อ.ธิดา
ถาวรเศรษฐ :
เตือน “เพื่อไทย” ไม่เหลือสักใบอนุญาต
[ถอดเทป] จากรายการ คมชัดลึก ทาง NationTV ช่อง 22
เมื่อวันที่
29 พ.ย. 2567 ดำเนินรายการโดย วราวิทย์ ฉิมมณี
ลิ้งค์ยูทูป
: https://www.youtube.com/watch?v=FBIMIomQr_U
ผู้ดำเนินรายการ : ประเด็นเรื่องใบอนุญาต 2
ใบในทางประชาธิปไตย ใบอนุญาตแรกคือเสียงจากประชาชน ใบอนุญาตที่สองซึ่งดูเหมือนจะมีความสำคัญมากกว่าในการเมืองไทยก็คือ
ชนชั้นนำ กลุ่มจารีต กลุ่มทุนอะไรก็ตามที่บังคับวิถีทางการเมืองได้ “คุณจักรภพ”
พูดว่า “ใบอนุญาตจากผู้มีอำนาจเดิมจำเป็นต้องมีเพื่อมาเพิ่มอำนาจให้กับประชาชน
ชีวิตทางการเมืองต้องอยู่รอดก่อนถึงจะไปทำประโยชน์ได้” อาจารย์เข้าใจคุณจักรภพมั้ย?
ไม่เห็นด้วย!
คืออย่างนี้นะ คุณจักรภพมีมุมมอง คือบางอย่างเราพูดเหมือนคล้าย แต่ว่ามันไม่เหมือน
อาจารย์เคยพูดว่า พรรคเพื่อไทยข้ามขั้วมาแล้ว แต่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถทำอะไรได้อิสระ
ยกเว้นว่าคุณทำได้เท่าที่เขาอนุญาต แม้กระทั่งดิจิทัลวอลเล็ต คุณจะแจก 1 หมื่นทั้งหมด ไม่ต้องการเมืองนะ เรื่องเศรษฐกิจนะ เขาก็ไม่ให้คุณ
แล้วเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ให้! หรือว่าเรื่องนิรโทษฯ รวม
112 แบบมีเงื่อนไข คือจุดตรงกลางนะ ก็ไม่ได้ คือการเมืองก็ไม่ได้
เศรษฐกิจก็ไม่ได้ สังคมก็ไม่ได้ อาจารย์เคยพูดว่า “คุณทำได้เท่าที่เขาอนุญาต”
แต่ที่คุณจักรภพพูดประมาณว่าต้องเอาชีวิตรอดเอาไว้ก่อน
อาจารย์ไม่เห็นด้วย อาจารย์ว่าชีวิตทางการเมืองของนักการเมืองและพรรคการเมือง ไม้ใช่ชีวิตทางกายภาพแบบนี้
พรรคไทยรักไทยเขาพยายามมากี่ครั้ง แล้วคุณตายมั้ย? คุณไม่ตายเพราะอะไรรู้มั้ย?
เพราะ “ประชาชน” ประชาชนมองว่าคุณเป็นพวกที่ถูกกระทำ เป็นฝ่ายประชาธิปไตย
คุณไม่ตาย!
แม้ครั้งหลัง ๆ คุณได้คะแนนเสียงน้อยลง แต่คุณยังไม่ตาย แต่คุณจำเอาไว้เลยนะ
พรรคการเมืองจะตายเพราะประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตจากผู้ยิ่งใหญ่ที่ไหน
ในทัศนะอาจารย์นะ
แต่ว่าถ้าเป็นชีวิตคุณรอดเช่น เพื่อจะได้กลับมาในประเทศไม่ว่าจะเป็นคุณทักษิณหรือใครก็ตาม แล้วก็คิดว่าจำเป็นต้องเอาใจเพื่อจะได้ใบอนุญาตให้มามีชีวิตอยู่ แล้วผมก็จะทำให้ดีอันนี้เป็นเรื่องของบุคคล ไม่ใช้พรรคการเมือง เพราะฉะนั้นคุณเข้าใจผิดอย่างหนึ่ง มีพรรคบางพรรค เราก็ไม่ได้อยากจะไปทับถม ถามว่าตายลงแล้วเหี่ยวแห้งลงมั้ย? เพราะประชาชนไม่นิยม ไม่มีใครไปฆ่าเลยนะ แต่อยู่ฝั่งเดียวกับจารีตอำนาจนิยมด้วย แต่ว่าประชาชนไม่นิยม พรรคการเมืองจะตายหรือไม่อยู่ที่ประชาชน แต่ตัวคุณเองต่างหากที่คิดว่าจะตายหรือไม่ตายก็คือว่าต้องหวังผู้ที่มีอำนาจจะอนุญาตให้อยู่
ทีนี้เขาใช้คำว่า
“ต้องมีใบอนุญาต ให้มีชีวิตอยู่ เพื่อไปเพิ่มอำนาจให้ประชาชน” ไม่จริง!!!
