วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ธิดา ถาวรเศรษฐ : 1 ส.ค. 2568 : ใครว่า “ฮุนเซน” เพิ่งเปิดเกมรุกในยุคนี้

 


ธิดา ถาวรเศรษฐ : 1 ส.ค. 2568 : ใครว่า “ฮุนเซน” เพิ่งเปิดเกมรุกในยุคนี้


สังเกตเกมรุกทางทหาร ทางการทูตและสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และสื่อสารในสังคมกัมพูชาและสังคมโลกของ “ฮุนเซน”


ดิฉันคิดว่า “ฮุนเซน” เตรียมการไว้นานแล้ว เพราะการมีจุดเริ่มต้นจากประวัติชีวิตที่เป็นชาวคอมมิวนิสต์เขมรแดง และหนีมาเวียดนามทำกองทัพใหม่ ชิงอำนาจจากเขมรแดง เขาก็ต้องเผชิญกับปัญหาความสัมพันธ์ต่างประเทศมานานแล้ว เริ่มต้นคือ จีน, โซเวียต, เวียดนาม แล้วต่อมาก็คือผลจากโลกเสรี ทำให้จัดการเลือกตั้ง มีเขมรหลายฝ่าย แต่สิ่งที่ “ฮูนเซน” กุมไว้คือ กำลังทหารให้ได้เปรียบในการยึดพื้นที่ และการสนับสนุนจากต่างประเทศ จนสามารถทำให้กัมพูชามีนายกรัฐมนตรี 2 คน ทั้งที่คะแนนแพ้แล้วสามารถจัดการพรรคอื่น ๆ ได้หมด มาจนบัดนี้เขาต้องพลิกแพลงยืดหยุ่น ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากขึ้นกับเวียดนาม, รัสเซีย มาขึ้นกับจีน และใช้ประโยชน์จากแต่ละประเทศให้เป็นคุณได้ในแต่ละเวลา จนบัดนี้ก็แสดงความอ่อนน้อมเอาใจสหรัฐอเมริกา การส่ง “ฮุนมาเนต” ไปเรียนที่เวสป้อยท์ แสดงว่า “ฮุนเซน” เตรียมการไว้แล้วที่จะใช้ช่องทางโลกเสรีมาสนับสนุนตนด้วย ทำให้เราเห็นผลงานในช่วงนี้ที่กัมพูชาเดิมเกมรวดเร็วมาก ปิดเกมรุกทางต่างประเทศได้ก่อน 1 สิงหาคม เพื่อผลจากการได้รับประโยชน์เรื่องทั้งภาษี และบังคับไทยให้หยุดรบ และพร้อมที่จะแสดงท่าทีอำนวยประโยชน์ทางการเมืองการทหาร จับมือกับสหรัฐอเมริกาหลังจากการเป็นลูกน้องเวียดนามมาเป็นจีนแล้ว


ตอนนี้ก็พร้อมจะเป็นลูกน้องสหรัฐฯ หรือว่าทำงานเวทีต่างประเทศอย่างน่าพิศวงมากที่กลับตัวรวดเร็ว พร้อมทั้งกล้าพูดแถลงข่าวที่ตรงข้ามกับการกระทำที่ผิดกฎกติกาสากลในการทำสงครามและข้อตกลง อย่างครั้งล่าสุดคือการหยุดยิง นี่กัมพูชาอาจจะถือเป็นกลยุทธ์ในศึกพิพาทชายแดนกับไทย (แต่ไม่จบ)


ดังนั้น 1) อนาคตการทำการตกลงเจรจาต่าง ๆ ที่กัมพูชาเคยทำผิด จนรัฐไทย ทางกองทัพ ร้องเรียนมาหลายร้อยเรื่อง ต่อไปนี้ก็จะเกิดขึ้นอีกแน่นอน ดังนั้น การทำงานทางการทหารและการสื่อสาร การทูตระหว่างประเทศ จึงหย่อนยานอย่างที่ผ่านมาไม่ได้ เพราะอนาคตปัญหาชายแดนจะยากลำบากมากขึ้น เหมือนปัจจุบันนี้ อันเป็นผลจากการละเมิด MOU43 แล้วเราปล่อยให้มีการรุกคืบดินแดนอธิปไตยมานับสิบ ๆ ปี


