วันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2566

กมธ.ที่ดินฯ ชี้ นโยบายรัฐบาลยกระดับโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นการยกระดับเพียงชื่อ กรรมสิทธิ์ยังเป็นของ ส.ป.ก. หวังรัฐแก้กฎหมาย มอบกรรมสิทธิ์ให้ประชาชน ปลดล็อกปัญหาที่ดินทำกินอย่างแท้จริง

 


กมธ.ที่ดินฯ ชี้ นโยบายรัฐบาลยกระดับโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นการยกระดับเพียงชื่อ กรรมสิทธิ์ยังเป็นของ ส.ป.ก. หวังรัฐแก้กฎหมาย มอบกรรมสิทธิ์ให้ประชาชน ปลดล็อกปัญหาที่ดินทำกินอย่างแท้จริง

 

วันที่ 18 ตุลาคม 2566 อภิชาติ ศิริสุนทร สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ร่วมประชุม กมธ.การที่ดินฯ เพื่อพิจารณานโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนการปรับปรุงหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ให้เป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

 

หลังจากเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (คปก.) ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบหลักการปรับปรุงเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เพื่อยกระดับเป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และจะส่งมอบโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรมฉบับแรก ภายในวันที่ 15 มกราคม 2567 เป็นของขวัญปีใหม่แก่เกษตรกร

 

อภิชาติ ในฐานะประธาน กมธ.การที่ดินฯ กล่าวภายหลังรับฟังคำชี้แจงจากตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ผลลัพธ์ของสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการนั้น ที่ดิน ส.ป.ก. จะยังเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐเหมือนเดิม ซึ่งจะไม่แก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง เพราะหากจะพัฒนาสิทธิต้องปลดล็อกที่ดินจากความเป็นที่ของรัฐ และออกโฉนดครุฑแดงให้ประชาชนเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะเปรียบเสมือนการเลี่ยงบาลี ที่ทำเพียงแค่แก้ระเบียบและเงื่อนไข แต่ไม่ได้ปลดล็อกและมอบกรรมสิทธิ์ให้ประชาชนจริง ๆ

 

ประธาน กมธ.การที่ดินฯ กล่าวต่อว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อธิบายพี่น้องประชาชนให้ชัดเจน ว่าการยกระดับที่ดิน ส.ป.ก. ครั้งนี้ เป็นการยกระดับเพียงชื่อโฉนดเท่านั้น ส่วนลักษณะแนวทางจัดการยังเป็น ส.ป.ก. แบบเดิม แค่เพิ่มเงื่อนไข คือการได้สิทธิเปลี่ยนมือไปสู่เกษตรกรด้วยกันเท่านั้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ประชาชนต้องการ

 

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ขัดข้องกับแนวทางของรัฐบาล แต่ในฐานะ กมธ.การที่ดินฯ อยากเห็นการยกระดับกรรมสิทธิ์ให้ถึงขั้นโฉนด คืนให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ ด้วยการแก้กฎหมาย 2 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 และประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 11

 

ระหว่างการประชุมเพื่อพิจารณาวาระดังกล่าว มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นภายใน กมธ. โดยฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.ภูเก็ต เขต 3 พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก กมธ.การที่ดินฯ กล่าวว่า พื้นที่จังหวัดภูเก็ตเคยมีกรณีการแจกที่ดิน ส.ป.ก. แก่นายทุน จึงขอสอบถามว่าจะมีมาตรการอย่างไรในการคัดกรองนอมินี เพราะหากที่ดิน ส.ป.ก. ไม่ถูกเปลี่ยนให้เป็นโฉนด อาจมีการใช้นอมินีเกิดขึ้น กลับกันหากโฉนดอยู่ในมือของกรมที่ดิน จะไม่มีการกล้าใส่ชื่อนอมินี เพราะการโอนหรือการเปลี่ยนแปลงการถือครองจะมีความชัดเจนมากขึ้น

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กมธที่ดิน