อาจารย์ว่านะ บางทีเราพูดกันเรื่องว่าตระบัดสัตย์แล้วรู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญ
อาจารย์อยากจะพูดว่าสำหรับนักการเมืองเขาพลิกลิ้นได้ตลอด มีเหตุผลตลอดที่จะทำอะไร
สถานการณ์เปลี่ยนก็ต้องทำอย่างนี้
อาจารย์เจอมานักต่อนักแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นรัฐบาล
เคยพูดกันไว้อย่างไร พออีกทีก็พูดอีกอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้น
อาจารย์ว่าประชาชนเขาไม่เชื่อหรอกว่า อ๋อผมได้ใบอนุญาตแล้วน่ะ
แล้วผมก็จะมาทำเพื่อประชาชน ตอนนี้คุณทำอะไรได้แค่ไหน คุณทำไปเลย ไม่ต้องมาบอกว่าทำเพื่อประชาชน
เพราะว่านี่แหละชีวิตคุณจะรอด/ไม่รอด
อยู่ที่คุณทำงานแล้วประชาชนมองเห็นหรือเปล่า? ประชาชนพ.ศ.นี้หลอกกันไม่ได้แล้วนะ
อดีตแกนนำ ไม่ว่าเหลือง-แดง จะมาหลอกประชาชนไม่ได้!!!
ผู้ดำเนินรายการ : กรณีคุณทักษิณขึ้นเวทีที่อุดรฯ
ประกาศ 200 เสียง คุณจักรภพมองว่า คือสัญญาณอย่างหนึ่ง เพราะตอนปี
2548 ได้ 377 อยู่ได้ปีเดียว
คือการจบชีวิตในทางการเมือง การประกาศ 200 เสียง ส่งสัญญาณให้รู้ว่าจะประนีประนอม
จะแบ่งปันอำนาจเหมือนก่อนหน้านี้ เพราะสุดท้ายจะจบแบบนั้น
อาจารย์ว่าเขาเข้าใจผิด!!!
ผู้ดำเนินรายการ : อาจารย์ไม่เคยคิดว่า “พรรคเพื่อไทย”
ที่ผ่านมา 3-4 รอบ นั่นคือความตายในทางการเมือง
เขาไม่เคยตายมาก่อน
เขาไม่ได้ตาย! อันเนี่ยเขาตาย!
ตายตอนข้ามขั้วเนี่ยแหละ
ผู้ดำเนินรายการ : แล้วคำว่า “ใบอนุญาต” นี้
จะตีความว่าเป็นใบอนุญาตหรือเปล่า เพราะอาจารย์บอกว่า
เขาจะทำได้เฉพาะสิ่งที่เขาอนุญาต
ใช่!!! ไม่ได้เป็นใบ
ๆ นะ เช่น MOU ผมขออนุญาตทำนะ ทุกเรื่องเลยค่ะ
คืออะไรที่ไม่สอดคล้องกับฝั่งจารีตอำนาจนิยม คุณทำไม่ได้ เขาจะเคาะหัวไปทีละเรื่อง
ๆ เพราะฉะนั้น ความเป็น/ความตาย ของพรรคการเมืองอยู่ที่ความนิยมของประชาชน
แต่ถ้าคุณคิดว่าคราวนั้นที่คุณตาย คล้าย ๆ กับไม่ปฏิบัติตามผู้มีอำนาจ
มาถึงตอนนี้มันจะตายทีเดียว 2 อย่างเลย
เพราะว่าเกิดไปทำแล้วผู้มีอำนาจไม่เอา และประชาชนก็ไม่เอา โอ้ย...ตอนนี้ตายสนิทเลยถ้าเป็นอย่างนั้น
ตอนนี้ไม่ต้องพูดแล้ว ข้ามขั้วมาแล้ว ทำงานอย่างเดียว ไม่ต้องพูดว่าจะทำอย่างงั้นอย่างงี้
ซึ่งไม่มีใครเชื่อหรอก
ผู้ดำเนินรายการ : จะทำได้มากน้อยขนาดไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับใบอนุญาต
ใช่
ขึ้นอยู่กับว่าเขาอนุญาต คือว่าสิ่งที่ทำนั้นต้องเป็นสิ่งที่ สมมุติว่าทางเศรษฐกิจก็ประมาณเหมือนกับที่
“บิ๊กตู่” ทำไว้ เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยคนเปราะบาง หรือ โครงการคนละครึ่ง
