“ศุภโชติ” ชวนจับตาประชุม ครม.วันนี้ จะเคาะรายชื่อ
คกก.เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทะเลไทย-กัมพูชาหรือไม่
แนะรัฐบาลเพิ่มสัดส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน-เปิดข้อมูลกรรมการให้ประชาชนมั่นใจว่าไม่ใช่คนของ
บ.พลังงานส่งมา
วันที่
3 ธันวาคม 2567 ศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ
พรรคประชาชน ให้ความเห็นต่อกรณีรัฐบาลเตรียมตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (Joint
Technical Committee: JTC) เพื่อเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ด้านพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา
ซึ่งน่าจะมีการเคาะองค์ประกอบของรายชื่อคณะกรรมการร่วมฯ
ออกมาในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้หรือในเร็วๆ นี้
ศุภโชติระบุว่า
คณะกรรมการร่วมฯ
ดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา
ซึ่งมีทั้งผลประโยชน์ทางทะเลและทรัพยากรธรรมชาติมูลค่ารวมกว่า 10 ล้านล้านบาท
รวมถึงการเจรจาเรื่องเขตแดนด้วย คณะกรรมการร่วมฯ
ชุดนี้จึงเปรียบเหมือนก้าวแรกของการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาที่ยืดเยื้อมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ
อย่างไรก็ตาม
ที่ผ่านมามีการตั้งคณะกรรมการร่วมฯ ระหว่างสองประเทศมาแล้วหลายชุด
แต่การเจรจายังไม่สัมฤทธิ์ผล โดยที่ผ่านมาองค์ประกอบของคณะกรรมการร่วมฯ
จากฝั่งไทยส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับผู้เชี่ยวชาญด้านเขตแดน
แต่ในความเป็นจริงพื้นที่ที่เป็นประเด็นดังกล่าวไม่ได้มีแค่เรื่องของเขตแดนหรืออาณาเขตทางทะเล
แต่ยังมีเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเป็นก๊าซธรรมชาติหรือปิโตรเลียมที่ควรต้องรวมอยู่ในหัวข้อของการเจรจาด้วย
ศุภโชติกล่าวต่อไปว่า
เราควรช่วยกันจับตาว่าองค์ประกอบของคณะกรรมการร่วมฯ
ในยุครัฐบาลแพทองธารที่กำลังจะเคาะรายชื่อออกมาเร็วๆ นี้จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
เราต้องการเห็นคนที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องของพลังงานมากขึ้น
เพราะถ้าไปดูองค์ประกอบของคณะกรรมการร่วมฯ รอบล่าสุดที่ตั้งขึ้นในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์
จะพบว่ามีผู้แทนจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ 1 คน
และอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติอีก 1 คน จากทั้งหมด 16
ตำแหน่งมีเพียง 2 ตำแหน่งนี้ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านพลังงาน
ส่วนอีก 14 ตำแหน่งที่เหลือเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเขตแดนหรือการต่างประเทศทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นในองค์ประกอบของคณะกรรมการร่วมฯ
ในยุครัฐบาลแพทองธารก็ควรจะเพิ่มสัดส่วนของผู้เชี่ยวชาญทางด้านพลังงานเข้าไปด้วย
และถ้าเป็นไปได้รัฐบาลควรทำเรื่องนี้ด้วยความโปร่งใสยิ่งขึ้น
โดยควรจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการมีส่วนได้ส่วนเสียในเชิงธุรกิจของผู้ที่อยู่ในคณะกรรมการร่วมฯ
ด้วย รวมถึงข้อมูลว่าภรรยา คู่สมรส หรือบุตรได้ถือหุ้นอะไรในบริษัทพลังงานหรือไม่
เคยดำรงตำแหน่งอะไรเกี่ยวกับพลังงานหรือไม่
หากทำได้ก็จะทำให้ประชาชนมั่นใจว่าคณะกรรมการร่วมฯ
ที่แต่งตั้งขึ้นมาจะทำหน้าที่อย่างเป็นธรรม และปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติได้อย่างแท้จริง
“ที่คนกังวลกันคือรายชื่อจะเป็นใคร
จะเป็นแค่คนที่เข้ามาหาผลประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่
มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่
จะมีบริษัทพลังงานที่ส่งคนของตัวเองเข้ามาอยู่ในคณะกรรมการนี้หรือไม่
คนที่ควรอยู่อาจจะโดนกีดกันออกจากคณะกรรมการหรือไม่ ขอให้สังคมช่วยกันจับตาการประชุม
ครม.วันนี้อย่างใกล้ชิด” ศุภโชติกล่าวทิ้งท้าย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กระทรวงพลังงาน #พรรคประชาชน #ไทยกัมพูชา