วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

วันนี้ บ่ายโมงครึ่ง “ส.ส.เจี๊ยบ” ขึ้นสน.นางเลิ้ง ตามหมายเรียก หลังทราบว่าถูกออกหมายจับ คดีหมิ่นนายกฯ เผยไม่มีความกังวลใจใด ๆ และไม่มีความจำเป็นต้องหลบหนี!

 


วันนี้ บ่ายโมงครึ่ง “ส.ส.เจี๊ยบ” ขึ้นสน.นางเลิ้ง ตามหมายเรียก หลังทราบว่าถูกออกหมายจับ คดีหมิ่นนายกฯ เผยไม่มีความกังวลใจใด ๆ และไม่มีความจำเป็นต้องหลบหนี!


วานนี้ (13 พ.ย. 2565) ที่ เฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ ส.ส.เจี๊ยบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์แจ้งการเดินทางไปรายงานตัวที่ สน.นางเลิ้ง ตามหมายเรียก หลังจากได้ทราบข่าวว่าศาลได้อนุมัติหมายจับ ในคดีโพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2564 ด้วยข้อความว่า “โจรอุ้มโจร เจ้าข้าเอ้ย ใช่เลย นายกโจรอุ้มเด็กเดินยา นายกก็ปล้นเขามา เจ้าข้าเอ้ย #อยากฟ้องก็ฟ้องมาเลยเจ้าข้าเอ๋ย”


ซึ่งนายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการตรวจสอบและดำเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีและการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือ คตส. ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ 32/2563 ได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ให้ดำเนินคดีกับ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ได้โพสต์ข้อความลงในบัญชีทวิตเตอร์ซึ่งเปิดบัญชีแบบสาธารณะ บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้


โดยวานนี้ ส.ส.เจี๊ยบ ได้โพสต์ข้อความว่า คดีหมิ่นประมาทนายกไม่ใช่คดีที่มีอัตราโทษร้ายแรงอะไร ดิฉันไม่มีความกังวลใจใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องคิดหลบหนี (ไม่คิดหลบหนีในทุกคดีแม้จะไม่มีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม)


ก่อนจะไปรายงานตัวที่สน.นางเลิ้งเพื่อขอให้ศาลปลดล็อคหมายจับในวันพรุ่งนี้ (14) เวลา 13.30 น.ขอชี้แจงคร่าว ๆ ต่อผู้สนใจสอบถามมาดังนี้


หากใครติดตามข่าวจะทราบว่าที่สน.นางเลิ้ง เต็มไปด้วยคดีความเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทนายกรัฐมนตรีที่นายอภิวัฒน์ ขันทอง ลูกน้องคุณประยุทธ์ เป็นผู้เข้าแจ้งความกับบุคคลจำนวนมาก เท่าที่นึกได้เร็ว ๆ อาทิเช่น คุณฮาร์ท สุทธิพงศ์ คุณมิลลิ คุณจอห์น วิญญู อ.ยุกติ มุกดาวิจิตร ฯลฯ


สำหรับตัวดิฉันได้รับหมายเรียกรัว ๆ แทบนับไม่ถ้วนจากสน.นี้ จนสับสนไม่รู้คดีไหนเป็นคดีไหน คดีไหนเรียกเป็นครั้งที่เท่าไหร่งงไปหมด โดยเฉพาะวันหลังจากการอภิปรายในสภาจะมีมาเป็นพิเศษ


ดิฉันไม่ได้บิดพริ้วที่ผ่านมาเคยไปรายงานตัวตามหมายเรียกสน.นางเลิ้งมาแล้ว ไปให้ปากคำพิมพ์ลายนิ้วมือ และสน.นางเลิ้งนำตัวดิฉันส่งฟ้องอัยการ ซึ่งก็ไปตามนัดขณะนี้คดีนั้นอยู่ในชั้นอัยการ


หลังจากนั้นดิฉันทำงานในสภา ในกมธ. งานบริหารพรรค และงานเดินสายพบสมาชิกรวมทั้งกิจกรรมทางการเมืองที่สำคัญทั้งในกทม.และตจว.แทบไม่มีวันหยุดพัก


1. หมายเรียกคดีหมิ่นประมาทจากสน.นางเลิ้งหลายครั้งส่งไม่ถึงมือ เพราะที่อยู่ปัจจุบันกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้านเป็นคนละหลังกัน

2. หลายครั้งดิฉันขอให้ทนายแจ้งทางสน.ขอเลื่อนนัดออกไปเพราะไปตรงกับกำหนดการไปตจว.

3. ครั้งหนึ่งมีปัญหาสุขภาพต้องเข้าผ่าตัดที่รพ.พญาไท 2 ก็แจ้งขอเลื่อนไป และต่อมาเมื่อเปิดสมัยประชุมก็ขอใช้เอกสิทธิ์สส.ไม่ไปรายงานตัวตามหมายเรียก

ขณะแอดมิทหลังผ่าตัดที่รพ. แพทย์แจ้งว่ามีจนท.ตำรวจสน.นางเลิ้งตามมาตรวจสอบกับแพทย์เจ้าของไข้ถึงที่รพ.ว่าผ่าตัดจริงหรือไม่


หลังเปิดสมัยประชุมล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา แม้ดิฉันสามารถใช้เอกสิทธิ์สส.ไม่ต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาก็ได้ (ดิฉันยังไม่ทราบว่าถูกศาลออกหมายจับแล้ว)


แต่สัปดาห์นี้ (14-18 พ.ย.) มีการงดประชุมสภาทั้งสัปดาห์เนื่องจากการประชุมเอเปค ดิฉันเห็นเป็นโอกาสดีมีเวลาว่างไม่มีคิวงานตจว. จึงรีบแจ้งทนายให้ติดต่อกับทางสน.นางเลิ้งเพื่อขอเข้ารายงานตัวตามหมายเรียกในวันที่ 14 พ.ย.เวลาบ่ายโมงครึ่ง


หลังทนายโทรไปนัด วันรุ่งขึ้นจึงทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่าดิฉันถูกศาลออกหมายจับก่อนหน้าไปแล้ว (พึ่งทราบจากสื่อมวลชนเหมือนกันว่าหมายจับออกตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 65)


ในตอนแรกทนายติดต่อจะขอไปสน.ในวันที่ 15 แต่หลังวางสายเช็คตารางงานอีกทีพบว่าว่าไม่สะดวก จึงโทรไปขอเปลี่ยนเป็นวันที่ 14 เวลาบ่ายโมงครึ่งแทน ช่วงเวลาชั่วครู่เดียวเท่านั้นก่อนจะขอเปลี่ยนวันจาก 15 เป็น 14 จนท.ตำรวจสน.นางเลิ้งก็รีบแพร่กระจายข่าวต่อสื่อมวลชนไปแล้ว


ในข่าวจึงลงวันที่นัดหมายผิดวันเป็นวันที่ 15 จะถือว่าจนท.ตำรวจสน.นางเลิ้งมีความกระตือรือร้นในการติดตามคดีหมิ่นประมาทนายกฯ อย่างผิดสังเกตได้หรือไม่


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คดีหมิ่นนายก