วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ ไม่รับคำร้อง ปมรมว.ยุติธรรม - กรมราชทัณฑ์ และ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่ง ‘ทักษิณ’รักษาตัวชั้น 14 ล้มล้างอำนาจตุลาการ - ล้มล้างการปกครองฯ ชี้ เป็นเพียงการกล่าวอ้าง ไม่ปรากฎหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอ ยังไกลเกินกว่าเหตุ

 


ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ ไม่รับคำร้อง ปมรมว.ยุติธรรม - กรมราชทัณฑ์ และ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่ง ‘ทักษิณ’รักษาตัวชั้น 14 ล้มล้างอำนาจตุลาการ - ล้มล้างการปกครองฯ ชี้ เป็นเพียงการกล่าวอ้าง ไม่ปรากฎหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอ ยังไกลเกินกว่าเหตุ

 

วันนี้ (18 ธันวาคม 2567) ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ที่ คงเดชา ชัยรัตน์ ผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ถูกร้องที่ 1 มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลกรมราชทัณฑ์ และรับทราบการบังคับใช้กฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่ 2 และผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ผู้ถูกร้องที่ 3 มีอำนาจให้ความเห็นชอบและอนุญาตบังคับใช้กฎกระทรวงดังกล่าว ส่งตัว ทักษิณ ชินวัตร ไปรักษาตัวที่ห้องพิเศษ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ทั้งที่ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีอาการป่วยรุนแรงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 246 วรรคหนึ่ง (2)

 

อีกทั้งดูแลให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 53 กระทำการเอื้อประโยชน์ให้แก่ ทักษิณ ชินวัตร ให้ได้รับสิทธิรักษาพยาบาลดีกว่าผู้ต้องขังรายอื่น ทำให้บุคคลไม่เสมอกันในกฎหมาย ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 เป็นการกระทำที่เป็นการล้มล้างอำนาจอธิปไตยฝ่ายตุลาการ เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง

 

ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 ขอให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ ทักษิณ ชินวัตร เลิกการกระทำที่เป็นการครอบงำหรือจูงใจให้ผู้ถูกร้องทั้งสามใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 49 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสามเลิกการกระทำดังกล่าว

 

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องเป็นเพียงการกล่าวอ้างว่า ผู้ถูกร้องทั้งสามปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานอื่นที่ชัดเจนเพียงพอ และยังห่างไกลเกินกว่าเหตุที่แสดงให้เห็นได้ว่าผู้ถูกร้องทั้งสามกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ศาลรัฐธรรมนูญ #ชั้น14 #ทักษิณชินวัตร