สภาเดือด 'ชัยธวัช'
ข้องใจนายกฯ เลือกตอบกระทู้ถามสดแต่ ปชป.-รทสช. ไม่ตอบของ'ก้าวไกล' มอบ รมว.ยุติธรรมตอบแทน ยัน 'ทวี' ไม่สามรถแจงแทนได้
ท้วงไม่แจงเหตุจำเป็นตามข้อบังคับ
วันที่ 26 ตุลาคม
2566 ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ได้มีการตั้งกระทู้ถามสดคณะรัฐมนตรี โดยเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน
เดินทางมาตอบคำถามด้วยตัวเอง ซึ่งหนึ่งในกระทู้ที่มีการถามนั้น เป็นกระทู้สดของ
ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถามคำถามต่อนายกรัฐมนตรีใน 3 ประเด็น
อย่างไรก็ตาม
เมื่อถึงวาระการถามกระทู้สด รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ที่ปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร
อยู่ในขณะนั้น คือ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่านายกรัฐมนตรี
ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทวี สอดส่อง เป็นผู้ตอบคำถามแทน
ทำให้ชัยธวัช
ได้ลุกขึ้นหารือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยระบุว่าที่ผ่านมา
ตนได้ทราบว่ามีสมาชิกจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน 1 คน พรรคร่วมรัฐฐาล 1
คน ตั้งกระทู้ถามสดต่อนายกรัฐมนตรีเช่นกัน
แต่ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีเลือกที่จะตอบกระทู้ถามสดของสมาชิกอีกสองท่าน
แต่กลับมอบหมายให้รัฐมนตรีที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ต้องการถาม เป็นเพราะอะไร?
ชัยธวัชกล่าวต่อไป
ว่าเมื่อวานนี้มีความพยายามให้สมาชิกฝ่ายรัฐบาลมาถามตนว่าจะถามกระทู้เรื่องอะไร
จะเป็นเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ ตนก็ได้ให้ความสบายใจว่าไม่ใช่
เพราะมีคนถามเยอะแล้ว ตอนเย็นมีข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะตอบกระทู้ในสภาแน่นอน
ตนก็สบายใจขึ้น เมื่อเช้าที่ผ่านมาก็ได้มีการหารือเรียบร้อย
แต่ปรากฏว่าไม่กี่นาทีที่แล้ว
มีการแจ้งว่านายกรัฐมนตรีไม่ประสงค์ตอบกระทู้ตน
และมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมาตอบแทน ซึ่งในทั้ง 3 ประเด็นที่ตนจะถามนั้น
ต้องการถามนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกรรมการตำรวจ (กตร.)
ประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงาน และในฐานะหัวหน้ารัฐบาล
ว่ามีนโยบายเรื่องคดีการเมืองอย่างไร
ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไม่มีความเหมาะสมที่จะตอบ ดังนั้น
ตนจึงจะยังไม่ถามกระทู้ แต่จะนั่งรอนายกรัฐมนตรีมาตอบอีกสองกระทู้ก่อน
จากนั้น
ทวีจึงได้ขอโอกาสแสดงความเห็น
โดยระบุว่ารัฐมนตรีทุกคนมีหน้าที่บริหารแผ่นดินร่วมกัน มีความรับผิดชอบร่วมกัน
เมื่อนายกรัฐมนตรีมอบให้ตนมาเป็นผู้ตอบคำถาม แม้จะยังไม่รู้คำถาม
แต่ในฐานะคณะรัฐมนตรีที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ก็จะชี้แจงตามความเป็นจริงเพื่อให้สมาชิกได้รับรู้ร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม วิโรจน์
ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ขอหารือโดยระบุว่าตามข้อบังคับข้อที่ 151 นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่ถูกตั้งคำถามจะต้องเข้าสภาเพื่อตอบกระทู้นั้น
นอกจากมีเหตุจำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
จะต้องชี้แจงเหตุจำเป็นนั้นเป็นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร
แต่เหตุใด
ในเมื่อนายกรัฐมนตรีอยู่ที่นี่ เดินทางมาด้วยตัวเองแล้ว ก็ควรตอบกระทู้ให้ชัดเจน
ถ้ามีเหตุจำเป็นก็ช่วยร่างหนังสือตอนนี้
อ่านเหตุผลที่ไม่อาจตอบคำถามนี้ต่อที่ประชุมสภา ไม่ใช่อยู่ดี ๆ
ก็มามอบหมายฉับพลันอย่างนี้ จึงขอถามว่านายกรัฐมนตรีได้แจ้งเป็นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อนเข้าระเบียบวาระกระทู้ถามแล้วหรือไม่
ถ้าใช่ช่วยอ่านหนังสือชี้แจงให้ชัดเจนด้วย
จากนั้น
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งให้ทราบว่านายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งมอบหมายมาแล้ว
ว่าให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ตอบกระทู้ของชัยธวัชแทน เมื่อเช้าเวลา 8.30 ผู้ที่จะถามกระทู้สดมีการประชุมร่วมกันที่ชั้น
10 เพื่อพิจารณาว่ากระทู้ถามทั้ง 3 กระทู้เข้าเกณฑ์เป็นกระทู้สดหรือไม่
โดยทีแรกกำหนดให้กระทู้ของชัยธวัชเป็นกระทู้ที่ 3 ภายใต้ข้อพิจารณาว่าผู้ตอบกระทู้พร้อมหรือไม่
หรือผู้ถามพร้อมที่จะถามหรือไม่
พิเชษฐ์กล่าวต่อไป
ว่าหลังจากทั้ง 2 ท่าน คือชัยธวัช และ ชัยชนะ เดชเดโช พรรคประชาธิปัตย์
ได้ออกจากห้องไปแล้ว อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ พรรครวมไทยสร้างชาติ
ที่ตอนแรกจะถามเป็นคนแรก ยังอยู่ที่ราชบุรี
กำลังรีบเดินทางจากราชบุรีอยู่และมาอาจจะล่าช้า
การเรียงลำดับกระทู้จึงเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะประสานผู้ถามผู้ตอบ
ใครจะถามตอบก่อนหลัง จึงเป็นที่มาที่ทำให้กระทู้แรกเป็นของชัยธวัช
ดังนั้น
ถ้าชัยธวัชจะไม่ถาม ตามข้อบังคับข้อที่ 155 กระทู้ถามของชัยธวัยก็จะตกไป
เลื่อนกระทู้ที่ 2 ขึ้นมาแทน
ถ้าถามตอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแล้ว
เมื่อนายกรัฐมนตรีมาถึงอาจมีเจ้าหน้าที่บันทึกไว้ และก็อาจจะตอบด้วยก็ได้
จากนั้น วิโรจน์
จึงได้หารือโดยอ้างถึงข้อบังคับข้อที่ 151 อีกครั้ง
โดยระบุว่าตามข้อบังคับดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีจะต้องแจ้งเหตุจำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ต่อประธานสภา
แต่จากหนังสือที่มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมนั้น มีแค่คำบัญชา
ไม่เห็นว่ามีเหตุจำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อะไร และตราบที่ไม่มีการชี้แจงเหตุผลใด
ๆ นายกรัฐมนตรีกำลังทำผิดข้อบังคับข้อที่ 151 ประธานจะปล่อยให้นายกรัฐมนตรีทำผิดข้อบังคับเช่นนี้ไม่ได้
หรือหากจะอ้างวรรคที่
3 ของข้อบังคับ ที่ระบุว่านายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี
ย่อมมีสิทธิที่จะไม่ตอบกระทู้ถามเมื่อเห็นว่าเรื่องนั้นยังไม่ควรเปิดเผย
เพราะเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือประโยชน์ของแผ่นดิน
ก็ต้องชี้แจงว่าเรื่องอะไรที่ยังไม่ควรเปิดเผย
หรือเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยหรือประโยชน์ของแผ่นดินอย่างไร
อย่างไรก็ตาม พิเชษฐ์
ได้ตอบวิโรจน์โดยระบุว่าทุกอย่างเป็นไปตามวรรค 2 ของข้อบังคับข้อที่ 151
มีการทำหนังสือมาถูกต้องทุกอย่างแล้ว และวินิจฉัยให้ชัยธวัชเลือก
ว่าจะถามกระทู้หรือไม่
จากนั้น พริษฐ์
วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้หารือว่าข้อบังคับข้อที่ 151 ในวรรค
1 เขียนไว้ชัดว่านายกรัฐมนตรีอาจไม่มาตอบ
ถ้ามีเหตุจำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ต้องแจ้งเหตุผลเป็นหนังสือ
แต่ตนก็ยังไม่เห็นว่ามีการแจ้งเหตุจำเป็นดังกล่าวอยู๋ในตัวจดหมายที่แจ้ง
จึงเกรงว่าคำวินิจฉัยของประธานอาจไม่สอดคล้องกับข้อบังคับข้อที่ 151 และอาจกลายเป็นบรรทัดฐานที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของสภาในอนาคต
ระหว่างการหารือดังกล่าว
ได้มีการประท้วงสลับกันไปมาระหว่าง สส. ฝ่ายรัฐบาลกับ สส.พรรคก้าวไกล เป็นระยะ
ซึ่งสุดท้ายประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ยืนยันในคำวินิจฉัยของตนเอง
ว่านายกรัฐมนตรีทำถูกต้องตามระเบียบและข้อบังคับแล้ว
และขอให้ชัยธวัชยืนยันว่าจะถามกระทู้ต่อหรือไม่
ด้านชัยธวัช
ได้ยืนยันว่าประเด็นนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไม่สามารถตอบได้
เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรี
ที่อาจจะเป็นการผิดกฎหมายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
สุดท้ายจึงขอแจ้งประธานว่าจะไม่ถามกระทู้สดในวันนี้
อย่างไรก็ตาม
เมื่อเข้าสู่ระเบียบวาระกระทู้ถามสดที่ 2 และ 3 ปรากฏว่านายกรัฐมนตรี
ได้เข้าตอบคำถามด้วยตัวเองทั้งสองกระทู้จนจบวาระกระทู้ถามสด โดยตลอดการตอบกระทู้
นายกรัฐมนตรีไม่ได้เอ่ยถึงเหตุผลที่ตนเลือกที่จะไม่ตอบกระทู้ของชัยธวัชด้วยตนเองแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ชัยธวัช
ได้โพสต์ข้อความผ่าน X กล่าวถึงกรณีนี้ว่า วันนี้เป็นที่ชัดเจนว่านายกฯ
เจตนาไม่ตอบกระทู้ถามสดของพรรคก้าวไกล
ต้องการจะตอบกระทู้ถามสดเฉพาะที่ตนเองเตรียมมาตอบหรือชงให้โฆษณารัฐบาลเท่านั้น จริง
ๆ ประเด็นสำคัญของปัญหาที่ตนต้องการถามนายกฯ
จะเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจที่มีลักษณะ ”ประยุทธ์คิด เศรษฐาทำ ไอ้โม่งสั่ง“ ด้วย
"น่าผิดหวังที่คุณเศรษฐา
กล้าใช้อำนาจในลักษณะที่อาจผิดกฎหมาย
ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่ควรปกป้องผลประโยชน์สาธารณะ และเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง
แต่ไม่กล้าเผชิญหน้าการตรวจสอบจากฝ่ายค้านในสภา ตั้งใจไม่มาตอบกระทู้ถามสดของก้าวไกล
แล้วเข้ามาตอบกระทู้ถามอื่นได้ในเวลาติดกัน" ชัยธวัชระบุ