แล้วองค์กรที่จะมาควบคุมจะเป็นองค์กรที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน เพราะวิธีคิดของจารีตคือไม่เอาประชาชนเป็นสำคัญ
ดังนั้นองค์กรที่ไม่ยึดโยงกับประชาชนไม่ว่าจะเป็นสภาพัฒน์ฯ แบงค์ชาติ
ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการอะไรต่าง ๆ ดูดี ดูเป็นเทวดามากกว่านักการเมืองหมด
แต่อาจารย์ยอมรับนะว่านักการเมืองที่แย่จริง ๆ ก็มีเยอะด้วย แต่ว่าข้าราชการประเทศไทยลองไปแตะดูซิ
คุณไปแตะตำรวจ ไปแตะกระทั่งองค์กรพุทธศาสนา แตะไปนะมีน้ำเหลืองไหลเยิ้มทั้งนั้นเลย
จริง ๆ แล้วไม่ใช่มีแต่นักการเมืองที่ว่าแย่
อาจารย์มองว่าในทางความคิดนะ
อาจารย์ไม่เห็นด้วยกับคุณจักรภพที่มองว่าเพราะไม่ปฏิบัติตามเขาเลยตายทั้ง 377
เสียง แล้วถามหน่อยว่าหลังจากนั้นคุณชนะไหม? คุณยังชนะ คุณยังกลับมาได้
เพราะชีวิตพรรคการเมืองเป็นชีวิตที่ต้องได้รับความนิยมจากประชาชน แม้กระทั่งพรรคใหม่
ถ้าหากว่าโดนใจก็เติบโตเร็ว ถ้าจะมองว่าคนไม่เปลี่ยน ไม่จริง! คนเปลี่ยนไปแล้ว พรรคเก่าแก่อย่าง “ประชาธิปัตย์” หรือแม้กระทั่ง “เพื่อไทย”
ก็ถือว่าเป็นพรรคเก่าเหมือนกัน ก็มีการเปลี่ยนแปลงโหวตเตอร์
วิธีคิดแบบจารีตที่ต้องสยบกับอำนาจที่เหนือกว่าอำนาจประชาชนแล้วคิดว่าเพื่อมีชีวิตรอด
อาจารย์ว่าคิดผิดนะ
ผู้ดำเนินรายการ : แต่เนื่องจากมีปัจจัยใหม่คือ “พรรคส้ม”
อาจเป็นสิ่งที่ทำให้ “เพื่อไทย” มั่นใจว่าใบอนุญาตนี้มีและศักดิ์สิทธิ์
จะอยู่ตลอดไปตราบใดที่เอาชนะ “พรรคส้ม” ได้ นี่คือตัวชี้วัด ถ้าไม่มี “เพื่อไทย”
อำนาจเก่าจะใช้ใครสู้กับ “พรรคส้ม”
อันนี้ตรงนี้อาจารย์ต้องยอมรับว่าเป็นการวางแผนไว้ก่อนของฝั่งจารีตอำนาจนิยมที่จะเอาคุณทักษิณมาตั้งแต่ปลายยุค
“บิ๊กตู่” แล้วจะเอาเพื่อไทยมาร่วมมือกัน เพราะถ้าเราย้อนดูภาพการเมืองยุคนั้น
เราก็จะเห็นว่ามีการไปเตรียมการทั้งการแก้กฎหมายอะไรต่าง ๆ รวมทั้งแม้กระทั่งการที่แก้ให้มีการเลือกบัญชีรายชื่อด้วย
เขตด้วย (กลับมาเป็นบัตร 2
ใบ) มีการตระเตรียม ก็ต้องถือว่าเขาเก่ง แต่เขาเก่งอยู่บนพื้นฐานที่ไม่ถูกต้อง
คือเขามีการเปลี่ยนเหมือนกันนะ แต่การเปลี่ยนนี้ไม่จีรัง
เหตุผลเพราะว่าเขาเพียงแต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ก็คือเอา “เพื่อไทย” มา
แต่เพื่อไทยสามารถที่จะต่อกรและมีประโยชน์ต่อเขาแค่ไหน?
ถ้าหากว่าเพื่อไทยไม่มีประโยชน์พอ ก็คือยังคงเป็นพรรคร่วมฯ
แต่ว่าคุณก็รับผิดชอบการร่วงโรยของพรรคของคุณเอง อันนี้เป็นเรื่องที่คุณต้องเลือก คุณมีชีวิตอยู่แล้วก็เป็นรัฐบาลแบบเป็ดง่อย
มีแต่ร่วงโรยลงไปทุกวัน ๆ คุณเลือกที่จะเป็นแบบนั้นหรือ?
