วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

“รังสิมันต์ โรม” เยือนอีสาน เปิดเวทีพบปะประชาชน ชี้ ประเทศไทยเหมือนคนป่วยหนัก ไม่แตะทุนผูกขาด-ปฏิรูปกองทัพ-แก้รัฐธรรมนูญ ก็เหมือนป้อนพาราเลี้ยงไข้ จะแก้ปัญหาได้ต้องผ่าตัดใหญ่ทะลุทุกโครงสร้าง ชู “ก้าวไกล” พร้อมเป็นหมอผ่าตัดใหญ่โครงสร้างประเทศ

 


“รังสิมันต์ โรม” เยือนอีสาน เปิดเวทีพบปะประชาชน ชี้ ประเทศไทยเหมือนคนป่วยหนัก ไม่แตะทุนผูกขาด-ปฏิรูปกองทัพ-แก้รัฐธรรมนูญ ก็เหมือนป้อนพาราเลี้ยงไข้ จะแก้ปัญหาได้ต้องผ่าตัดใหญ่ทะลุทุกโครงสร้าง ชู “ก้าวไกล” พร้อมเป็นหมอผ่าตัดใหญ่โครงสร้างประเทศ

 

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2565 รังสิมันต์ โรม โฆษกและ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมเดินสายเปิดเวทีพบปะประชาชนและผู้สนับสนุนในพื้นที่อีสานตอนบน หนองบัวลำภู อุดรธานี และหนองคาย พูดคุยและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน พร้อมแนะนำวิสัยทัศน์นโยบายของพรรค

 

ช่วงหนึ่งในการพูดคุยกับประชาชน “รังสิมันต์ โรม” ได้บอกถึงความมุ่งมั่นที่จะทำงานการเมืองของว่า พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่มุ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยอย่างแท้จริง และการจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้ ต้องดำเนินนโยบายที่แก้ปัญหาให้ถึงระดับโครงสร้างเท่านั้น เปรียบเหมือนประเทศไทยเป็นคนป่วยเรื้อรัง แต่ที่ผ่านมาได้รับแต่ยาพาราเซตามอล ทั้งที่ต้องการการผ่าตัดใหญ่ให้หายขาด

 

“รังสิมันต์ โรม” กล่าวว่า “สำหรับพรรคก้าวไกลนั้น หากได้เป็นรัฐบาลสิ่งที่เรามุ่งมั่นจะเข้าไปทำแน่ ๆ คือการทลายทุนผูกขาด แก้รัฐธรรมนูญ ปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร ทลายระบบส่วยเส้นสาย สร้างระบบสวัสดิการถ้วนหน้า และการนิรโทษกรรมคดีการเมืองรวมทั้งมาตรา 112 เพื่อนำไปสู่การผ่าตัดประเทศไทยครั้งใหญ่”

 

“ที่ผ่านมามีคนพยายามบอกว่าอยากให้เรามุ่งเรื่องปากท้องก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งไปแตะการเมือง แต่สิ่งที่เป็นข้อเท็จจริงคือปัญหาเศรษฐกิจกับปัญหาการเมืองล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันโดยตรง แยกออกจากกันไม่ได้” รังสิมันต์ โรม กล่าว

 

“รังสิมันต์ โรม” ย้ำว่า “ไม่ว่าจะมีนโยบายเศรษฐกิจที่ดีแต่ไหน แต่ถ้าไม่มีการเข้าไปแตะต้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของชนชั้นนำด้วยการทลายทุนผูกขาด ประชาชนก็ไม่อาจลืมตาอ้าปากได้อย่างเต็มที่ ถ้าไม่ทลายอำนาจทางการเมืองของชนชั้นนำ การแทรกแซงการเมืองด้วยการรัฐประหารหรือเปลี่ยนรัฐบาลด้วยกลไกตามรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยก็จะเกิดขึ้นได้อีก”

 

“การมองแต่ปัญหาปากท้อง โดยไม่แก้ปัญหาการเมืองไปพร้อม ๆ กัน ก็เหมือนประเทศไทยที่ผ่านมาเหมือนได้แต่กินยาพาราจนตับเริ่มจะพังแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราต้องผ่าตัดให้ถึงโครงสร้าง ที่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนเปลี่ยนรัฐบาล แต่คือการเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นของพวกเราจริง ๆ” รังสิ มันต์ โรม กล่าว

 

ช่วงท้ายการพบปะประชาชน “รังสิมันต์ โรม” กล่าวว่า “คนจำนวนมากมักมองว่าพรรคก้าวไกลนำเสนอประเด็นอย่างแหลมคมเกินไป อาจนำไปสู่การยุบพรรคได้ แต่อยากให้มองกลับกัน ว่าการยุบพรรคที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็มีพรรคที่ไม่ได้ทำอะไรอย่างแหลมคมถูกยุบไปก็มาก จะเห็นได้ว่าหากชนชั้นนำต้องการยุบพรรคใดๆ ก็ล้วนแต่หาเหตุผลมายุบได้ทั้งนั้น”

 

“พรรคก้าวไกลกลับมองว่าผู้แทนประชาชนที่แท้จริงจะต้องพูดให้ประชาชนเห็นปัญหาอย่างตรงไปตรงมาต่างหากจึงจะถูกต้อง” รังสิมันต์ กล่าวในที่สุด

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล