ทัศนะของ ส. ศิวรักษ์ เกี่ยวกับการใช้มาตรา 112 ต่ออดีตพระมหากษัตริย์

ถอดเทป “ทัศนะของ ส. ศิวรักษ์ เกี่ยวกับการใช้มาตรา 112 ต่ออดีตพระมหากษัตริย์” [เผยแพร่เมื่อ 10 พ.ย. 2564]

# หมดเวลา 112

HIGHLIGHT!

"แล้วกฎหมายนี้นะครับ ผมจะบอกให้ เมื่อรัฐบาลที่เข้มแข็งเนี่ยไม่เคยใช้ ขนาด “สฤษดิ์ ธนะรัชต์” เป็นเผด็จการยิ่งใหญ่ที่สุด ปกป้องพระมหากษัตริย์ที่สุด ไม่ปรากฎว่าใช้มาตรา 112 และมาตรา 112 มันใช้เมื่อรัฐบาลอ่อนแอ”

“คนหนึ่งถูกกล่าวหาว่าหมิ่นรัชกาลที่ 4 อ้างว่ารัชกาลที่ 4 เป็นปู่ เป็นทวดของรัชกาลที่ 9 กฎหมายไม่ได้บอกแบบนั้น ที่เขาพูดนั้นเขาเขียนว่า “เคราะห์ดีที่เราไม่ได้เกิดในรัชกาลที่ 4” เพราะรัชกาลที่ 4 ยังไม่ได้เลิกทาส ไม่ได้พูดถึงองค์พระมหากษัตริย์ เท่านั้นก็เล่นงานเขา 15 ปี”

"ผมเองคดีล่าสุด ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นพระนเรศวรมหาราชครับ 500 ปีมาแล้วนะครับ ถ้าคดีผมเข้าคุก ผมสอนประวัติศาสตร์ไม่ได้ หมายความว่าพระเจ้าแผ่นดินทุกองค์ต้องดีหมด"

การเข้าชื่อยกเลิก 112

ผมไม่สามารถจะพูดอะไรได้ นอกไปจากว่ายกย่องชมเชยบุคคลเหล่านี้ ผมต้องสรรเสริญเขาครับ คนเหล่านี้กี่หมื่นกี่แสนก็ตาม หลายคนอาจเห็นไม่ตรงกับผม แต่สิ่งเดียวที่เราเห็นตรงกันว่าเฉพาะมาตรานี้ (112) กฎหมายนี้มันคุมได้เฉพาะเมืองไทย แล้วมาตรานี้มันเป็นมาตราที่เลวร้ายมาก เพราะพระเจ้าอยู่หัวองค์ที่แล้ว ท่านมีพระราชดำรัสชัดเจนเลยนะครับ ว่าใครใช้มาตรานี้เล่นงานใครเท่ากับรังแกพระองค์ท่านเป็นส่วนพระองค์เลย และก็ทำให้สถาบันกษัตริย์เสื่อมโทรม มีพระราชดำรัสชัดเจนครับ รัฐบาลกี่รัฐบาลที่อ้างว่าจงรักภักดีไม่เคยเข้าใจที่พระราชกระแส ไม่ยอมเลิก ถึงไม่เลิกก็ไม่กล้าแก้ เพียงเท่านี้ก็ไม่ทำกันครับ แล้วมาตรานี้มันให้ประโยชน์กับรัฐบาล ให้ประโยชน์กับเผด็จการ ลงโทษคนตำดำตาแดง ตาสีตาสา แม้แต่นักศึกษา คนที่มีความคิดเป็นตัวของตัวเอง มีความคิดอิสระเสรี เพราะมนุษย์เราต่างจากเดรัจฉานตรงที่ทุกคนต้องมีอิสระเสรี ต้องสามารถพูดได้ แสดงความเห็นได้ เขียนได้

แน่นอน มันมีกฎหมายเรื่องหมิ่นประมาทอยู่แล้ว เท่านี้ก็น่าจะพอแล้ว กฎหมาย 112 มันจะปกป้ององค์พระมหากษัตริย์ และพระราชินี และรัชทายาท ก็ควรจะอย่าให้มันเกินเลยไป พอเกินเลยไปมันทำร้ายพระองค์ท่าน ทำร้ายสถาบัน เนี่ยผมไม่เข้าใจทำไมคนที่ปกครองบ้านเมืองไม่ว่าจะขนศาลตระลาการ, รัฐสภา, รัฐบาล ถึงบัดซบถึงเพียงนี้ โง่เง่าเต่าตุ่นถึงเพียงนี้

พระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันนะครับ เมื่อพระองค์ท่านเสวยราชย์ใหม่ ๆ มีคนมาบอกผม และผมเชื่อว่าจริง มีลายพระราชหัตถ์ถึงประธานศาลฎีกา ถึงอัยการสูงสุด อย่าให้ดำเนินคดีนี้อีกต่อไป แล้วก็ได้ผลอยู่พักหนึ่งเลยนะครับ นี่พอซาไป ไอ้รัฐบาลเผด็จการมันก็ไม่พอใจ มันก็เอามาใช้อีก และที่อันตรายก็คือมันเอามาอ้างว่าเป็นพระราชนิยมเป็นพระราชดำรัส อันตรายมากครับ เพราะถ้าท่านพูดจริง รัฐบาลก็ต้องปกป้องท่าน เพราะการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขในแบบรัฐธรรมนูญนั้น ท่านจะทำอะไรก็ตาม ผู้รับสนองพระบรมราชโองการจะต้องรับผิดชอบแทนทั้งหมด ไอ้รัฐบาลนี้มันห่วย มันเลวร้าย มันก็โบ้ยไปให้ในหลวงอยู่เรื่อย นี่อันตรายครับ อย่างที่ผมบอกว่ารัชกาลที่ 9 ท่านมีพระราชดำรัสแล้ว ใครก็ตามครับ ในแวดวงรัฐสภา แวดวงคนที่มีอำนาจวาสนา สื่อสารมวลชนกระแสหลัก ควรจะร่วมมือร่วมใจกันครับให้เลิก ถ้าไม่ยอมเลิก อย่างน้อยก็แก้ไขให้มันมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น

เพราะฉะนั้น ผมยินดีอุดหนุน ให้ความสนับสนุนบุคคลเหล่านั้นด้วยความเคารพ และไม่ใช่แต่ด้วยปากครับ จะให้ผมทำอะไรเป็นส่วนตัว ผมยินดีช่วยทุกอย่าง ไม่ใช่ไปช่วยเพื่อเอาหน้า แต่เพื่อไปรับใช้เขา ช่วยเพื่อไปร่วมมือกับเขา เพราะว่าสิ่งที่ถูกต้อง เราต้องร่วมมือร่วมใจกัน และการต่อสู้เรียกร้องต้องใช้สันติวิธี แก้ด้วยสติปัญญา ไม่ใช่แก้ด้วยกักขฬะ เพราะไอ้รัฐบาลเวลานี้มันกักขฬะอยู่แล้ว เราเอากักขฬะไปสู้กับกักขฬะมันไม่ถูกต้องนะครับ ภาษาฝรั่งเขามี an eye for an eye, a tooth for a tooth หมายความว่าเขาใช้ตาเล็งเรามาแรง ๆ เขากัดเรา เราต้องกัดตอบ “มหาตมะ คานธี” ท่านบอกว่า ถ้ากัดกันไปกัดกันมา ฟันไม่เหลือเลย แพ้หมด

เพราะฉะนั้นผมเห็นว่าฝ่ายเรา ฝ่ายที่ต่อต้าน ฝ่ายที่เรียกร้องต้องการเสรีภาพ้องใช้วิธีที่อาจารย์ป๋วยท่านเรียกว่า “สันติประชาธรรม”

ถ้ายกเลิก 112 จะปกป้องกษัตริย์อย่างไร ?

อันนี้มันตีฝีปากชัด ๆ เลย แล้วกฎหมายนี้นะครับผมจะบอกให้เมื่อมีรัฐบาลที่เข้มแข็งนั้นไม่เคยใช้ ขนาด “สฤษดิ์ ธนะรัชต์” เป็นเผด็จการยิ่งใหญ่ที่สุด ปกป้องพระมหากษัตริย์ที่สุด ไม่ปรากฎว่าใช้มาตรา 112 และมาตรา 112 มันใช้เมื่อรัฐบาลอ่อนแอ เมื่อรัฐบาลเกิดกรณี 6 ตุลาคม 2519 รัฐบาลที่เข้ามาในตอนหลังจาก 6 ตุลา 2519 เป็นรัฐบาลพลเรือนนะครับ ตัวนายกรัฐมนตรีเป็นเนติบัณฑิตอังกฤษด้วย แต่เขาเกิดความกลัวครับ เขาเป็นคนน่ารัก เป็นคนดีครับ แต่ความกลัวขึ้นสมอง พระพุทธเจ้าเตือน

