"ธนาธร"
ชวนจับตา 29-30 พ.ย. ร่าง"ปลดล็อกท้องถิ่น" เข้าสู่รัฐสภา
ชวนส.ส.-ส.ว.รับร่าง เพื่อปลดล็อคศักยภาพของประเทศ
ให้หลุดพ้นจากการเป็นประเทศกำลังพัฒนา "พิธา-ไอติม" ชี้
การกระจายอำนาจทำให้ประเทศเดินหน้า
วันนี้
(25 พ.ย. 65) ที่อาคารอนาคตใหม่ คณะก้าวหน้าร่วมกับพรรคก้าวไกล
จัดกิจกรรมพบปะสื่อมวลชนเพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยกรณีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด
14 การปกครองท้องถิ่น หรือร่าง “ปลดล็อกท้องถิ่น” จากแคมเปญ"ขอคนละชื่อ
ปลดล็อกท้องถิ่น" นำโดยคณะก้าวหน้า
ที่ได้มีการล่ารายชื่อและดำเนินการมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
เพื่อมุ่งแก้ปัญหาระบบราชการรวมศูนย์ และกระจายอำนาจคืนสู่ประชาชน
ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวันที่ 29-30 พ.ย. 65
ด้านธนาธร
จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะหนึ่งในผู้ยื่นเสนอร่าง กล่าวว่า
รู้สึกตื่นเต้นที่ร่างกฎหมายจะได้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา
เราต้องการทำเรื่องนี้ให้สำเร็จเพื่อปลดล็อกศักยภาพของประเทศไทยให้หลุดพ้นจากการเป็นประเทศกำลังพัฒนา
ธนาธร
ได้กล่าวย้ำว่า หลักใหญ่ใจความของร่างดังกล่าว เป็นการจัดสรร "คน-อำนาจ-เงิน"
ให้เป็นธรรมต่อท้องถิ่น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาเจอคำพูดที่ว่า
อยู่มากี่ปีก็เหมือนเดิม เลือกตั้งก็เหมือนเดิม ถ้ากระจายอำนาจได้
ตัวกลางที่จะกั้นระหว่างประชาชนกับงบประมาณ ก็จะเหลือแค่บัตรเลือกตั้งเท่านั้น
ที่จะทำให้ท้องถิ่นดีขึ้นได้แน่นอน
ปัจจุบันสภาพสังคมเป็นระบบอุปถัมภ์
ที่ต้องวิ่งเต้นเพื่อให้เข้าถึงงบประมาณ
ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญของเราที่จะเสนอมีการเอาอำนาจงบจัดสรรให้เป็นธรรม
โดยเรื่องนี้เป็นความตั้งใจจริง ที่ดำเนินการตั้งแต่เดือน เมษายนที่ผ่านมา
ซึ่งแม้อาจมีหลายมาตราที่อาจไม่ถูกใจหลาย ๆ คน แต่ขอให้รับหลักการไปก่อน
แล้วค่อยแก้ในรายละเอียดในวาระ 2-3 ต่อ
จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนติดตามการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 29-30 พฤศจิกายนนี้
และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสมาชิกสภาฯ และวุฒิสภา
จะเข้าใจและเห็นพลังของท้องถิ่นในการส่งเสริมความก้าวหน้าของประเทศ
ขณะที่
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มองว่า การกระจายอำนาจ
คือการปลดล็อคทางเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ
ทำให้การต่อสู้กับปัญหาให้รวดเร็วมากขึ้น และเป็นการลดคอรัปชั่น
ทำให้การแก้ไขปัญหาของประชาชนทำได้เร็วขึ้น
พิธา
ระบุว่า นี่เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ เพราะในขณะนี้
มีปัญหาอย่างเช่นงบประมาณ ส่วนกลางมีสัดส่วน 87% ขณะที่ท้องถิ่นมีแค่ 13%
โดยที่กรุงเทพฯ เอง จะมีขนาดใหญ่กว่าเทศบาลที่อยู่ในลำดับถัดไปถึง 20 เท่า
ต่างจากอังกฤษหรือญี่ปุ่นที่จะต่างกันแค่ 2-3 เท่า
พิธายังเปิดเผยถึง
ในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ย. 65) พรรคก้าวไกลจะเปิดตัวนโยบาย “ทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า”
โดยจะมีการเผย"โรดแม็ป"
ในเรื่องการกระจายอำนาจหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล ทั้งระยะสั้น กลาง และยาว
ด้านพริษฐ์
วัชรสินธุ ผู้จัดการการรณรงค์สื่อสารนโยบาย พรรคก้าวไกล ระบุว่า
การกระจายอำนาจคือการกระจายทั้งงาน เงิน และคนไปสู่ท้องถิ่น
เพื่อให้มีอำนาจและทรัพยากรเพียงพอในการพัฒนาพื้นที่
หัวใจของการกระจายอำนาจคือการเพิ่มอำนาจประชาชนในการตัดสินใจว่าโครงการที่จะทำในพื้นที่ควรเป็นโครงการใด
งบประมาณในพื้นที่ควรนำไปใช้อย่างไร หรือผู้บริหารสูงสุดของจังหวัดควรเป็นใคร
โดยสิ่งที่ต้องทำควบคู่กับการกระจายอำนาจคือการสร้างกลไกที่ทำให้ประชาชนร่วมตรวจสอบการทำงานของท้องถิ่นได้
เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องคอร์รัปชัน เพิ่มความโปร่งใสของท้องถิ่น
โดยวันที่
29-30 พฤศจิกายน จะมีการพิจารณาร่างกฎหมาย "ปลดล็อกท้องถิ่น"
ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งจะมีธนาธรเข้าไปชี้แจงในที่ประชุมด้วย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ปลดล็อคท้องถิ่น