'รังสิมันต์ โรม' ประณามรัฐบาล ใช้ความรุนแรงสลาย'ม็อบราษฎรหยุดเอเปค' จี้ หาผู้เกี่ยวข้องมาลงโทษ เล็ง ชงเรื่องกมธ.
วันนี้ (20 พ.ย. 2565) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวประณามรัฐบาลใช้ความรุนแรงกับประชาชนและสื่อมวลชน ในการสลายการชุมนุมราษฎรหยุดเอเปค 2022 พร้อมทั้งมีการจับกุมประชาชน 25 คน และบางส่วนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งที่หนักสุดคือ นายพายุ บุญโสภณ หรือ พายุ ดาวดิน ที่ถูกยิงกระสุนยางเข้าที่บริเวณดวงตา ซึ่งมีโอกาสน้อยมากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกลับมามองเห็นได้เหมือนเดิม รวมถึงมีสื่อมวลชนถูกทำความรุนแรงทั้ง ๆ ที่มีปลอกแขนและแสดงตัวชัดเจนว่าเป็นสื่อมวลชน
โดยพบการประทุษร้ายโดยเจ้าหน้าที่ต่อสื่อมวลชนที่เข้าไปทำข่าวในพื้นที่ เช่น นักข่าว The Matter ถูกตำรวจควบคุมฝูงชนทำร้ายและมีการกล่าววาจาในลักษณะของการระบายอารมณ์ใส่ ทั้งที่สวมปลอกแขนสื่อชัดเจน และบอกกล่าวกับเจ้าหน้าที่แล้วว่าเป็นสื่อ กรณีนักข่าวพลเมือง The Isaan Record ถูกตำรวจเข้าทำร้ายร่างกายและจับกุมทั้งที่บอกกล่าวกับเจ้าหน้าที่แล้วว่า เป็นสื่อ กรณีนักข่าว Reuters ถูกปาขวดแก้วจากหลังแนวโล่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา ความรุนแรงเหล่านี้ไม่น่าเชื่อเลยว่าเกิดขึ้นจากคนไทยที่กระทำต่อคนไทยด้วยกัน
พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนเรื่องนี้ อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลและหยุดการใช้กฎหมายเพื่อกลั่นแกล้งประชาชน ต้องมีการยกเลิกข้อกล่าวหาที่กำลังดำเนินคดีต่อประชาชน ข้อเสนอนี้ไม่ใช่มีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น แต่รวมไปถึงพนักงานอัยการที่มีอำนาจในการมีคำสั่งไม่ฟ้อง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 142 ทำความเห็นเสนอต่ออัยการว่าเห็นควรไม่สั่งฟ้อง ส่วนอัยการมีอำนาจตามมาตรา 143 ที่จะออกคำสั่งไม่ฟ้องได้
"รัฐบาล ควรรับฟังประชาชน ไม่ควรปล่อยให้มีการใช้อำนาจเพื่อทำร้ายประชาชนอย่างที่เป็นอยู่ ผมในฐานะกรรมาธิการการกฎหมายฯ จะขอนำกรณีการสลายการชุมนุมครั้งนี้ และการละเมิดสิทธิอื่น ๆ ในระหว่างการประชุม APEC เข้าพิจารณาใน กมธ. โดยเร่งด่วน"
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ราษฎรหยุดAPEC2022 #ก้าวไกล