วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

"ธนาธร" ชวนจับตา 29-30 พ.ย. ร่าง"ปลดล็อกท้องถิ่น" เข้าสู่รัฐสภา ชวนส.ส.-ส.ว.รับร่าง เพื่อปลดล็อคศักยภาพของประเทศ ให้หลุดพ้นจากการเป็นประเทศกำลังพัฒนา "พิธา-ไอติม" ชี้ การกระจายอำนาจทำให้ประเทศเดินหน้า


"ธนาธร" ชวนจับตา 29-30 พ.ย. ร่าง"ปลดล็อกท้องถิ่น" เข้าสู่รัฐสภา ชวนส.ส.-ส.ว.รับร่าง เพื่อปลดล็อคศักยภาพของประเทศ ให้หลุดพ้นจากการเป็นประเทศกำลังพัฒนา "พิธา-ไอติม" ชี้ การกระจายอำนาจทำให้ประเทศเดินหน้า

 

วันนี้ (25 พ.ย. 65) ที่อาคารอนาคตใหม่ คณะก้าวหน้าร่วมกับพรรคก้าวไกล จัดกิจกรรมพบปะสื่อมวลชนเพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยกรณีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 14 การปกครองท้องถิ่น หรือร่าง “ปลดล็อกท้องถิ่น” จากแคมเปญ"ขอคนละชื่อ ปลดล็อกท้องถิ่น" นำโดยคณะก้าวหน้า ที่ได้มีการล่ารายชื่อและดำเนินการมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อมุ่งแก้ปัญหาระบบราชการรวมศูนย์ และกระจายอำนาจคืนสู่ประชาชน ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวันที่ 29-30 พ.ย. 65

 

ด้านธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะหนึ่งในผู้ยื่นเสนอร่าง กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นที่ร่างกฎหมายจะได้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา เราต้องการทำเรื่องนี้ให้สำเร็จเพื่อปลดล็อกศักยภาพของประเทศไทยให้หลุดพ้นจากการเป็นประเทศกำลังพัฒนา

 

ธนาธร ได้กล่าวย้ำว่า หลักใหญ่ใจความของร่างดังกล่าว เป็นการจัดสรร "คน-อำนาจ-เงิน" ให้เป็นธรรมต่อท้องถิ่น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาเจอคำพูดที่ว่า อยู่มากี่ปีก็เหมือนเดิม เลือกตั้งก็เหมือนเดิม ถ้ากระจายอำนาจได้ ตัวกลางที่จะกั้นระหว่างประชาชนกับงบประมาณ ก็จะเหลือแค่บัตรเลือกตั้งเท่านั้น ที่จะทำให้ท้องถิ่นดีขึ้นได้แน่นอน

 

ปัจจุบันสภาพสังคมเป็นระบบอุปถัมภ์ ที่ต้องวิ่งเต้นเพื่อให้เข้าถึงงบประมาณ ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญของเราที่จะเสนอมีการเอาอำนาจงบจัดสรรให้เป็นธรรม โดยเรื่องนี้เป็นความตั้งใจจริง ที่ดำเนินการตั้งแต่เดือน เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งแม้อาจมีหลายมาตราที่อาจไม่ถูกใจหลาย ๆ คน แต่ขอให้รับหลักการไปก่อน แล้วค่อยแก้ในรายละเอียดในวาระ 2-3 ต่อ จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนติดตามการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่  29-30 พฤศจิกายนนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสมาชิกสภาฯ และวุฒิสภา จะเข้าใจและเห็นพลังของท้องถิ่นในการส่งเสริมความก้าวหน้าของประเทศ

 

ขณะที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มองว่า การกระจายอำนาจ คือการปลดล็อคทางเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้การต่อสู้กับปัญหาให้รวดเร็วมากขึ้น และเป็นการลดคอรัปชั่น ทำให้การแก้ไขปัญหาของประชาชนทำได้เร็วขึ้น

 

พิธา ระบุว่า นี่เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ เพราะในขณะนี้ มีปัญหาอย่างเช่นงบประมาณ ส่วนกลางมีสัดส่วน 87% ขณะที่ท้องถิ่นมีแค่ 13% โดยที่กรุงเทพฯ เอง จะมีขนาดใหญ่กว่าเทศบาลที่อยู่ในลำดับถัดไปถึง 20 เท่า ต่างจากอังกฤษหรือญี่ปุ่นที่จะต่างกันแค่ 2-3 เท่า

 

พิธายังเปิดเผยถึง ในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ย. 65) พรรคก้าวไกลจะเปิดตัวนโยบาย “ทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า” โดยจะมีการเผย"โรดแม็ป" ในเรื่องการกระจายอำนาจหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว

 

ด้านพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการรณรงค์สื่อสารนโยบาย พรรคก้าวไกล ระบุว่า การกระจายอำนาจคือการกระจายทั้งงาน เงิน และคนไปสู่ท้องถิ่น เพื่อให้มีอำนาจและทรัพยากรเพียงพอในการพัฒนาพื้นที่ หัวใจของการกระจายอำนาจคือการเพิ่มอำนาจประชาชนในการตัดสินใจว่าโครงการที่จะทำในพื้นที่ควรเป็นโครงการใด งบประมาณในพื้นที่ควรนำไปใช้อย่างไร หรือผู้บริหารสูงสุดของจังหวัดควรเป็นใคร โดยสิ่งที่ต้องทำควบคู่กับการกระจายอำนาจคือการสร้างกลไกที่ทำให้ประชาชนร่วมตรวจสอบการทำงานของท้องถิ่นได้ เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องคอร์รัปชัน เพิ่มความโปร่งใสของท้องถิ่น

 

โดยวันที่ 29-30 พฤศจิกายน จะมีการพิจารณาร่างกฎหมาย "ปลดล็อกท้องถิ่น" ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งจะมีธนาธรเข้าไปชี้แจงในที่ประชุมด้วย

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ปลดล็อคท้องถิ่น