“ลิณธิภรณ์”
คาใจ “ธนาธร-พิธา” เป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ไม่มีใครว่า แต่ “ทักษิณ”
ถูกกล่าวหาครอบงำพรรค ยันป็นสิทธิทางการเมือง ถาม ปั่นกระแส “Mou 44” เชื่อมโยงอดีตนายกฯ
ประชาชนได้ประโยชน์อะไร?
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2567 น.ส.ลิณธิภรณ์
วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย
กล่าวตอบโต้กระแสการมุ่งโจมตี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
เป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง นายศราวุธ เพชรพนมพร
เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานีว่า สถานะของ นายทักษิณ คือผู้ช่วยหาเสียงที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ประกอบกับปัจจุบันไม่ได้รับโทษใด ๆ ตามกระบวนการยุติธรรม
จึงย่อมมีสิทธิพลเมืองขั้นพื้นฐาน อย่างสิทธิทางการเมืองในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง
ที่จะรณรงค์หาเสียงให้ นายศราวุธ
เป็นบุคคลที่สมควรได้รับการเลือกตั้งเพื่อชาวอุดรธานีได้สถานะการเป็นผู้ช่วยหาเสียง
ยังปรากฏทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยว่า
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งล้วนถูกตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง
กลับยังเคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มการเมืองของตนเองอยู่ทั้งสิ้น
แต่ปรากฏว่ากลับมีกระแสจากบางฝ่ายมุ่งอคติปิดตาข้างเดียว เลือกข้างโจมตี
โดยไม่ตั้งคำถามถึงการครอบงำของอดีตผู้นำพรรคทั้ง 2 คนต่อพรรคการเมืองในปัจจุบัน
จึงไม่อาจมองข้ามไปได้ว่า ขบวนการส่งต่อข้อมูลข่าวสารเช่นนี้
ยิ่งทำให้สังคมแตกแยกและเข้าใจผิดในวงกว้าง
“เลิกสร้างมาตรฐานผลักไสอดีตนายกฯ
ทักษิณ อยู่เหนือกฎหมาย
การเป็นผู้ช่วยหาเสียงก็ไม่ต่างจากอดีตหัวหน้าอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล
จึงฝากถึงพวกนักปั่นที่ชอบบิดเบือนข่าวสาร มุ่งหวังแต่ผลทางการเมืองทั้งหลาย
ยุยงคนในชาติแตกแยก
ทั้งกรณีพื้นที่ทับซ้อน MOU 44 ไทย-กัมพูชา
หรือเชื่อมโยงอดีตนายกฯ ทักษิณ ครอบงำพรรคเพื่อไทย
ถามว่าประชาชนได้ประโยชน์อะไรกับเรื่องเหล่านี้” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว