็นลุงชื่ออะไร บทบาทไหนก็ตาม สำหรับฝ่ายประชาธิปไตย สำหรับประชาชนผู้รักหลักการที่ถูกต้อง
ถ้าจะมีลุงสักคนอยู่ในหัวใจไปตลอดกาลนาน ลุงคนนั้นต้องชื่อ “ลุงนวมทอง ไพรวัลย์”
ผู้เสียสละอย่างกล้าหาญ ณ ที่ตรงนี้เมื่อ 16 ปีที่แล้วอย่างแน่นอน
ลุงนวมทองจากไปแล้ว
16 ปี ยังมีคนระลึกถึง ยังมีคนห่วงหาอาทร ลุงบางคนอยู่มาแล้ว 8 ปี
มีแต่คนบอกว่าให้ออกไปตั้งแต่บัดนี้
นี่คือความแตกต่างและมันจะคงแตกต่างเช่นนี้ตราบเท่าที่ยังมีผู้ฝักใฝ่เผด็จการยืนเผชิญหน้ากับผู้เชื่อมั่นในประชาธิปไตยบนผืนแผ่นดินไทย
ผมเรียนพี่น้องว่า
การมาจัดงานรำลึกกันทุกปีที่เราทำกันอยู่ ความหมายของมันไม่ใช่แค่นาน ๆ เจอกันที
แต่ความหมายของมันคือการพิสูจน์ยืนยันว่าจิตวิญญาณแบบนี้ไม่เคยตาย
ว่าจิตวิญญาณอุดมการณ์แบบนี้มีอยู่จริง นายทหารบางคนในกองทัพไม่เคยรู้จัก
ไม่เคยยอมรับ เราก็เลยต้องมาทำทุกปี
ให้คนใหญ่คนโตในประเทศนี้ยอมรับให้ได้ว่าบ้านเมืองนี้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
หัวใจและอุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่ไม่จำเป็นต้องมากับดาวเต็มบ่า
ไม่จำเป็นต้องมากับอำนาจบังคับบัญชาใด ๆ ลุงนวมทองสั่งรถถังไม่ได้ จับได้แต่พวงมาลัยแท็กซี่
แต่สั่งหัวใจตัวเองได้ว่าจะไม่ยอมแพ้และเป็นปฐมบทของวีรบุรุษตัวจริงของการต่อสู้ทางการเมืองในประเทศไทย
16 ปีที่ผ่านมา
ผมพูดทุกปีต่างกรรมต่างวาระว่าสำหรับผม
16 ปีที่ยืนสู้อยู่บนถนนเส้นนี้
ใครคือวีรบุรุษผู้กล้าที่ผมให้ความเคารพคารวะที่สุด คำตอบของผมยังคงเป็นคนเดียวและคำตอบเดิมจนปัจจุบัน
คือ “นวมทอง ไพรวัลย์”
ดังนั้นท่านที่เคารพครับ
วันนี้หวังใจว่าประชาชนผู้สัญจรไปมา ผู้คนที่ติดตามข่าวสาร
ตลอดจนคนหนุ่มสาวรุ่นลูกรุ่นหลานที่มากันวันนี้ คนที่ทราบแล้วเขาจะได้เชื่อมั่น
คนที่ไม่ทราบเขาจะได้ถามไถ่ค้นคว้าหาข้อมูลกัน
หรือแม้กระทั่งคนที่คิดต่างเขาจะได้ปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่าคนที่รักประชาธิปไตยจนถึงขั้นยอมแลกด้วยชีวิตมีอยู่จริง
และเป็นสัจจะที่ไม่มีเผด็จการที่ไหนลบล้างได้
เรียนพี่น้องนะครับ
ว่าภารกิจของเรามันไม่ใช่ภารกิจเพียงแค่การรำลึกสดุดีกันรอบปีเท่านั้น
ภารกิจอย่างสำคัญของเรายังมีอีกเรื่องใหญ่คือการติดตามทวงถามความยุติธรรมให้กับพี่น้องประชาชนผู้บาดเจ็บล้มตายจากการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย
โดยเฉพาะโศกนาฏกรรมที่มีผู้สูญเสียมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
คือการต่อสู้ของคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 บางช่วงเวลาก็มีคนถามผมว่าจะทำต่อหรือไม่?
บางช่วงเวลาก็มีคนถามผมว่ายากลำบากขนาดนี้จะเดินหน้าอย่างไร?
ก็เรียนพี่น้องให้ได้ทราบตรงกันนะครับ
ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด เป็นนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ธรรมดา เป็นแกนนำนปช. เป็นส.ส.