“ฉันทาคติ” หลงเพราะรักก็ดี

“โมหาคติ” หลงเพราะหลงก็ดี

“ภยาคติ” หลงเพราะกลัวก็ดี หรือ

“โทสาคติ” หลงเพราะโกรธ เกลียดก็ดี

รัฐบาลนั้นเป็นคนที่น่ารัก แต่เขากลัว กลัวคอมมิวนิสต์ เพราะฉะนั้น คนเมื่อกลัวแล้วจะทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เขาก็เลยเพิ่มกฎหมายนี้ มาตรานี้ แต่ก่อนมันก็ไม่ได้เลวร้ายมากเท่าไหร่ โทษขั้นต่ำ 3 ปี เพราะถ้าคุณมีโทษขั้นต่ำ 3 ปี ศาลเขาไม่สามารถรอลงอาญาได้ครับ ศาลจะลงอาญาได้เมื่อกฎหมายบอกว่าเป็น 2 ปี นี่ศาลลงอาญาได้ แล้วเพิ่มโทษสูงสุดเป็น 15 ปี ผมนี่โดนมาหลายทีแล้วนะครับ ครั้งแรกนี่โดนนี่แพ้คดี ผมโดน 3 ข้อหา ผมติดคุก 45 ปีเลยครับ คนที่ไม่เคยเดือดร้อนไม่เข้าใจครับ หลายครั้งนะครับที่คนรวยมโหฬารอาจจะถูกกฎหมาย แต่กฎหมายของเราเป็นกฎหมายทุนนิยม ช่วยคนรวยครับ เพราะถ้ากฎหมายมันเอื้อประโยชน์ให้ทวงราษฎร์ คนแต่ละคนมันจะมีที่เกิน 5 ไร่ไม่ได้ ที่ทำกินเกิน 50 ไร่ไม่ได้ เรื่องนี้จอมพล ป. พิบูลสงคราม ออกกฎหมายมาแล้ว ทั้งที่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นี่เป็นนายกเผด็จการเลวร้ายหลายอย่าง แต่สิ่งนี้เขาทำไว้ดี ก็น่าจะรักษาเอาไว้ แต่เปล่าเลยครับ ไอ้รัฐบาลที่อ้างว่าจงรักภักดี ผมบอกแล้วไง พระราชดำรัสรัชกาลที่ 9 เอง ทำไมไม่ทำตามนั้น

ที่ประเทศอังกฤษก็มีนะครับ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ไม่ใช้มา 200 ปีแล้วครับ เพราะรัฐบาลเขามีความเชื่อมั่นตัวเขาเองมาก ประชาชนเขาก็มีความเชื่อมั่นตัวเองมาก แล้วที่ประเทศอังกฤษเวลานี้ 22% ครับไม่ต้องการสถาบันกษัตริย์ แต่เขาก็ให้วิพากษ์วิจารณ์ได้ พระราชินีอังกฤษเวลานี้เกือบจะเรียกได้ว่าพระชนม์มากสุดกว่าพระราชาทั้งหมดแล้ว เสวยราชย์นานกว่าทั้งหมดแล้ว แล้วก็มีคนวิพากษ์วิจารณ์ท่าน หลายต่อหลายอย่างถึงกับทำโทรทัศน์ออกรายการ ชื่อ The Crown นะครับ เปิดเผยหมดเลยครับ ราชวงศ์องค์ไหน่เก่งกล้า องค์ไหนอ่อนแอ องค์ไหนไปมีกิ๊กที่ไหน อย่างไร มันรายงานหมด แต่สถาบันกษัตริย์ยังมั่นคงสืบมา

ถ้าคุณจะบอกว่าสถาบันกษัตริย์ องค์กษัตริย์ แตะไม่ได้ อะไรไม่ได้ ก็พังซิครับ ทุกอย่างต้องแตะได้ ต้องต้องได้ และทุกอย่างจะต้องวิพากษ์วิจารณ์ได้ ทุกอยางจะต้องโปร่งใสตรวจสอบได้เท่านั้นเองครับ ไอ้พวกที่ปกครองบ้านปกครองเมือง ตัวมันเหี้ย ตัวมันไม่โปร่งใส ตรวจสอบไม่ได้ แล้วมันก็อ้างว่าในหลวงต้องเป็นแบบมัน ไม่ต้องเป็นแบบมันครับ ไอ้ความชั่วของมันก็เรื่องของมัน

