แถลงการณ์สมัชชาคนจน
ฉบับที่ 2
“ขอบคุณรัฐบาลที่เร่งแต่งตั้งตัวแทนเปิดการเจรจาเแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน"
ตามที่
กลุ่มสมัชชาคนจน จัดการชุมนุมสาธารณะ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาของชาวบ้าน
โดยนัดหมายชุมนุมตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา
บริเวณพื้นที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทำเนียบรัฐบาลและบริเวณโดยรอบ
ซึ่งมีการแจ้งการชุมนุมสาธารณะตามกฎหมาย เพื่อเรียกร้องถึงปัญหาแรงงาน ที่ดิน
พืชผลทางการเกษตรกับรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
คืบหน้าล่าสุดวันนี้(12 ตุลาคม
2566) ‘สมัชชาคนจน’ ออกแถลงการณ์สมัชชาคนจน ฉบับที่ 2
“ขอบคุณรัฐบาลที่เร่งแต่งตั้งตัวแทนเปิดการเจรจาเแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน"
โดยมีรายละเอียดระบุว่า
หลังจากพวกเรา
สมัชชาคนจน
ประกาศนัดหมายชุมนุมเจรจาแก้ไขปัญหากับรัฐบาลตลอดระยะเวลาการปักหลักชุมนุมทั้ง 5 วันที่ผ่านมา
ณ บริเวณถนนลูกหลวง ริมคลองผดุงกรุงเกษม ข้างกระทรวงศึกษาธิการ
สมัชชาคนจนยื่นข้อเรียกร้องที่สำคัญ 3 ประการไปยังรัฐบาลนายเศรษฐา
ทวีสิน เราเรียกร้องในรัฐบาลเร่งดำเนินการศึกษาแนวทางการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน
30 วัน เพื่อเร่งให้มีการจัดตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ
(สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชน
เพราะไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญที่มาจากปลายปากกาเผด็จการทหารที่เข้ามายึดอำนาจและเขียนรัฐธรรมนูญฉบับ
พ.ศ. 2560 ที่ออกมาบังคับใช้
อีกทั้งยังขัดขว้างการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน
ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนใหญ่ภายใต้กลไกอำนาจรัฐ
การออกกฎหมายและนโยบายภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ได้สร้างผลกระทบต่อวิถีชีวิตของพวกเรา เกิดการแย่งยึดฐานทรัพยากรไปจากชุมชน
ปล่อยปละละเลยให้มีการขูดรีดแรงงานจากกลุ่มทุนใหญ่ทุนข้ามชาติ
เกิดการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
อีกทั้งยังมีการบังคับใช้กฎหมายปิดปากผู้เห็นต่างทางการเมืองจนกลายเป็นปัญหาใหม่ที่รุนแรงกว่าเดิม
แม้ว่ารัฐบาลจะได้มีมติมอบหมายตัวแทนนำโดยร้อยเอกธรรมนัส
พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
มาเป็นตัวแทนรัฐบาลเปิดการรเจรจานัดแรกในวันที่ 11 ตุลาคม 2566 ในเบื้องต้นผลจากการเจรจราเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง
แต่ก็ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้เพราะบางกรณีปัญหายังต้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับสมัชชาคนจนซึ่งเราก็ต้องทำงานร่วมกันต่อไป
และขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่เร่งแต่งตั้งตัวแทนมาเจรราร่วมกับพวกเรา
ท้ายนี้เราขอขอบคุณเพื่อนพ้องที่รักในความยุติธรรมสำหรับความเอื้อเฟื้อข้าวของเครื่องใช้
กำลังใจ และอื่นๆ ที่ส่งมายังสมัชชาคนจน และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเอื้อเฟื้อตลอดการชุมนุม
โดยลงท้ายแถลงการณ์ว่า
ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน