นายกฯ
กล่าวถ้อยแถลง ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ APEC CEOs-Leaders Dinner ประเทศสมาชิก
ระบุไทยพร้อมเสริมสร้างความร่วมมืออย่างรอบด้านระหว่างภูมิภาค ผสมผสานมรดกวัฒนธรรม
ก้าวสู่ความรุ่งโรจน์ในอนาคตร่วมกัน
เมื่อวันที่
14 พฤศจิกายน 2567 เวลา 19.30 น.
(ตามเวลาท้องถิ่นกรุงลิมา ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 12 ชม.) ณ
พิพิธภัณฑ์ Amano กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู นางสาวแพทองธาร
ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ APEC CEOs-Leaders Dinner ร่วมกับผู้นำภาคธุรกิจของเอเปค อย่าง UNACEM Group (ยูเอ็นเอซีอีเอ็ม
กรุ๊ป) บริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานของเปรู และซีอีโอภาคเอกชนอื่น ๆ
ที่สำคัญของเปรู
โดยช่วงก่อนการรับประทานอาหาร
นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของเปรู
ซึ่งมีร้านขายผ้าลายต่าง ๆ โดยผ้าในร้านล้วนมีการสร้างมูลค่าเพิ่ม
ทำจากขนเบบี้อัลปากา ผสมเส้นใยไหมตัววิคูน่า (Vicuña) เคยใช้เป็นผ้าที่มอบให้ผู้นำในการประชุมเอเปคเมื่อปี
2016 และจะมอบให้ผู้นำในปีนี้ด้วย
โอกาสนี้
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงถึงแนวทางการสร้างความร่วมมือระหว่างภูมิภาค
โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของถ้อยแถลง
ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายสมาชิกและแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน
และขอบคุณ นายเปโดร แลร์-แนร์ ผู้บริหาร UNACEM Group ที่เป็นเจ้าภาพในการจัดเลี้ยงอาหารค่ำในวันนี้
ประทับใจกับความคิดริเริ่มด้านการอนุรักษ์ที่นำโดย UNACEM ซึ่งจะช่วยชะลอการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
ถือเป็นก้าวสำคัญสู่ความยั่งยืน
ความคิดริเริ่มนี้เป็นตัวอย่างที่ดีให้เห็นว่าภาคเอกชนสามารถเข้ามามีส่วนส่งเสริมความยั่งยืนได้
ซึ่งก่อนหน้านี้
ในระหว่างการเดินทาง นายกรัฐมนตรีได้ไปชมงานศิลปะสิ่งทอที่มีความปราณีต
แสดงถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานของเปรู
ซึ่งมีความใกล้เคียงกับรูปแบบงานศิลปะสิ่งทอของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
ที่ถึงแม้ว่าทั้งสองประเทศจะอยู่ห่างกันหลายพันไมล์ นอกจากนี้
นายกรัฐมนตรีรู้สึกยินดีที่ได้ทราบว่ามวยไทย ได้รับความนิยมอย่างมากในเปรูด้วย
ซึ่งแฟชั่นและมวยไทยถือเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทย
ที่เรียกว่า Soft
Power โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้มีการส่งเสริม Soft Power ของประเทศไทยภายใต้นโยบาย 5Fs ได้แก่ อาหาร
ภาพยนตร์ แฟชั่น เทศกาล และการต่อสู้ หรือมวยไทย โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า
ทุกฝ่ายจะสามารถสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์
เพื่อสร้างสรรค์ความงามของมรดกทางวัฒนธรรม
จากการใช้ประโยชน์จากผ้าและลวดลายจากท้องถิ่น ไปจนถึงการเสริมสร้างความร่วมมือด้านกีฬา
นอกเหนือจาก
Soft
Power ประเทศไทยมีพร้อมที่จะสร้างความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อีกมากมาย
ตั้งแต่ความมั่นคงทางอาหารไปจนถึงความเชื่อมโยง จากพลังงานสะอาดถึงความร่วมมือด้าน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อุตสาหกรรมยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล
เพื่อสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและสังคมที่ครอบคลุมและยั่งยืน
สานต่อผลประโยชน์ร่วมกันสำหรับประชาชน และคนรุ่นใหม่ ตลอดจนภูมิภาคของเราโดยรวม
นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำว่า
ประเทศไทยได้เปิดกว้างสำหรับธุรกิจ และพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาค
เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยง
โดยรัฐบาลมุ่งมั่นอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจในประเทศ
พร้อมทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงโอกาสในการลงทุนต่างประเทศ โดยระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำ
นายกรัฐมนตรีมีโอกาสได้พูดคุยแลกเปลี่ยน
พร้อมและยินดีที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ทุกคน
ในช่วงท้าย
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณผู้บริหาร UNACEM Group สำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น
โดยนายกรัฐมนตรีได้เพลิดเพลินกับการลิ้มรสอาหารค่ำแบบเปรูในวันนี้
และยินดีที่ทราบว่าพ่อครัวฝีมือดีวันนี้เคยทำงานที่กรุงเทพฯ
พร้อมหวังว่าจะได้ต้อนรับที่ประเทศไทย ไม่ว่าจะเพื่อธุรกิจหรือการพักผ่อน
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #APEC #แพทองธาร #นายกแพทองธาร