แต่พระมหากษัตริย์นั้น ถ้าเรายกย่องท่านเพียงไร ก็ต้องหาทางให้ท่านประกอบพระราชกรณียกิจทุกอย่างให้รัฐบาลรับผิดชอบแทน พระราชกรณียกิจต่าง ๆ ก็ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้

ถ้าไม่ทำผิดก็ไม่ต้องกลัวมาตรา 112

ไอ้พวกนี้นะครับมันหลับตาพูดทั้งนั้นเลย กฎหมายทุกประเทศนะครับมันออกเพื่อประโยชน์ของคนข้างบน ไม่ใช่คนข้างล่าง เห็นมั้ยครับ ผมไม่เอ่ยชื่อนะครับ บางบริษัทบางคนมีที่ดินที่เชียงใหม่ถึง 30% แล้วนะครับ ถูกกฎหมายทั้งนั้น แต่กฎหมายมันยุติธรรมไหมล่ะครับ กฎหมายเป็นเครื่องมือ ถ้ากฎหมายนั้นยุติธรรมมากเท่าไรประชาชนมีความสุขมากเท่านั้น กฎหมายนั้นลดช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนมากเท่าไร ประชาชนมีความสุขมากเท่านั้น กฎหมายนั้นให้โอกาสคนรวยจำนวนน้อยได้เปรียบ กฎหมายนั้นใช้ไม่ได้ ต้องแก้ครับ

กฎหมายไม่ใช่ว่าเป็นบทบัญญัติที่แก้ไขไม่ได้ เราแก้ไขมาตลอดเวลา เราเองนะแต่ก่อนนั้นก็ใช้กฎหมายตราสามดวง ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 กรุงศรีอยุธยา แล้วเสร็จแล้วเมื่อเราเปิดประเทศให้ฝรั่ง ฝรั่งบอกเลยว่ากฎหมายใช้ไม่ได้ เราก็ต้องทำประมวลกฎหมายอาญา ทำกฎหมายแพ่งขึ้นมา ให้นานาชาติรับรอง แล้วเราใช้เวลาตั้งแต่รัชการที่ 4 มาสำเร็จเอารัชกาลที่ 8 เลยนะครับ กว่าประเทศนานาชาติจะรับรองว่ากฎหมายเรามีความยุติธรรม แต่แล้วนักกฎหมายส่วนใหญ่ไม่เข้าใจอันนี้นะครับ ถึงกับตะแบงกฎหมาย ไม่ทำตามกฎหมายด้วยซ้ำไป

ยกตัวอย่างกฎหมาย 112 พูดชัดเจนนะว่าห้ามหมิ่นพระมหากษัตริย์ รัชทายาท พระราชินี เฉพาะรัชกาลปัจจุบัน คนหนึ่งถูกกล่าวหาว่าหมิ่นรัชกาลที่ 4 อ้างว่ารัชกาลที่ 4 เป็นปู่เป็นทวดของรัชกาลที่ 9 กฎหมายไม่ได้บอกแบบนั้น ที่เขาพูดนั้นเขาเขียนว่า “เคราะห์ดีที่เราไม่ได้เกิดในรัชกาลที่ 4” เพราะรัชกาลที่ 4 ยังไม่ได้เลิกทาส ไม่ได้พูดถึงองค์พระมหากษัตริย์ เท่านั้นก็เล่นงานเขา 15 ปีแล้ว หรือกรณีของนักการเมืองคนหนึ่ง หาว่าหมิ่นพระบรมมหาราชวัง กฎหมายบอกพระเจ้าแผ่นดิน พระราชวังมันเป็นอาคาร ทำไมจะหมิ่นไม่ได้

