พรุ่งนี้!
ภาคีนักกฎหมายฯ จะยื่นคำร้องขอศาลแพ่ง เรียกตัวแทน สตช. ไต่สวน กรณี คฝ. ใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม
วานนี้
(20 พ.ย. 2565) ที่เพจ ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ได้มีการเคลื่อนไหวหลังจากม็อบ #18พฤศจิกา65
ผู้ชุมนุมกลุ่ม #ราษฎรหยุดAPEC2022
ถูกเจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม จนมีผู้ชุมนุม สื่อมวลชน ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
บางรายถึงขั้นอาจต้องสูญเสียการมองเห็น โดยภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน
ได้โพสต์ข้อความว่า
ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนยื่นคำร้องต่อศาลขอให้เรียกตัวแทน
สตช. มาไต่สวน กรณี คฝ.สลายการชุมนุมจนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
วันอังคารที่
22 พฤศจิกายน 2565 นี้ เวลา 10.00 น.
ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนจะยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง
ขอให้ศาลเรียกตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)
มาไต่สวนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.)
ใช้กำลังสบายการชุมนุมด้วยความรุนแรงจนประชาชนจำนวนมาก
รวมทั้งสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บ และในหลายรายได้บาดเจ็บร้ายแรง
โดยจะยื่นคำร้องต่อศาลในคดีแพ่ง หมายเลขดำที่ พ.3683/2564 ระหว่าง นายธนาพล เกิ่งไพบูลย์
กับพวกรวม 2 คน เป็นโจทก์ฟ้อง สตช.
เรียกค่าเสียหายในทางแพ่งจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564
ซึ่งศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 ว่า “ให้จำเลยที่ 1
ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการชุมนุมและสลายการชุมนุมโดยคำนึงความปลอดภัยของโจทก์ทั้งสองและสื่อมวลชนภายใต้หลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติงานของสื่อมวลชน”
แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา คฝ.
ยังคงใช้กำลังสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงและไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของสื่อมวชลที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่การชุมนุม
ซึ่งถือเป็นการละเมิดคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาล
ทั้งนี้
นับแต่ปี 2563 ที่ผ่านมา คฝ. ได้ใช้กำลังสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงและใช้อำนาจเกินขอบเขตของกฎหมาย
หากพิจารณาจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยาง นับแต่การชุมนุมในช่วงปี 2563
ถึงปัจจุบัน มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยาง
เท่าที่มีข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน, iLaw และ
Mob Data Thailand จำนวนมากกว่า 65 ราย และเป็นการเล็งยิงกระสุนยางไปบริเวณศีรษะมากถึง
25 ราย โดยพบกรณีเด็กอายุ 13 ปี มีแผลที่กลางหน้าผาก
และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากกระสุนยางอย่างน้อย 5 ราย อยู่ในอาการอัมพาต 1
ราย นอกจากนี้ยังมีเยาวชนที่บาดเจ็บจากกระสุนยาง โดยมีอย่างน้อย 5
รายที่ถูกกระสุนยางยิงช่วงศีรษะ
และมีผู้ที่สูญเสียการมองเห็นจากการใช้กระสุนยางจากการปฏิบัติหน้าที่ของ คฝ. จำนวน
3 ราย ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาแต่ไม่สูญเสียการมองเห็นมากกว่า 5 ราย
แต่กลับไม่ปรากฏข้อมูลว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ
คฝ. ที่ก่อให้เกิดความเสียหายดังกล่าวได้ถูกสอบสวน
ถูกตรวจสอบหรือดำเนินการทางวินัยใด ๆ แม้คดีนี้จะมีการฟ้องศาล
เพื่อขอให้ศาลใช้อำนาจตุลาการตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่ คฝ.
รวมทั้งตรวจสอบการควบคุมดูแลสั่งการของผู้บังคับบัญชา
ตลอดจนนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ปัญหาการใช้ความรุนแรงของ คฝ.
ต่อประชาชนและสื่อมวลชนก็ไม่ได้ถูกปรับปรุงแก้ไข ยังคงมีพฤติกรรมกระทำความผิดซ้ำซาก
และก่อให้เกิดผลกระทบต่อทั้งผู้ชุมนุม สื่อมวลชน
รวมถึงผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมมาอย่างต่อเนื่องโดยปราศจากการแก้ไขปรับปรุงพฤติกรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของ
คฝ. อย่างจริงจังทั้งจากผู้บังคับบัญชาและจากนโยบาย
ภายหลังการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน
(คฝ.) ก็ปรากฏว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ออกมาแถลง หรือให้ข้อมูลต่อสาธารณะว่ามีความจำเป็นต้องใช้กำลัง
และสื่อมวลชนต้องใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ หรือแม้กระทั่งกล่าวโทษสื่อมวลชนว่าไม่อยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้ให้
เป็นต้น โดยไม่เคยแสดงการขอโทษ
หรือแถลงมาตรการในการปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเอง และไม่เคยแสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดกับประชาชนและสื่อมวลชนจากการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองและผู้ใต้บังคับบัญชาแต่อย่างใด
โดยเฉพาะข้อมูลการดำเนินการสอบสวนทางวินัยกับเจ้าหน้าที่
คฝ. ที่ใช้กำลังทำร้ายประชาชน หรือข้อมูลคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ คฝ.
ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะได้รับการอบรมสั่งสอนให้ควบคุมอารมณ์ของตนเองให้ได้ก่อน
ข้อมูลเหล่านี้ไม่เคยถูกแถลงให้ปรากฏต่อสาธารณชนจากผู้มีอำนาจบังคับบัญชาแต่อย่างใด
การยื่นคำร้องขอให้ศาลเรียกตัวแทน
สตช. มาไต่สวนในครั้งนี้ ภาคีฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีส่วนช่วยในการปรับปรุงพฤติกรรมการใช้อำนาจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและใช้อำนาจตามอำเภอใจของทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
คฝ. และผู้บังคับบัญชีที่มีพฤติกรรมสนับสนุน
ให้ท้ายการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองจนก่อให้เกิดพฤติกรรมกร่างและใช้ความรุนแรงในการปฏิบัติหน้าที
สร้างความเสียหายแก่ประชาชนและหลักประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างต่อนเองตลอดมา
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน
#ราษฎรหยุดAPEC2022
#ม็อบ18พฤศจิกา65