วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2567

จม.แดน 4 ฉบับ 4 ธันวา 'อานนท์' เขียนถึงลูก อากาศเริ่มเย็น ยามนี้ต้องทำใจเผื่อต้องย้ายเรือนจำ พ่อเตรียมเก็บข้าวของบางส่วนเผื่อต้องย้ายไปเรือนจำคลองเปรมหรือเรือนจำเชียงใหม่

 


จม.แดน 4 ฉบับ 4 ธันวา 'อานนท์' เขียนถึงลูก อากาศเริ่มเย็น ยามนี้ต้องทำใจเผื่อต้องย้ายเรือนจำ พ่อเตรียมเก็บข้าวของบางส่วนเผื่อต้องย้ายไปเรือนจำคลองเปรมหรือเรือนจำเชียงใหม่


วันที่ 6 ธ.ค. 2567 เพจ “อานนท์ นำภา” โพสต์จดหมายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และข้อความในจดหมายฉบับวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ระบุว่า


จดหมายฉบับลงวันที่ 4 ธ.ค. 2567


อาจบางทีก็อยากให้ลูกทั้งสองโตช้ากว่านี้ พ่ออยากมีช่วงเวลาที่ได้เล่นของเล่นกับลูก อยากสอนลูกพูด สอนใช้ห้องน้ำ ป้อนข้าว พาลูกไปส่งที่โรงเรียน ฯลฯ แต่ชีวิตคนเราก็ต้องเติบโต มนุษย์ต้องเติบโตไปตามวัยอันควร ลูกทั้งสองต้องเติบโตและใช้ชีวิตที่งดงาม ความทรงจำในวัยเด็กของพวกเราคงมีโอกาสได้พบเจอกันแค่ในศาล จากวันนี้ไปอย่างน้อย 16 ปี เราอาจจะได้อยู่กันพร้อมหน้า เจ้าขาลคงโตเป็นหนุ่มย่างเข้าสู่วัยมหาลัย เจ้าปราณคงย่างเข้าสู่วัยเบญจเพศ


4 ธันวาคม 2567 ถึงปราณและขาล ลูกรักทั้งสอง


ต้องขอบคุณศาลที่ให้โอกาสพ่อได้อุ้มลูกทั้งสองในห้องพิจารณาวานนี้ เป็นความสุขที่ได้อุ้มเจ้าปราณและเจ้าขาลพร้อมๆกัน ทำให้รู้สึกได้ว่าเจ้าปราณโตขึ้นมาก เจ้าขาลพอเห็นพ่ออุ้มพี่สาวก็วิ่งมาขอให้พ่ออุ้มบ้าง ดูแล้วตลกดี


เช้านี้พ่อต้องเตรียมเก็บข้าวของบางส่วนเผื่อต้องย้ายเรือนจำคลองเปรมและเผื่อต้องย้ายไปเรือนจำเชียงใหม่เพื่อพิจารณาคดี 112 อีกคดี เสื้อผ้าส่วนหนึ่งมอบเป็นที่ระลึกให้น้าเก็ท น้าขนุนและ น้าบุ๊ค เก็บเฉพาะที่จำเป็นและเหลือไว้เพียงที่พอใส่ 2-3 ตัว อากาศช่วงนี้เริ่มเย็นจึงต้องเตรียมเสื้อแขนยาวไว้ด้วย การต้องย้ายเรือนจำสำหรับนักโทษเป็นเรื่องที่ต้องทำใจไว้สำหรับความยากลำบากในเบื้องหน้าทั้งที่อยู่ ที่นอน ที่กิน และสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ ผู้คุมใหม่ๆ เป็นห้วงเวลาที่ต้องตระเตรียมทุกอย่างให้พร้อม


ไว้จดหมายฉบับหน้าพ่อจะเขียนมาเล่าให้ฟัง


รักลูกทั้งสอง

อานนท์ นำภา


สำหรับ อานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63


จากนั้น 17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา" เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี 2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก 4 ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว 8 ปี


ต่อมา เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 เวลา 09.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษาคดีของ อานนท์ นำภา หลังถูกฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และ ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุมาจากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564


โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกข้อหาตามฟ้อง พิพากษาจำคุกรวม 3 ปี 1 เดือน ปรับ 150 บาท ก่อนลดเพราะให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุก 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท


ทำให้ปัจจุบันนี้ อานนท์ถูกลงโทษจำคุกรวมทั้งสิ้น 10 ปี 20 วัน เมื่อรวมกับสองคดีในข้อหามาตรา 112 ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกคดีละ 4 ปี ไปเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2566 และ 17 ม.ค. 2567


ทั้งนี้เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 นี้ อานนท์ นำภา มีนัดฟังคำสั่งที่ศาลอาญา รัชดา คดีเขียนจดหมายถึงกษัตริย์ โดยศาลอาญาพิพากษาจำเลยผิดตาม #มาตรา112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) ลงโทษจำคุก 3 ปี มีเหตุลดโทษตามมาตรา 78 ลดโทษ 1/3 คงจำคุก 2 ปี นับโทษต่อจากคดีอื่น ทำให้รวมโทษจำคุกอานนท์เป็น 16 ปี 2 เดือน 20 วัน ใน 5 คดี


และวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่ศาลอาญา รัชดา มีนัดฟังคำสั่ง ม.112 นับเป็นคดีที่ 6 #แฮรี่พอร์ตเตอร์1 กรณีปราศรัยที่หน้าร้านแมคโดนัล อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ด้วย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #อานนท์นำภา #มาตรา112