ถ้าวิธีคิดเพื่อเอาตัวรอด
คิดแบบนี้คือคิดแบบเพื่อเอาบุคคลเอาตัวรอด
แต่ถ้าคิดในฐานะเป็นพรรคการเมืองมันไม่ได้ ต้องถือประชาชนเป็นสำคัญ
ต่อให้เป็นประเทศทางตะวันตก ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นพวกอนุรักษ์นิยม
เขาก็ยังให้ความสำคัญกับประชาชน เพราะฉะนั้นคำว่าประชาชนไม่สำคัญ นี่ไม่ใช่การเมืองในระบอบประชาธิปไตยเลย
ผู้ดำเนินรายการ : มันเป็นการมุมมองวิเคราะห์การเมืองไทยแบบไม่ได้มองโลกความเป็นจริงที่มีความสลับซับซ้อนสำหรับสังคมไทยหรือเปล่า
คำว่า “รัฐเชิงลึก deep state” หรืออะไรก็ตาม ดู “พรรคส้ม”
ถูกยุบไปแล้ว 2 ครั้ง เลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 ก็ไม่ได้ตั้งรัฐบาล
แต่เขาไม่ตายหรอก
อาจารย์ก็ยังไม่รู้ว่ายุทธศาสตร์ก็ต้องมีทั้งสองด้าน
คือแน่นอนฝั่งประชาชนถูกกระทำมาก โดยเฉพาะฝ่ายประชาธิปไตย
แต่คำถามว่าใครจะเชื่อว่าครั้งที่แล้ว พรรคก้าวไกล จะมาเป็นอันดับ 1
ขนาดนี้ อาจารย์ยังคิดไม่ถึงเลย แล้วพรรคประชาธิปัตย์ ตัวแทนฝ่ายจารีต จะคะแนนเสียงจะต่ำถึงขนาดนั้น
อาจารย์คิดไม่ถึงทั้งสองข้าง แปลว่ามันเป็นพลวัต
ประชาชนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณจะหมุนทวนกงล้อที่จะหมุนไป
คุณจะออกแรงไปได้กี่มากน้อย อาจจะได้ผลระดับหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงก็คือว่า พัฒนาการของสังคมโลกถึงอย่างไร
อำนาจประชาชนต้องเป็นอำนาจที่สำคัญ จะบอกว่าใบอนุญาตหรือขออนุญาตจากอำนาจที่เป็น “รัฐพันลึก”
หรืออะไรต่าง ๆ เหล่านั้นจะสำคัญกว่า ก็คือคิดแค่เอาตัวรอด
คุณเข้าใจผิดแล้วถ้าอย่างนั้น อันนั้นไม่ใช่วิถีทางของพรรคการเมือง
อันนั้นแหละพรรคการเมืองจะตาย
ผู้ดำเนินรายการ : ขออนุญาตขีดเส้นตายคำว่า “สุดท้ายจะไม่เหลือสักใบเลย”
ใช่
ๆ ไม่เหลือเลยสักใบ หมายถึงเขาใช้คุณเท่าที่ใช้ได้
ผู้ดำเนินรายการ : ส่วนถ้าจะกลับมาหาประชาชนในวันข้างหน้า
ไม่มีทางแล้ว
ประชาชนเขาเดินเลยคุณไปแล้ว
ผู้ดำเนินรายการ : แต่ตอนที่คุณถูกรัฐประหาร
ถูกยุบพรรค
ประชาชนจะอยู่เป็นเพื่อนและประคับประคอง
ปกติประชาชนจะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก แต่ถ้าคุณเอาประชาชนไปเข้าคอก
ประชาชนก็ไม่ใช่ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก พอเขาตีคอกได้ก็พังหมดทั้งประชาชนที่คุณเอาไปเข้าคอก
ดังนั้นในทัศนะอาจารย์ ขบวนการประชาชนต้องเป็นอิสระจากพรรคการเมืองและต้องไม่เป็นเครื่องมือของพรรคการเมืองใด
ๆ ถึงจะสามารถสร้างความหวังให้กับประเทศ
ในขณะเดียวกันก็จะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้กับพรรคการเมืองที่ถูกกระทำ ถ้าคุณเอาไปเข้าคอกเดียวกันหมดมันก็จบ
แต่อาจารย์กำลังมองว่า ก็เข้าใจคนที่ถูกกระทำมาหลายรอบ
อาจารย์เข้าใจนะในสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำ ลึก ๆ ส่วนตัวก็เห็นใจ แต่ว่าไม่เห็นด้วย
แล้วก็มองยาวไกลก็คิดว่ามันไม่ใช่