นี่ขนาดศาลเองนะครับยังเลอะเทอะถึงเพียงนี้ แล้วเราจะไม่เรียกร้องให้แก้ไขได้อย่างไรครับ นอกจากแก้ไขกฎหมายแล้ว ต้องแก้ไขพวกผู้พิพากษาตุลาการ จะต้องฟังคนยากไร้ จะต้องมีใจเมตตากรุณา ไม่ใช่หลับหูหลับตาตัดสิน ผมเองคดีล่าสุดถูกกล่าวหาว่าหมิ่นพระนเรศวรมหาราชครับ 500 ปีมาแล้วนะครับ ถ้าคดีผมเข้าคุก ผมสอนประวัติศาสตร์ไม่ได้ หมายความว่าพระเจ้าแผ่นดินทุกองค์ต้องดีหมด แล้วอันนี้มีคำของอธิบดีกรมอัยการคนสำคัญเลยนะครับในตอนที่ขึ้นรัชกาลที่ 9 ใหม่ ๆ รัชกาลที่ 8 เพิ่งสวรรคต หนังสือพิมพ์มันลงพาดหัวนะครับว่าในหลวงรัชกาลที่ 8 นอนกับนางพยาบาลสาวในวัง จริงเท็จเราไม่รู้ คนก็ฟ้องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปถึงอัยการ อัยการสมัยนั้นเขามีกึ๋น เขารู้กฎหมาย เขาบอกว่าท่านสวรรคตแล้วฟ้องไม่ได้ กฎหมายนี้มันเฉพาะรัชกาลปัจจุบัน แล้วเขาให้เหตุผลเลยนะครับว่าถ้ารัชกาลล่วงแล้วฟ้องได้ พระเจ้าเสือ เขาเอ่ยถึงนะครับ พระเจ้าเสือ ซึ่งพงศาวดารเขียนไว้ว่าท่านเลวร้ายมาก ตัดสินไม่เป็นไปตามกฎหมาย ปู้ยี่ปู้ยำเด็กที่ยังไม่มีระดู นี่พงศาวดารเขียนเลย ก็ต้องลบพงศาวดารทั้งหมดซิครับ

เห็นมั้ยครับ คนที่มีอำนาจวาสนาทำไมบัดซบถึงเพียงนี้ ถ้าท่านทั้งหลายหัดเรียน อ่อนน้อมถ่อมตัว มีใจกว้าง เจริญพรหมวิหารธรรม ลดอคติ ท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นขุนศาลตระลาการ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษาของไอ้พวกนายกโง่ ๆ เหล่านี้ ก็จะช่วยกันผดุงบ้านเมือง แต่เป็นที่น่าเสียใจครับ คนที่รอบ ๆ ตัวนายก นักกฎหมายหลายคนก็เป็นเพียงเนติบริการ ผู้มีอำนาจต้องการให้มันเขียนกฎหมายไปตามผู้มีอำนาจ เสร็จเลยครับ แล้วบอกว่ากฎหมายมีอยู่แล้ว ไม่เป็นไร ถ้าหลับหูหลับตาอยู่ก็ไม่เป็นไรซิครับ ต้องเปิดหูเปิดตาซิครับ มนุษย์เราต้องเปิดปูเปิดตา และต้องเปิดปากพูดในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม

ยกเลิก 112 ให้คนด่าในหลวง ?

นั่นมันเลอะเทอะเหลวไหนที่สุดนะครับ กฎหมายหมิ่นประมาทมีอยู่แล้ว ไปหมิ่นประมาทใครได้ที่ไหนล่ะครับ ถ้าเด็กเล็กมันทำไม่ถูกต้อง กฎหมายก็มีอยู่แล้ว ถ้าใช้กฎหมายหมิ่นประมาทอย่างเดียวก็จะแสดงให้เห็นเลยว่า พระเจ้าแผ่นดินไม่จำเป็นต้องมีอภิสิทธิ์ พระเจ้าแผ่นดินก็สามารถคนรักท่านได้ เกลียดท่านได้ อันนี้ยิ่งทำให้สถาบันกษัตริย์มั่นคงแข็งแรงขึ้น พวกนี้มันไม่มองมุมกลับเลยครับ มันมองอย่างเดียวว่า อันนี้ก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ได้ เอะอะก็ว่าเด็ก ๆ ตลอดเวลา เด็กไม่โง่ขนาดนี้หรอกครับ เด็กไม่บัดซบเหมือนผู้ใหญ่บางคนหรอกครับ ท่านผู้ใหญ่บางคนที่ยื้อ ควรจะตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาบ้าง เราแก่เฒ่าแล้ว อย่าหลงละเมออยู่กับอดีต อย่าหลงละเมอกับสิ่งที่ไม่เป็นข้อเท็จจริง ต้องดูข้อเท็จจริง ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเรา อย่าไปโยนว่าร้าย กล่าวหาเยาวชนตลอดไป

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #มาตรา112