“ปิยรัฐ” ติงครม.โดดตอบกระทู้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขนาดรายกฯมอบหมาย รมว.-รมช.
ก็ไม่มาแทน ด้าน“วิโรจน์” กังขาจะจบสมัยประชุมแล้วยังไม่มีกฎหมายผ่านสักฉบับ
จงใจดองให้กฎหมาย ครม.ผ่านก่อนหรือไม่?
วันที่
19 ตุลาคม 2566 ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ปิยรัฐ จงเทพ
สส.กรุงเทพฯ (พระโขนง-บางนา) พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้สดถามนายกรัฐมนตรี เศรษฐา
ทวีสิน กรณีบ่อนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งปรากฏว่านายกรัฐมนตรีติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ
จึงมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อนุทิน ชาญวีรกูล มาเป็นผู้ตอบแทน
อย่างไรก็ตาม
ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้แจ้งว่าเนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยติดภารกิจ
จึงได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ทรงศักดิ์ ทองศรี มาเป็นผู้ตอบกระทู้แทน
แต่ทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยก็ติดภารกิจเช่นกัน
จึงส่งผลให้ต้องเลื่อนการตอบกระทู้ออกไปก่อน
หลังจากประธานสภาผู้แทนราษฎรแจ้งให้ทราบแล้ว
ปิยรัฐได้ลุกขึ้นขอหารือต่อประธานสภาฯ
โดยระบุว่าประเด็นที่ตนจะถามในกระทู้นี้เป็นเรื่องสำคัญ
และตนก็คาดหวังว่านายกรัฐมนตรีควรจะมาตอบกระทู้ในทุกวันพฤหัสบดี
เพราะเป็นวาระที่มีเป็นประจำ จึงควรเตรียมตัวอยู่ก่อนแล้ว แต่นายกรัฐมนตรีกลับเลี่ยงที่จะมาตอบคำถามเรื่องนี้
และเลื่อนมาแล้วหลายครั้ง ทำให้พรรคก้าวไกลเสียโควตาการตั้งกระทู้ในสภาฯ
จึงอยากหารือว่า
ครั้งหน้านายกรัฐมนตรีจะมาตอบคำถามได้หรือไม่ โดยสภาฯ
ควรทำหนังสือท้วงติงเรื่องนี้ไปถึงนายกฯ และควรมีการชี้แจงเหตุผลว่าเหตุใดถึงมาไม่ได้ด้วย
ตนเข้าใจได้ว่าบางสัปดาห์นายกรัฐมนตรีอาจจะไม่สะดวก
แต่ต้องไม่ใช่ขนาดที่มอบหมายให้รัฐมนตรีก็แล้ว รัฐมนตรีช่วยก็แล้ว
ก็ยังมาไม่ได้อีกแบบนี้
ด้าน
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล
ได้ร่วมหารือด้วยเช่นกันถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้ถามสด โดยระบุว่า
อยากให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหนังสือไปถึงนายกรัฐมนตรีอย่างจริงจัง
เพราะแม้ว่านายกรัฐมนตรีจะอยู่ต่างประเทศ
แต่ก็เป็นหน้าที่ที่ท่านจะต้องมาตอบกระทู้
หากมาไม่ได้ก็ควรมอบหมายให้รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งมาตอบให้ได้ แต่ที่ผ่านมาสภาฯ ได้รับความร่วมมือจากคณะรัฐมนตรีน้อยเกินไป
ถ้าตั้งกระทู้ถามสดแล้วรัฐมนตรีไม่มาตอบ ความเสียหายก็จะเกิดขึ้นต่อประชาชน
นอกจากนี้
ในเมื่อประธานสภาฯ จะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว
ตนจึงขอฝากอีกประเด็นหนึ่งหารือไปด้วย คือในขณะนี้ใกล้จะจบสมัยประชุมสภาฯ แล้ว
แต่สภาฯ ยังไม่สามารถผ่านกฎหมายได้สักฉบับ
เป็นเพราะคณะรัฐมนตรีอยากจะให้กฎหมายฉบับแรกที่ผ่าน เป็นของคณะรัฐมนตรีใช่หรือไม่
หากเป็นเช่นนั้นจริง
ตนขอท้วงติงว่าเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น ถ้าคณะรัฐมนตรีไม่พร้อมก็ไม่ควรจะต้องรอ
เพราะยังมีกฎหมายจากทั้งภาคประชาชน จากทั้งสมาชิกสภาฯ
ที่ร่วมลงชื่อกันครบแล้วอยู่เต็มไปหมด สภาฯ พร้อม ประชาชนก็พร้อม
ที่จะพิจารณากฎหมายไปด้วยกัน
ท้ายที่สุดนี้
จึงขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี
ว่าทุกวันพฤหัสบดีท่านควรมอบหมายให้คณะรัฐมนตรีสะสางภารกิจให้ว่างและเตรียมพร้อมรอไว้
การไปนัดหมายซ้อนในวันนี้ ทำให้มองเป็นอื่นได้ยากว่าเป็นการหนีการตอบกระทู้หรือไม่