“นักศึกษามุสลิม”
เข้าร้องยูเอ็น หลัง ตร.บุกค้น-คุมตัว 3 นักศึกษา ม.ราม โดยไม่แจ้งข้อหา
อ้างเตรียมก่อความวุ่นวายช่วงเอเปค ยันไม่เกี่ยวข้อง แค่เตรียมอาสา
ชี้เป็นการคุกคาม
วันนี้
(16 พ.ย. 2565) บริเวณหน้าอาคารองค์การสหประชาชาติ หรือ
UN ตัวแทนจากองค์การบริหารนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง
ชมรมนักศึกษามุสลิมมหาวิทยาลัยรามคำแหง สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย
รวมถึงกลุ่มนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้
จึงได้ร่วมกันเดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ
สืบเนื่องจากในวันที่
14-19 พ.ย. 2565
ซึ่งทราบกันดีว่าประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC)
ทำให้เจ้าหน้าที่มีการเตรียมการและมาตรการตรึงกำลังเพื่อเฝ้าระวัง
สังเกตการณ์และดูแลความเรียบร้อย
โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีกลุ่มนักศึกษาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้
เห็นว่าทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรึงกำลังเป็นพิเศษ ซึ่งลักษณะของเจ้าหน้าที่ ได้มีการตรวจและถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน
เยี่ยมที่พักอาศัย รวมถึงเหตุการณ์ในเช้าวันนี้ (16 พ.ย.) เวลาประมาณ 6.10 น. ได้มีการควบคุมตัวเพื่อนนักศึกษาไปยัง สน.หัวหมาก จำนวน 3 ราย โดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่มีการแจ้งข้อหา แต่กล่าวหาว่าจะก่อความไม่สงบในช่วงประชุมเอเปค
โดยตัวแทนกลุ่มยืนยันว่า
กิจกรรมของนักศึกษามีเพียงการเตรียมจัดค่ายอาสาพัฒนาชนบท ที่ จ.ยะลา เท่านั้น
ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการจัดประชุมเอเปคแต่อย่างใด
นักศึกษาบางรายยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่ามีการประชุมเอเปค
แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฏิบัติต่อผู้ถูกคุมตัวอย่างให้เกียรติ
แต่มองว่าการบุกค้นที่พักและคุมตัวโดยขาดมูลเหตุเช่นนี้อาจเข้าข่ายการคุกคาม
ทั้งนี้
นักศึกษาที่ถูกควบคุมตัว 3 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เคาะประตู พร้อมระบุว่ามาหาบุคคลชื่อ ฟิตรี อารง
ส่วนอีก 2 คนที่ถูกคุมตัว คือ อับดุลเลาะ กะลาแต
ประธานชมรมมุสลิมรามคำแหง และ ศักดา เมาะอะ นั้น เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการแจ้งชื่อ
แต่อยู่ในห้องพักเดียวกันในเวลานั้น อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า สน.หัวหมาก
ได้ปล่อยตัวนักศึกษาทั้ง 3 แล้ว และทนายกำลังเดินทางไป
นอกจากนี้
ในแถลงการณ์ของกลุ่ม
ยังแสดงความกังวลในเรื่องของข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้จากการคุกคามนั้น
ผู้คุกคามไม่มีทางทราบได้เลยว่าจะนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในทิศทางใดบ้าง
อีกทั้งยังทำให้ผู้ถูกคุกคามเกิดความกังวลและเกิดข้อสงสัยว่าใช้เกณฑ์ใดในการเลือกคุกคามหรือมีมูลเหตุอันใดที่ทำให้เจ้าหน้าที่เลือกที่จะปฏิบัติในลักษณะเช่นนี้
การกระทำของเจ้าหน้าที่ในลักษณะเช่นนี้ยังทำให้คนทั่วไปที่มองมาต่อผู้ถูกคุกคามตีความไปในทางลบ
เป็นการกระทำที่ทำให้เสื่อมเสียเกียรติและชื่อเสียงทั้งต่อตัวนักศึกษา และทำให้เสื่อมเสียเกียรติและชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
และยังเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงต่อผู้ถูกคุกคามอีกด้วย
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #APEC2022 #เอเปค2565