วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

จม.จากเรือนจำ “อานนท์” เขียนถึงลูก “ลมหนาวพัดมาเอื่อยๆในเช้าตรู่ ทำให้พ่อคิดถึงเพื่อนเพื่อนที่ลี้ภัยการเมืองในหลายๆ ประเทศ .. หวังว่าการเดินทางของทุกคนจะปลอดภัย”

 


จม.จากเรือนจำ “อานนท์” เขียนถึงลูก “ลมหนาวพัดมาเอื่อยๆในเช้าตรู่ ทำให้พ่อคิดถึงเพื่อนเพื่อนที่ลี้ภัยการเมืองในหลายๆ ประเทศ .. หวังว่าการเดินทางของทุกคนจะปลอดภัย”


วันที่ 29 พ.ย. 2567 เพจ “อานนท์ นำภา” โพสต์ภาพจดหมายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และข้อความในจดหมายฉบับวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ระบุว่า


อากาศเปลี่ยนที ก็ไม่สบายที หัวค่ำร้อนพอตกดึกอากาศกลับเย็นลง และย่อมหนาวเย็นกว่าเมื่อต้องขึ้นศาลแล้วอยู่ในห้องพิจารณาคดีที่แอร์เย็นฉ่ำ ความหนาวเย็นนี้ คนสวมเสื้อเชิ้ตทับด้วยสูทและครุยรวมสามชั้น อาจไม่เข้าใจ แต่นักโทษทุกคนย่อมเข้าใจ


27 พฤศจิกายน 2567 ถึงปราณและขาล ลูกรักทั้งสอง


ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนจากฝนเป็นหนาว การเปลี่ยนแปลงย่อมเป็นเรื่องปกติมนุษย์เรียนรู้ที่จะอยู่กับการเปลี่ยนแปลงเสมอตั้งแต่ยุคโบราณ เราเรียนเรียนรู้ที่จะใช้ความร้อนจากไฟ ความอบอุ่นจากเครื่องนุ่งห่ม แม้แต่ในสิ่งมีชีวิตอื่นๆก็ต้องปรับตัวและมีวิวัฒนาการเพื่อให้อยู่รอดในสังคมนั้นๆ สิ่งมีชีวิตที่ไม่ปรับตัวย่อมสูญพันธุ์ไป


ลมหนาวพัดมาเอื่อยๆในเช้าตรู่ ทำให้พ่อคิดถึงเพื่อนเพื่อนที่ลี้ภัยการเมืองในหลายๆ ประเทศ ทุกคนคงต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ภูมิอากาศใหม่และผู้คนใหม่ๆ หวังว่าการเดินทางของทุกคนจะปลอดภัย ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ จนกระทั่งวันที่ฟ้าเปิดประเทศนี้มีประชาธิปไตยพวกเขาจะได้นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ กลับมาร่วมสร้างสังคมให้ดีขึ้น ถ่ายทอดประสบการณ์ให้คนรุ่นต่อๆไป


อีกคนที่พ่อยังคิดถึงและห่วงใยคือ น้าบาสนักโทษ ม. 1 หนึ่งสองที่ศาลตัดสินจำคุกกว่า 50 ปีที่ตอนนี้ขังในเรือนจำจังหวัดเชียงราย ฝากทนายความของพวกเราทางเลือกช่วยเยี่ยมและดูแลเรื่องเสื้อหนาวและความเป็นอยู่ด้วยหวังว่าน้าบาสจะเข้มแข็งต่อสู้กับอุปสรรคและผ่านพ้นมัน


ลูกทั้งสองและแม่ของพวกเธอก็ต้องดูแลสุขภาพด้วย ห่มผ้าให้กันและกัน กอดกันในคืนที่เหน็บหนาว จนกว่าเราจะพบกันอีก


รักและคิดถึงทุกคน

อานนท์ นำภา


สำหรับ อานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63


จากนั้น 17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา" เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี 2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก 4 ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว 8 ปี


ต่อมา เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 เวลา 09.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษาคดีของ อานนท์ นำภา หลังถูกฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และ ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุมาจากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564


โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกข้อหาตามฟ้อง พิพากษาจำคุกรวม 3 ปี 1 เดือน ปรับ 150 บาท ก่อนลดเพราะให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุก 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท


ทำให้ปัจจุบันนี้ อานนท์ถูกลงโทษจำคุกรวมทั้งสิ้น 10 ปี 20 วัน เมื่อรวมกับสองคดีในข้อหามาตรา 112 ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกคดีละ 4 ปี ไปเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2566 และ 17 ม.ค. 2567


ทั้งนี้ภายในเดือน ธันวาคม 2567 นี้ อานนท์ นำภา มีนัดฟังคำพิพากษาอีก 2 คดี คือวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ที่ศาลอาญา รัชดา คดีเขียนจดหมายถึงกษัตริย์ และวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่ศาลอาญา รัชดา คดีแฮรี่พอร์ตเตอร์ 1 กรณีแต่ปราศรัยที่หน้าร้านแมคโดนัล อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #อานนท์นำภา #นิรโทษกรรมประชาชน