เป็นรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย
สำหรับผมภารกิจในการทวงถามความยุติธรรมให้คนเจ็บคนตายจากการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมันไม่ใช่คำถาม
มันไม่ใช่คำตอบ แต่มันเป็นหน้าที่ติดตัวติดชีวิตที่จะต้องทำและเดินหน้า
แล้วก็เรียนว่าได้เดินหน้า ได้พยายามพูดคุยทำความเข้าใจกับหลาย ๆ
ส่วนที่เกี่ยวข้องคืบหน้าไปแล้วพอสมควร
เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจะได้ใช้โอกาสนั้นเล่าให้พี่น้องทราบว่าเราจะเดินหน้ากันต่อไปอย่างไร?
ภารกิจนี้ไม่ใช่ภารกิจผมหรือใครทำลำพังนะครับ
แต่เป็นภารกิจที่หลายคนหลายฝ่ายยังคงช่วยกัน ยังคงจับมือแล้วก็เดินหน้าไปด้วยกัน
อีกประการต่อมาก็อยากจะเรียนพี่น้องว่า
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นนะครับ ขอให้ยังคงเชื่อมั่นว่าหลักการที่ถูกต้องจะไม่มีวันพ่ายแพ้
ขอให้ยังคงเชื่อมั่นว่าถึงที่สุดบ้านเมืองนี้ก็จะต้องเดินไปตามวิถีทางประชาธิปไตย
ถ้าหากเราเดินมาไม่ถูกทางจริง สังคมไทยคงไม่มีสัญญาณของความเปลี่ยนแปลงคืบหน้ามาเรื่อย
ๆ จนถึงขนาดนี้ มันไม่ใช่ความสำเร็จ ผลงาน หรือเครดิตเฉพาะส่วนของบุคคลหรือองค์กรใด
ๆ แต่มันเป็นความสำเร็จร่วมกันของคนไทยทั้งประเทศ ว่าเมื่อรู้ความจริง
สัมผัสข้อมูล เข้าใจหลักการ เข้าถึงเหตุผล เราแม้ว่าจะมีวิถีทางที่แตกต่าง
มีวิธีคิดที่ไม่เหมือนกันบ้าง แต่ถึงที่สุดก็หันหน้าไปทางเดียวกันคือแนวทางประชาธิปไตย
ขอขอบคุณพี่น้องทุกคนทุกท่านนะครับ
พรรคที่ร่วมอุดมการณ์ที่ยังมาร่วมกันตรงนี้ คนหนุ่มคนสาวก็เห็นมากันหลายคน
พรรคการเมือง พรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทย
ตลอดจนทุกพรรคฝ่ายประชาธิปไตยแม้ว่าไม่ได้มา แต่ผมเชื่อว่าเราก็มีหัวใจร่วมกัน
และก็ขอขอบคุณกรุงเทพมหานครนะครับ
ถ้าพี่น้องจะสังเกตว่าปีนี้เรามาทำกิจกรรมก็มีการเอื้อเฟื้อจากกรุงเทพมหานครเอารถสุขามาบริการ
ทราบว่าวันสองวันก่อนมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตมาคอยดูแลเรื่องพื้นที่เพราะว่าบริเวณนี้กำลังเป็นพื้นที่ก่อสร้าง
นี่ก็เป็นรหัสสัญญาณหนึ่งว่ามีตัวแทนของประชาชนที่มาจากการเลือกตั้งเขาจะเข้าใจ
เขาจะเคารพในการแสดงออกของประชาชน
แตกต่างจากอำนาจหรือผู้ดำรงตำแหน่งที่มาจากเผด็จการ
เรื่องรถสุขากทม.
เรื่องพี่น้องที่มา เรื่องมวลชนเยาวชนคนหนุ่มสาวก็ได้กล่าวขอบคุณไปหมดแล้ว
ยังเหลืออีกส่วนหนึ่งที่ต้องกล่าวคารวะและขอบคุณ
และอยากจะเชิญชวนทุกคนส่งหัวใจขอบคุณด้วย คือขอบคุณภรรยาและลูก ๆ ของลุงนวมทอง
ไพรวัลย์ 16 ปี ที่กำลังหลักและผู้นำครอบครัวจากไป
คุณพี่บุญชูกับลูกสาวและลูกชายก็ยังคงดำรงชีวิตอย่างเข้มแข็งด้วยเกียรติยศศักดิ์ศรีของผู้เป็นสามีและผู้เป็นพ่อ
และยังคงยืนหยัดเคียงข้างกับประชาชนผู้ร่วมต่อสู้จนถึงขณะนี้ ปรบมือให้กับครอบครัวไพรวัลย์สักครั้งเถอะครับ
ขอบคุณครับ
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #นวมทองไพรวัลย์