วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2567

นายกฯ เผย ครม.เคาะเยียวยาพื้นที่น้ำท่วมใต้ ครัวเรือนละ 9,000บาท เพิ่มอีก16จังหวัดวงเงิน 5 พันล้านบาท ขยายกรอบงบภัยพิบัติจาก 20 ล้านเพิ่มเป็น 50 ล้านบาท

 



นายกฯ เผย ครม.เคาะเยียวยาพื้นที่น้ำท่วมใต้ ครัวเรือนละ 9,000บาท เพิ่มอีก16จังหวัดวงเงิน 5 พันล้านบาท ขยายกรอบงบภัยพิบัติจาก 20 ล้านเพิ่มเป็น 50 ล้านบาท


วันที่ 3 ธันวาคม 2567 เวลา12.11 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า วันนี้มีเรื่องใหญ่ ๆ หลายเรื่องคือปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้เป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาล ครม.ได้รับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยมีการเพิ่มกรอบเงินทดรองของจังหวัดจากเดิม 20 ล้านบาทขยายเพิ่มเป็น 50 ล้านบาทในจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเป็นจังหวัดที่รับผลกระทบภัยพิบัติ 6 จังหวัด ได้แก่นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี, สงขลา, ยะลา, ปัตตานีและนราธิวาส


นอกจากนี้ครม. ยังได้เห็นชอบอนุมัติการใช้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567 เพิ่มเติมในกรอบของงบประมาณตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขและวิธีการจ่ายเงินที่ให้มีการปรับในกรณี ที่อยู่อาศัยประจำพื้นที่น้ำท่วม ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ไม่เกิน 7 วันและทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายหรือที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันเกินกว่า 7 วันให้ความช่วยเหลืออัตราเดียวกันทุกครัวเรือน ให้ครัวเรือนละ 9,000 บาทจากเดิมใน 57 จังหวัด เพิ่มเติมอีก 16 จังหวัด รวมถึงจังหวัดในภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วย เป็นจำนวนเงิน 5,000 ล้านบาทจนถึงสิ้นปีพ.ศ 2567 โดยให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการอย่างเร่งด่วนต่อไป


ทั้งนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการ ในที่ประชุม ครม. ดังนี้


1. เรื่องน้ำท่วมภาคใต้


- แม้สถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้จะเริ่มคลี่คลาย แต่ยังไม่กลับเข้าสู่สภาวะปกติในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานี ยังมีปัญหาเรื่องระบบไฟฟ้าและประปา


- ประกอบกับศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้ประกาศแจ้งเตือนว่าตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 5 ธันวาคม จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่


- เพื่อให้การบริหารสถานการณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ขอให้คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ที่มีท่านรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานรับดำเนินงานต่อเนื่องจาก ศปช. ต่อไป โดยให้ท่านรองนายกฯ ภูมิธรรม เป็นที่ปรึกษาของประธาน เร่งปฏิบัติหน้าที่และใช้กลไกตามกฎหมายในการบริหาร ระดมความร่วมมือของรัฐและเอกชนเร่งแก้ไขสถานการณ์ภัยพิบัติโดยเร็ว ตลอดจนขอให้เร่งสำรวจ และรายงานความเสียหาย รวมทั้งแนวทางการฟื้นฟูให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว


2. เรื่องการค้าการลงทุน


- จากการที่นายกรัฐมนตรีได้พบกับนักลงทุน ทั้งในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศ และการพบกับสมาคมการค้าและภาคธุรกิจต่าง ๆ ทำให้เห็นถึงโอกาสของประเทศไทยที่จะดึงดูดนักลงทุน ภายใต้สถานการณ์ที่มีความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ (GEOPOLITICS) โดยเฉพาะนโยบายทางการค้าของประธานาธิบดี ทรัมป์ ที่เร่งให้บริษัทจำเป็นต้องเร่งปรับตัวและปรับแผนในการลงทุนในภูมิภาค ASEAN


- ขณะเดียวกัน ก็ได้รับฟังถึงความท้าทายและข้อจำกัดต่าง ๆ ที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข จึงได้ฝากเรื่องที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน 4 เรื่อง เพื่อช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ดังนี้

1) การพัฒนาพื้นที่สำหรับรองรับการลงทุน โดยเฉพาะการจัดสรรและพัฒนาที่ดินให้เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่

2) ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยบริษัทรายใหญ่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายต้องการพลังงานหมุนเวียนสะอาด (Direct PPA)

3) มาตรการรองรับ Global Minimum Tax ซึ่งจำเป็นต้องออกกฎหมายให้ทันการบังคับใช้ในปี 2568 ทั้งในส่วนของการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำและมาตรการด้านสิทธิประโยชน์

4) การแก้ไขกฎระเบียบอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการประกอบธุรกิจหรือ Ease of Doing Business เช่น การผ่อนปรนเงื่อนไขการจ้างงานชาวต่างชาติของกระทรวงแรงงาน โดยเฉพาะในกลุ่มบุคลากรทักษะสูง โดยมอบหมายให้ BOI จัดทำรายละเอียดมาตรการ ผ่านรองนายกฯ พิชัย เพื่อมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป


3. การปราบปรามยางเถื่อนผิดกฎหมาย เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีมาตรการโครงการสินเชื่อชะลอการขายยาง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้ปลูกยาง เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางในตลาด อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาการลักลอบนำยางเถื่อนเข้ามาจากต่างประเทศตามแนวชายแดน ทำให้ราคายางในประเทศต่ำลง จึงสั่งการให้กระทรวงกลาโหม หน่วยงานความมั่นคง เร่งปราบปรามปัญหาการลักลอบการนำเข้ายางเถื่อนจากต่างประเทศอย่างเร่งด่วน ตลอดจนขอให้กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง มีมาตรการที่เข้มงวดในพิธีศุลกากรตามแนวชายแดน เพื่อไม่ให้เกิดการลักลอบยางเถื่อนเข้า และออกจากประเทศ โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #นายกแพทองธาร #ประชุมครม #น้ำท่วม67 #น้ำท่วมภาคใต้