วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2566

สภาเดือด 'ชัยธวัช' ข้องใจนายกฯ เลือกตอบกระทู้ถามสดแต่ ปชป.-รทสช. ไม่ตอบของ'ก้าวไกล' มอบ รมว.ยุติธรรมตอบแทน ยัน 'ทวี' ไม่สามรถแจงแทนได้ ท้วงไม่แจงเหตุจำเป็นตามข้อบังคับ

 


สภาเดือด 'ชัยธวัช' ข้องใจนายกฯ เลือกตอบกระทู้ถามสดแต่ ปชป.-รทสช. ไม่ตอบของ'ก้าวไกล' มอบ รมว.ยุติธรรมตอบแทน ยัน 'ทวี' ไม่สามรถแจงแทนได้ ท้วงไม่แจงเหตุจำเป็นตามข้อบังคับ

 

วันที่ 26 ตุลาคม 2566 ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการตั้งกระทู้ถามสดคณะรัฐมนตรี โดยเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เดินทางมาตอบคำถามด้วยตัวเอง ซึ่งหนึ่งในกระทู้ที่มีการถามนั้น เป็นกระทู้สดของ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถามคำถามต่อนายกรัฐมนตรีใน 3 ประเด็น

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวาระการถามกระทู้สด รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ที่ปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร อยู่ในขณะนั้น คือ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่านายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทวี สอดส่อง เป็นผู้ตอบคำถามแทน

 

ทำให้ชัยธวัช ได้ลุกขึ้นหารือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยระบุว่าที่ผ่านมา ตนได้ทราบว่ามีสมาชิกจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน 1 คน พรรคร่วมรัฐฐาล 1 คน ตั้งกระทู้ถามสดต่อนายกรัฐมนตรีเช่นกัน แต่ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีเลือกที่จะตอบกระทู้ถามสดของสมาชิกอีกสองท่าน แต่กลับมอบหมายให้รัฐมนตรีที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ต้องการถาม เป็นเพราะอะไร?

 

ชัยธวัชกล่าวต่อไป ว่าเมื่อวานนี้มีความพยายามให้สมาชิกฝ่ายรัฐบาลมาถามตนว่าจะถามกระทู้เรื่องอะไร จะเป็นเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ ตนก็ได้ให้ความสบายใจว่าไม่ใช่ เพราะมีคนถามเยอะแล้ว ตอนเย็นมีข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะตอบกระทู้ในสภาแน่นอน ตนก็สบายใจขึ้น เมื่อเช้าที่ผ่านมาก็ได้มีการหารือเรียบร้อย

 

แต่ปรากฏว่าไม่กี่นาทีที่แล้ว มีการแจ้งว่านายกรัฐมนตรีไม่ประสงค์ตอบกระทู้ตน และมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมาตอบแทน ซึ่งในทั้ง 3 ประเด็นที่ตนจะถามนั้น ต้องการถามนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกรรมการตำรวจ (กตร.) ประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงาน และในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ว่ามีนโยบายเรื่องคดีการเมืองอย่างไร ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไม่มีความเหมาะสมที่จะตอบ ดังนั้น ตนจึงจะยังไม่ถามกระทู้ แต่จะนั่งรอนายกรัฐมนตรีมาตอบอีกสองกระทู้ก่อน

 

จากนั้น ทวีจึงได้ขอโอกาสแสดงความเห็น โดยระบุว่ารัฐมนตรีทุกคนมีหน้าที่บริหารแผ่นดินร่วมกัน มีความรับผิดชอบร่วมกัน เมื่อนายกรัฐมนตรีมอบให้ตนมาเป็นผู้ตอบคำถาม แม้จะยังไม่รู้คำถาม แต่ในฐานะคณะรัฐมนตรีที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ก็จะชี้แจงตามความเป็นจริงเพื่อให้สมาชิกได้รับรู้ร่วมกัน

 

