“มาริษ”
ประณามกัมพูชาวางทุ่นระเบิด “รัศม์” ย้ำอีกรอบ กัมพูชาชะลอเก็บกู้ทุ่นระเบิด ไม่รับข้อเสนอปราบอาชญากรรมออนไลน์
หวัง “ผู้แทนออตตาวา-อาเซียน” ลงพื้นที่พรุ่งนี้ (16 ส.ค.)
วันนี้
15 สิงหาคม 2568 กระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดการบรรยายสรุปแก่
คณะทูตกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา
เกี่ยวกับเหตุการณ์การใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา โดยมีผู้เข้าร่วม 67
คนจาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ ที่เป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาดังกล่าว
นายมาริษ
เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
กล่าวเปิดการบรรยายผ่านบันทึกวิดีทัศน์ เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างเยือนจีน
เพื่อประธานร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง
หรือ MLC ครั้งที่ 10 ที่เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน
ผมเสียดายที่ไม่สามารถมาร่วมการบรรยายสรุปด้วยตัวเองได้
เนื่องจากมาเยือนประเทศจีนเพื่อเป็นประธานร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ
ตามกรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (MLC) ครั้งที่ 10 ความว่า
วัตถุประสงค์ของการบรรยายสรุปคือเพื่อให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ทุ่นระเบิดที่ชายแดนไทย-กัมพูชาแก่ประเทศสำคัญ
ๆ และองค์กรระหว่างประเทศภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคล
หรืออนุสัญญาออตตาวา ตลอดจนประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวที่จัดตั้งขึ้นตามการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา
ครั้งที่ 16 สมัยวิสามัญ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ และประเทศผู้สังเกตการณ์และองค์กรอื่น
ๆ
เป็นเวลากว่าสองทศวรรษแล้วที่ประเทศไทยได้ยึดมั่นในพันธกรณีทางกฎหมายภายใต้อนุสัญญาออตตาวาอย่างเต็มที่
จวบจนถึงปัจจุบัน เราได้กอบกู้และส่งคืนพื้นที่มีการวางทุ่นระเบิดกว่าร้อยละ 99
ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2,500 ตารางกิโลเมตร
กลับคืนสู่ชุมชนของเรา
อีกทั้งได้ดำเนินการและยังคงให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากทุ่นระเบิด
เพื่อให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและปกติสุข
ความพยายามร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านมนุษยธรรมจากทุ่นระเบิดได้รุดหน้าไปมากแล้ว
และนี่คือเหตุผลที่เหตุการณ์ทุ่นระเบิดที่ชายแดนไทย-กัมพูชาจึงสร้างความสะเทือนขวัญให้กับพวกเราอย่างมาก
และย้ำเตือนเราอีกครั้งว่าไม่ควรมีพื้นที่หรือเหตุผลใด ๆ
ในการใช้อาวุธชนิดนี้อีกต่อไป
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์
ได้มีการตกลงหยุดยิง ซึ่งไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงนี้โดยสมบูรณ์
แต่เป็นที่น่าเศร้าใจที่ไม่ถึงห้าวันหลังจากการประชุม
ก็เกิดเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดอีกสองครั้ง
โดยหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจนว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่โดยกัมพูชา
เหตุการณ์ทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหล่านี้
แสดงให้เห็นว่ากัมพูชายังคงจงใจละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย
ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงและข้อตกลงหยุดยิงที่ตกลงกันไว้เมื่อเร็วๆ
นี้ ยิ่งไปกว่านั้น กัมพูชายังจงใจละเมิดพันธกรณีหลักภายใต้อนุสัญญาออตตาวาอีกด้วย
ประเทศไทยขอประณามการกระทำเหล่านี้อย่างรุนแรงที่สุด
การกระทำเหล่านี้บ่อนทำลายความสมบูรณ์ของอนุสัญญาออตตาวา
และเจตนารมณ์ของปฏิญญาเสียมราฐ-อังกอร์
ซึ่งได้รับการรับรองภายใต้การปกครองของกัมพูชาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 การกระทำเหล่านี้ยังถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
ซึ่งเป็นหลักการที่ผมเชื่อว่าทุกท่านในที่นี้ยึดมั่นอยู่
ก่อนเกิดสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา
นายกรัฐมนตรีไทยได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเกี่ยวกับปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม
ซึ่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ให้ความเห็นชอบแล้ว อย่างไรก็ตาม
ฝ่ายกัมพูชาได้ชะลอการดำเนินการ ซึ่งมาตรการเหล่านั้น หากดำเนินการก็อาจสามารถป้องกันความสูญเสียอันน่าเศร้าที่เพิ่งเกิดขึ้นได้
ที่สำคัญกว่านั้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาพยายามขัดขวางการปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิดของไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แม้จะมีการเรียกร้องให้ปฏิบัติตามและร่วมมืออย่างต่อเนื่อง
แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่กัมพูชาไม่ได้ตอบสนอง ข้อกังวลเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีความสำคัญโดยตรงต่อประเทศไทยเท่านั้น
แต่ยังมีความสำคัญต่อชุมชนนานาชาติ
โดยเฉพาะผู้บริจาคที่ให้การสนับสนุนกัมพูชาด้วยความจริงใจอีกด้วย
ดังนั้น
ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่ากัมพูชาจะหยุดการใช้ทุ่นระเบิดอย่างไร้มนุษยธรรม
และปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายภายใต้อนุสัญญาออตตาวาและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
ดังที่ท่านทราบ
ประเทศไทยได้แจ้งเรื่องนี้ต่อเลขาธิการสหประชาชาติ และผ่านทางเลขาธิการ
เพื่อขอคำชี้แจงจากกัมพูชาตามมาตรา 8 วรรค 2
ของอนุสัญญาออตตาวา เราจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป
เราขอเรียกร้องประเทศสมาชิกอาเซียน
ในฐานะคณะสังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team) ให้พิจารณาประเด็นนี้อย่างถี่ถ้วนในการไปสำรวจพื้นที่ในอนาคต
เพื่อที่บริเวณชายแดนจะปลอดภัยเพื่อประโยชน์ของพลเรือนของทั้งสองประเทศ ผมยังอยากขอเชิญท่านร่วมการลงพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
ในวันพรุ่งนี้ เพื่อ สังเกตการณ์สถานการณ์ทุ่นระเบิดด้วยตัวท่านเอง
สุดท้ายนี้
ผมขอยืนยันความมุ่งมั่นของประเทศไทยต่อพันธกรณีตามอนุสัญญาออตตวา และการหยุดยิง
รวมทั้งขอขอบคุณทุกท่านที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยายสรุปในวันนี้ครับ
ด้าน
นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวบรรยายสรุปแก่
คณะทูตจากกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) กว่า 50
ประเทศ ที่ได้เข้าร่วมการบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุด
กรณีการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยกัมพูชา
ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากประชาคมระหว่างประเทศ
โดยหนึ่งในนั้นคือการเปิดหลักฐานทุ่นระเบิด PMN-2 ที่เก็บกู้ได้จากชายแดนไทย-กัมพูชา
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กระทรวงการต่างประเทศ #ทุ่นระเบิด #กัมพูชา #อนุสัญญาออตตาวา