วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

จับกุม “จินนี่” ดูหมิ่นศาลคดีที่ 2 เหตุปราศรัยหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ ก่อนศาลไม่ให้ประกัน ระบุเป็นอันตรายร้ายแรงต่อศาล

 


จับกุม "จินนี่" ดูหมิ่นศาลคดีที่ 2 เหตุปราศรัยหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ ก่อนศาลไม่ให้ประกัน ระบุเป็นอันตรายร้ายแรงต่อศาล


เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2565 เวลา 13.55 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งว่า จิรัชยา สกุลทอง หรือ “จินนี่” อายุ 54 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจาก สน.ยานนาวา รวม 8 นาย ได้สนธิกำลังเข้าจับกุมที่บริเวนหน้าห้างโรบินสัน ถนนเจริญกรุง ซึ่งขณะนั้นจิรัชยากำลังขับจักรยานยนต์กลับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังจากที่ไปติดตามเรื่องที่กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ยื่นถอนประกันนักกิจกรรมการเมืองที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ 


หลังให้จิรัชยาจอดรถแล้ว ตำรวจได้แสดงหมายจับและอ่านให้ฟัง ระบุว่า เป็นการจับกุมตามหมายจับที่ จ.677/2565 ออกโดยศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2565 ในข้อหา ดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี, หมิ่นประมาทโดยการโฆษณาฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนแจ้งว่าจะพาตัวไปทำบันทึกจับกุมที่ สน.ยานนาวา และได้ให้จิรัชยานั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ของตำรวจเพื่อไปที่ สน.ยานนาวา


อย่างไรก็ตาม หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมควบคุมตัวจิรัชยาไปถึง สน.ยานนาวา แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งว่าจะพาจิรัชยาไปที่สโมสรตำรวจแทน ก่อนจะพาไปขึ้นรถกระบะสี่ประตู โดยมีตำรวจนอกเครื่องแบบนั่งประกบอยู่ในรถด้วย 


เวลา 14.05 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับเปลี่ยนเส้นทางกลับมาที่ สน.ยานนาวา เหมือนเดิม โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถวนที่บริเวณถนนสาธรหลายครั้ง สืบเนื่องจากมีกลุ่ม ศปปส. อยู่จำนวนหนึ่งรออยู่บริเวณหน้า สน.ยานนาวา   


สำหรับบันทึกการจับกุมระบุว่า การจับกุมอยู่ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ วุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 รักษาราชการแทน ผู้กำกับ สน.ยานนาวา โดยมีจุดจับกุมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ยานนาวา รวมทั้งสิ้น 8 นาย


ในชั้นจับกุม จิรัชยาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และปฏิเสธจะลงลายมือชื่อในบันทึกจับกุม แต่ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และประสงค์ให้มีทนายความอยู่ร่วมในกระบวนการด้วย 


สำหรับพฤติการณ์คดี พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา บรรยายโดยสรุปว่า ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตํารวจได้จับกุมตัว "ไบร์ท" ชินวัตร จันทร์กระจ่าง ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทําความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112  จากเหตุเข้าร่วมปราศรัยกิจกรรมเรียกร้องขอคืนสิทธิการประกันตัวให้ "บุ้ง-ใบปอ" นักกิจกรรมทะลุวัง โดยพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ได้ยื่นคําร้องขอฝากขังชินวัตรต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2565


ต่อมา จิรัชยาได้นําเหตุที่ศาลออกพิจารณาคําร้องฝากขังของพนักงานสอบสวน มากล่าวปราศรัยโดยใช้เครื่องขยายเสียงที่หน้าศาลแพ่งกรุงเทพใต้


พนักงานสอบสวนระบุว่า คำปราศรัยมีข้อความที่เป็นการดูหมิ่นศาลหรือหมิ่นประมาทศาลหรือผู้พิพากษาที่ทำให้ได้รับความเสียหาย


พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาจิรัชยา 3 ข้อหา ได้แก่ “ดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198, “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณาฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 และ “ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง มาตรา


หลังจากสอบคำให้การเสร็จสิ้นแล้ว จิรัชยาได้ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.ยานนาวา 1 คืน ก่อนในวันที่ 26 พ.ย. 2565 พนักงานสอบสวนได้ยื่นขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัวโดยระบุว่า คดีมีอัตราโทษสูง ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีในความผิดลักษณะเดียวกันมาก่อน เกรงว่าจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานบุคคลในคดีนี้


ด้านทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยวางเงินสดจำนวน 70,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ เป็นหลักประกัน


เวลา 13.13 น. ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระบุว่า 

.

พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าการที่ผู้ต้องหากล่าวข้อความ ดูหมิ่นเหยียดหยาม และใส่ร้ายผู้พิพากษาหรือศาล ด้วยถ้อยคำหยาบคายและไม่เป็นจริง เพื่อประสงค์กดดันการทำงานของศาล ต้องการใช้กฎหมู่ให้อยู่เหนือกฎหมายในเรื่องการพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว ทำให้เห็นว่าผู้ต้องหากระทำการโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ถือเป็นอันตรายร้ายแรงต่อศาลในการปฏิบัติหน้าที่ หากปล่อยตัวไปเกรงว่าจะไปก่อภัยอันตราย หรือสร้างความเสียหายที่เกิดจากการปล่อยชั่วคราว ทั้งคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวไปเกรงว่าจะหลบหนี จึงมีคำสั่งไม่อนุญาต ยกคำร้อง”


หลังศาลอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาและไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างสอบสวน ทำให้เย็นวันนี้จิรัชยาจะถูกส่งตัวไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลางทันที ซึ่งเป็นการหวนเข้าสู่เรือนจำครั้งที่ 2 หลังเคยถูกขังระหว่างสอบสวนอยู่นาน 9 วัน ในคดีดูหมิ่นศาลคดีแรก ระหว่างวันที่ 26 ส.ค. – 3 ก.ย. 2565 


อนึ่ง สำหรับคดีนี้นับเป็นคดี “ดูหมิ่นศาล” ที่จิรัชยาถูกกล่าวหาคดีที่ 2 แล้ว โดยก่อนหน้านี้เธอเคยถูกจับกุมและคุมขังในคคีดูหมิ่นศาล จากเหตุจากการปราศรัยวิจารณ์การทำงานของศาล ระหว่างกิจกรรมเรียกร้องสิทธิการประกันตัวของ “บุ้ง-ใบปอ” ที่หน้าศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2565 ก่อนที่ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว และกำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นในลักษณะเดียวกันนี้อีก 


ที่มา : เพจศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ดูหมิ่นศาล