ต่อไปนี้กัมพูชาก็จะพยายามสร้างความชอบธรรมที่จะนำพื้นที่ปราสาทชายแดนไปขึ้นศาลโลกให้ได้ เพื่อให้คนกัมพูชาชื่นชม ยอมรับ การครองอำนาจของครอบครัว “ตระกูลฮุน” ต่อไป


2) ส่วนฝ่ายรัฐไทย เป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลอ่อนแอ “ตระกูลชินวัตร” พ่อลูกก็กำลังเผชิญศึกทางกฎหมาย ไม่สามารถสร้างภาวะการนำรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพและสร้างเอกภาพในการนำพาประเทศไทยได้ ที่สำคัญคือ บุคลากรของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยดูอ่อนด้อยมากเมื่อเผชิญกับการรุกของกัมพูชา ต้องคอยแก้เกมตามหลังกัมพูชา กัมพูชาเป็นประเทศเล็กที่เทียบกำลังเศรษฐกิจและกำลังรบกับไทยไม่ได้ แต่เขามีภาวะการนำที่รวมศูนย์และมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลมากกว่า จึงกำหนดเกมให้ไทยเดินตามและเป็นฝ่ายรับ คอยแก้เกมไปเรื่อย ๆ ดิฉันเชื่อว่าเขามีแผนการรุกต่อไปทั้ง 2 แนวรบ คือทั้งการทหารและการสื่อสาร งานการทูตต่างประเทศ เขาจะมีเกมใหม่ ๆ ที่เตรียมวางไว้แล้ว

 

บุคลากรของรัฐบาลไทยและผู้นำยังไม่อาจทำให้คนไทยเชื่อมั่นได้เลย แต่กัมพูชาเตรียมไว้ แม้แต่คณะที่ปรึกษาและลอบบี้ยีสต์ หลายชุดไว้นานแล้ว ทั้งได้ศึกษาวิธีการตั้งแต่ยุค นโรดม สีหนุ ที่ได้รัยชัยชนะเรื่องปราสาทพระวิหาร

 

ในขณะที่ชุดทนายไทยเวลานั้นสนใจทำพิธีกรรม ขอให้พระเจ้าตากสินช่วย (อ้างถึงคำบอกเล่าของสุตสาย หัสดิน) มีทั้งคนทรงและจุดธูปจริงและใช้จุดซิการ์ วางหันทิศมาไทย แทนการจุดธูป ดิฉันอ่านเรื่องราวช่วงนั้นก็ได้แต่เศร้าใจ แต่ทำอย่างไรได้ เพราะทีมทนายเราเป็นหัวหน้าฝ่ายจารีตนิยมที่สำคัญ ดิฉันหวังว่ากัมพูชาคงไม่สามารถเดินเกมรุกที่คณะมนตรีความมั่นคงเพื่อเอามาเป็นพวก ไม่ให้ใช้สิทธิ์ยับยั้งการให้ไทยถูกนำขึ้นศาลโลกสำเร็จ

 

เก่งจริง ๆ “ตระกูลฮุน” ผู้รู้เรื่องประเทศไทยดี และหวังว่าการรู้เขารู้เราของ “ตระกูลฮุน” คงไม่สามารถได้เปรียบในการศึกกับไทย ถ้ารัฐไทยปรับปรุงตนได้เร็ว เดินไปข้างหน้า เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ทั้งประเทศตนเองและเพื่อนบ้าน ไม่ใช่มาทะเลาะกับเรื่องที่ดินชายแดนและปราสาทหิน


ประวัติศาสตร์ประเทศกัมพูชาถ้าย้อนไปน่าขมขื่น ควรจะเดินไปข้างหน้าให้ประชาชนมีความสุขในปัจจุบันและอนาคต ไม่ใช่เฉพาะความมั่นคงแห่งอำนาจของตระกูลผู้ปกครองเท่านั้น นี่คือความปรารถนาดีจากมิตรของประชาชนด้วยกัน


และประเทศไทยต้องพัฒนาการเมืองการปกครองเช่นกัน ไม่ใช่เอาแต่เข่นฆ่า จับกุมคุมขังผู้เห็นต่างทางการเมือง เพื่อให้พวกจารีตอำนาจนิยมครองอำนาจยาวนาน หรือจะเอาอย่าง “ตระกูลฮุน” กัมพูชา และ “ตระกูลคิม” ของเกาหลีเหนือ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ฮุนเซน #กัมพูชา #ไทยกัมพูชา