อย่างไรก็ตาม วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ขอหารือโดยระบุว่าตามข้อบังคับข้อที่ 151 นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่ถูกตั้งคำถามจะต้องเข้าสภาเพื่อตอบกระทู้นั้น นอกจากมีเหตุจำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จะต้องชี้แจงเหตุจำเป็นนั้นเป็นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร

 

แต่เหตุใด ในเมื่อนายกรัฐมนตรีอยู่ที่นี่ เดินทางมาด้วยตัวเองแล้ว ก็ควรตอบกระทู้ให้ชัดเจน ถ้ามีเหตุจำเป็นก็ช่วยร่างหนังสือตอนนี้ อ่านเหตุผลที่ไม่อาจตอบคำถามนี้ต่อที่ประชุมสภา ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ก็มามอบหมายฉับพลันอย่างนี้ จึงขอถามว่านายกรัฐมนตรีได้แจ้งเป็นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อนเข้าระเบียบวาระกระทู้ถามแล้วหรือไม่ ถ้าใช่ช่วยอ่านหนังสือชี้แจงให้ชัดเจนด้วย

 

จากนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งให้ทราบว่านายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งมอบหมายมาแล้ว ว่าให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ตอบกระทู้ของชัยธวัชแทน เมื่อเช้าเวลา 8.30 ผู้ที่จะถามกระทู้สดมีการประชุมร่วมกันที่ชั้น 10 เพื่อพิจารณาว่ากระทู้ถามทั้ง 3 กระทู้เข้าเกณฑ์เป็นกระทู้สดหรือไม่ โดยทีแรกกำหนดให้กระทู้ของชัยธวัชเป็นกระทู้ที่ 3 ภายใต้ข้อพิจารณาว่าผู้ตอบกระทู้พร้อมหรือไม่ หรือผู้ถามพร้อมที่จะถามหรือไม่

 

พิเชษฐ์กล่าวต่อไป ว่าหลังจากทั้ง 2 ท่าน คือชัยธวัช และ ชัยชนะ เดชเดโช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกจากห้องไปแล้ว อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ตอนแรกจะถามเป็นคนแรก ยังอยู่ที่ราชบุรี กำลังรีบเดินทางจากราชบุรีอยู่และมาอาจจะล่าช้า การเรียงลำดับกระทู้จึงเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะประสานผู้ถามผู้ตอบ ใครจะถามตอบก่อนหลัง จึงเป็นที่มาที่ทำให้กระทู้แรกเป็นของชัยธวัช

 

ดังนั้น ถ้าชัยธวัชจะไม่ถาม ตามข้อบังคับข้อที่ 155 กระทู้ถามของชัยธวัยก็จะตกไป เลื่อนกระทู้ที่ 2 ขึ้นมาแทน ถ้าถามตอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแล้ว เมื่อนายกรัฐมนตรีมาถึงอาจมีเจ้าหน้าที่บันทึกไว้ และก็อาจจะตอบด้วยก็ได้

 

จากนั้น วิโรจน์ จึงได้หารือโดยอ้างถึงข้อบังคับข้อที่ 151 อีกครั้ง โดยระบุว่าตามข้อบังคับดังกล่าว นายกรัฐมนตรีจะต้องแจ้งเหตุจำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ต่อประธานสภา แต่จากหนังสือที่มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมนั้น มีแค่คำบัญชา ไม่เห็นว่ามีเหตุจำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อะไร และตราบที่ไม่มีการชี้แจงเหตุผลใด ๆ นายกรัฐมนตรีกำลังทำผิดข้อบังคับข้อที่ 151 ประธานจะปล่อยให้นายกรัฐมนตรีทำผิดข้อบังคับเช่นนี้ไม่ได้

 

หรือหากจะอ้างวรรคที่ 3 ของข้อบังคับ ที่ระบุว่านายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี ย่อมมีสิทธิที่จะไม่ตอบกระทู้ถามเมื่อเห็นว่าเรื่องนั้นยังไม่ควรเปิดเผย เพราะเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือประโยชน์ของแผ่นดิน ก็ต้องชี้แจงว่าเรื่องอะไรที่ยังไม่ควรเปิดเผย หรือเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยหรือประโยชน์ของแผ่นดินอย่างไร

 

อย่างไรก็ตาม พิเชษฐ์ ได้ตอบวิโรจน์โดยระบุว่าทุกอย่างเป็นไปตามวรรค 2 ของข้อบังคับข้อที่ 151 มีการทำหนังสือมาถูกต้องทุกอย่างแล้ว และวินิจฉัยให้ชัยธวัชเลือก ว่าจะถามกระทู้หรือไม่

 

จากนั้น พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้หารือว่าข้อบังคับข้อที่ 151 ในวรรค 1 เขียนไว้ชัดว่านายกรัฐมนตรีอาจไม่มาตอบ ถ้ามีเหตุจำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ต้องแจ้งเหตุผลเป็นหนังสือ แต่ตนก็ยังไม่เห็นว่ามีการแจ้งเหตุจำเป็นดังกล่าวอยู๋ในตัวจดหมายที่แจ้ง จึงเกรงว่าคำวินิจฉัยของประธานอาจไม่สอดคล้องกับข้อบังคับข้อที่ 151 และอาจกลายเป็นบรรทัดฐานที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของสภาในอนาคต

 

ระหว่างการหารือดังกล่าว ได้มีการประท้วงสลับกันไปมาระหว่าง สส. ฝ่ายรัฐบาลกับ สส.พรรคก้าวไกล เป็นระยะ ซึ่งสุดท้ายประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ยืนยันในคำวินิจฉัยของตนเอง ว่านายกรัฐมนตรีทำถูกต้องตามระเบียบและข้อบังคับแล้ว และขอให้ชัยธวัชยืนยันว่าจะถามกระทู้ต่อหรือไม่

 

ด้านชัยธวัช ได้ยืนยันว่าประเด็นนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรี ที่อาจจะเป็นการผิดกฎหมายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ สุดท้ายจึงขอแจ้งประธานว่าจะไม่ถามกระทู้สดในวันนี้

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ระเบียบวาระกระทู้ถามสดที่ 2 และ 3 ปรากฏว่านายกรัฐมนตรี ได้เข้าตอบคำถามด้วยตัวเองทั้งสองกระทู้จนจบวาระกระทู้ถามสด โดยตลอดการตอบกระทู้ นายกรัฐมนตรีไม่ได้เอ่ยถึงเหตุผลที่ตนเลือกที่จะไม่ตอบกระทู้ของชัยธวัชด้วยตนเองแต่อย่างใด

 

ทั้งนี้ ชัยธวัช ได้โพสต์ข้อความผ่าน X กล่าวถึงกรณีนี้ว่า วันนี้เป็นที่ชัดเจนว่านายกฯ เจตนาไม่ตอบกระทู้ถามสดของพรรคก้าวไกล ต้องการจะตอบกระทู้ถามสดเฉพาะที่ตนเองเตรียมมาตอบหรือชงให้โฆษณารัฐบาลเท่านั้น จริง ๆ ประเด็นสำคัญของปัญหาที่ตนต้องการถามนายกฯ จะเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจที่มีลักษณะ ”ประยุทธ์คิด เศรษฐาทำ ไอ้โม่งสั่ง“ ด้วย

 

"น่าผิดหวังที่คุณเศรษฐา กล้าใช้อำนาจในลักษณะที่อาจผิดกฎหมาย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่ควรปกป้องผลประโยชน์สาธารณะ และเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง แต่ไม่กล้าเผชิญหน้าการตรวจสอบจากฝ่ายค้านในสภา ตั้งใจไม่มาตอบกระทู้ถามสดของก้าวไกล แล้วเข้ามาตอบกระทู้ถามอื่นได้ในเวลาติดกัน" ชัยธวัชระบุ

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ประชุมสภา