“พริษฐ์” ย้ำ ดินเนอร์พรรคร่วมฝ่ายค้าน ปัดเช็กตัวเลข สส. พรรคร่วม บอกแค่
ปชน. กว่า 140 สส.ก็พอตรวจสอบรัฐบาลแล้ว
ยันซักฟอกรัฐบาลเข้มข้นแน่
วันที่
18 ธันวาคม 2567 เวลา 10.30 น.ที่รัฐสภา
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน
กล่าวถึงการนัดดินเนอร์พรรคร่วมฝ่ายค้านช่วงเย็นวันนี้(18ธ.ค.)ว่า
การทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านอาจมีความแตกต่างกับพรรคร่วมรัฐบาล
ที่ความคาดหวังเรื่องเอกภาพความสอดคล้องของนโยบายมีลักษณะที่ค่อนข้างสูงแต่พอเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน
ไม่ได้มีความคาดหวังว่าแต่ละพรรคจะมีจุดยืน ขอร่างกฎหมายต่อนโยบาย
หรือแนวทางการทำงานที่เหมือนกัน
และที่ผ่านมาการทำงานร่วมกันจำกัดอยู่ในส่วนของขั้นตอนงานธุรการ เช่น
แบ่งสัดส่วนเวลาในการ อภิปราย ดังนั้นวันนี้คงจะมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการ
และในฐานะแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านจะแจ้ง ถึงความประสงค์ในการเปิดอภิปรายทั่วไป
ตามมาตรา 151 เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล
เมื่อถามถึงบทบาทของฝ่ายค้านที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเบาลง
จะมีการหารือปรับยุทธศาสตร์อย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า
พรรคประชาชนทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านอย่างเต็มที่เข้มข้นคู่ขนาน
ทั้งการตรวจสอบรัฐบาล ผ่านกลไกของกรรมาธิการ การตั้งกระทู้ถาม
แต่เข้าใจว่าคนอยากเห็นบทบาทของการอภิปรายทั่วไปซึ่งในสมัยประชุมนี้จะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ยืนยันได้ว่าเข้มข้นเหมือนเดิม
สำหรับบทบาทในการเสนอร่างกฎหมาย ที่เราเสนอไปแล้วกว่า 80 ฉบับ
จะเป็นกลไกที่จะทำให้ฝ่ายค้านสามารถกำหนดวาระของสังคมได้
และจะเป็นการดึงให้รัฐบาลมาพูดคุยในประเด็นดังกล่าว
เช่นการยื่นร่างพ.ร.บ.กลาโหมที่พรรคเพื่อไทยก็มีการยื่นมาประกบแม้จะถอนออกไปในภายหลัง
แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าเป็นการกระตุก ให้รัฐบาลกลับมาคิด
เมื่อถามถึงสส.พรรคไทยสร้างไทยจะยังอยู่ในสถานะฝ่ายค้านอีกจำนวนเท่าใดนายพริษฐ์
กล่าวว่า คงต้องไปสอบถามกับพรรคไทยสร้างไทยเอง แต่เห็นว่าจากการลงมติในบางครั้ง
ไม่มีความเป็นเอกภาพ ส่วนเสียงของฝ่ายค้านปัจจุบัน พรรคประชาชนมีสส.อยู่กว่า 140 คน
เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการใช้กลไกต่างๆ ของสภาในการตรวจสอบรัฐบาลได้
ไม่ได้เป็นปัญหา
จากนั้น“พริษฐ์”ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ป.ป.ช.) รับพิจารณาคดีเจ้าที่รัฐเอื้อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
เข้ารักษาตัวชั้น 14
โรงพยาบาลตำรวจ ว่าเรื่องนี้เป็นตัวอย่างหนึ่ง
ที่พรรคประชาชนให้ความสนใจ
และหวังว่าจะมีการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาเที่ยงธรรมเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ซึ่งในส่วนที่พรรคประชาชนทำได้คือกลไกของกรรมาธิการและอาจจะมีกลไกอื่น ๆ
ในการตรวจสอบเรื่องนี้เพิ่มเติมด้วย
เมื่อถามว่ามองการทำงานของป.ป.ช.ในฐานะองค์กรอิสระอย่างไร
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ด้วยองค์ประกอบและขอบเขตอำนาจตามกฎหมายที่มี
สิ่งที่ต้องการเห็นคือองค์กรอิสระทำงานตรงไปตรงมาเที่ยงธรรม เป็นทำกับทุกฝ่าย
ต้องคอยตรวจสอบเป็นกรณีไป และหากพูดถึงภาพใหญ่ของการออกแบบองค์กรอิสระ
อีกโจทย์ที่สำคัญหากมีการพูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
พรรคประชาชนได้มองในมุมที่จะทำอย่างไรให้องค์กรอิสระทุกองค์กร
มีขอบเขตอำนาจที่ชัดเจน ได้สัดส่วน ทำอย่างไรให้มีกระบวนการได้มา
ของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ยึดโยงกับประชาชนในระดับหนึ่ง และมั่นใจได้ว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรม
เช่น ป.ป.ช.จะทำอย่างไรให้มั่นใจว่าจะตรวจสอบเรื่องประเด็นทุจริตอย่างเข้มข้น
เท่าเทียมกันโดยไม่มีการอ่อนข้อ ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
และมีกลไกให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบ องค์กรอิสระได้มากขึ้นด้วย