"ธีรรัตน์" จับมือผู้ว่าฯ ชัชชาติ ผบช.น. และ ป.ป.ส.
ปล่อยแถวปฏิบัติการ "No Drugs No Dealers" ปิดล้อมตรวจค้นชุมชนเสี่ยงยาเสพติด
เดินหน้าบูรณาการภาครัฐ ท้องถิ่น ชุมชน ลุยเข้ม Re X-ray ทั่วกรุงเทพฯ
อย่างต่อเนื่อง
วันนี้
(26 สิงหาคม 2568) เวลา 06.00 น.
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
เป็นประธานปล่อยแถวเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในชุมชนที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด
ตามนโยบาย "No Drugs No
Dealers" โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นายอำนาจ
เหล่ากอที ผู้อำนวยการ ป.ป.ส. กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง
เจ้าหน้าที่สาธารณสุข รวม 300 คน ร่วมพิธี ณ
ลานพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง กรุงเทพฯ
น.ส.ธีรรัตน์
กล่าวว่า การปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นตามนโยบายรัฐบาล "No Drugs No
Dealers" ถือเป็นมาตรการสำคัญที่มุ่งสร้างชุมชนกรุงเทพมหานครและทุกพื้นที่ให้ปลอดภัยจากยาเสพติด
และเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในกรุงเทพฯ
ทั้ง 50 เขต ควบคู่กับนโยบาย Seal Stop Safe ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
เพื่อให้การแก้ไขปัญหาบรรลุผลในระยะเวลาเร่งด่วนตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี
โดยมีความคาดหวังอย่างชัดเจนว่ายาเสพติดต้องหมดไปจากสังคมไทย
ดังที่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศได้ Kick Off เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด
เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนด้วยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนบูรณาการการทำงานอย่างเต็มที่
ครอบคลุมทั้งการป้องกัน ป้องปราม ปราบปราม
และบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดกลับคืนสู่สังคม มุ่งหวังให้สถิติผู้เสพลดลง
การจับกุมและการป้องกันการแพร่ระบาดในชุมชนเห็นผลอย่างมีนัยสำคัญ
อันจะทำให้สังคมสามารถพึ่งพากลไกภาครัฐได้อย่างแท้จริง
"จุดมุ่งหมายสำคัญของการดำเนินการครั้งนี้
คือการทำให้สังคมไทยปลอดจากทั้งผู้ค้าและผู้เสพ
โดยประชาชนต่างคาดหวังให้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นที่พึ่งในการรับแจ้งเบาะแสและนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดดังที่ท่านรองนายกรัฐมนตรีได้ย้ำเสมอว่า
นอกจากประชาชนจะเป็นผู้ที่รู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้ค้าและผู้เสพแล้ว
เจ้าหน้าที่เองก็เป็นกำลังสำคัญที่มีข้อมูลอย่างรอบด้านเช่นกัน
การไม่เพิกเฉยต่อปัญหาและการลุกขึ้นมาแก้ไขอย่างจริงจังจะนำไปสู่ความสำเร็จในการปราบปรามยาเสพติดได้อย่างแท้จริง
ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่าย" น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว
น.ส.ธีรรัตน์
กล่าวต่อไปอีกว่า ภาครัฐและทุกฝ่ายจึงจำเป็นต้องทบทวนแนวทางการทำงาน
ปรับปรุงมาตรการให้ทันสมัย และเพิ่มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เพื่อให้ผลลัพธ์ดีกว่าในอดีต
อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน
พร้อมทั้งมีการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นและระมัดระวัง
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ลดความเดือดร้อนของประชาชน
ร่วมกันทำให้ยาเสพติดหมดไปจากสังคมไทย
ด้านนายชัชชาติ
กล่าวว่า กทม. เน้นการสร้างภูมิคุ้มกันในชุมชนและการบำบัดผู้เสพทั้ง 69
แห่งรองรับการรักษา และมีผู้เข้ารับการบำบัดแล้วกว่า 4,500
ราย โดยย้ำว่า “ผู้เสพคือผู้ป่วย” ต้องเข้าสู่ระบบบำบัดครบถ้วน
ควบคู่กับการให้ความรู้แก่ประชาชน ซึ่งในช่วง 2
เดือนที่ผ่านมา ชุมชนสะท้อนถึงความพึงพอใจและเห็นถึงความจริงจังของรัฐบาล
พล.ต.ท.สยาม
กล่าวถึงการปฏิบัติการว่า ได้ตรวจค้นครอบคลุม 376 ชุมชน จับกุมผู้ค้าแล้วกว่า 800
ราย และนำผู้เสพเข้าสู่ระบบบำบัดกว่า 5,000 ราย
พร้อมย้ำว่าหากพบสถานบริการปล่อยปละละเลยให้มีการซื้อขายหรือเสพยา
จะถูกสั่งปิดทันที รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะถูกลงโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาด