วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ธิดา ถาวรเศรษฐ : “สนธิ” ปลุกคนลงถนน เพื่อ? ล้มรัฐบาล ทำได้มั้ย? ใครสนับสนุนบ้าง? [ถอดเทป] รายการแลไปข้างหน้าฯ EP.120

 


ธิดา ถาวรเศรษฐ : “สนธิ” ปลุกคนลงถนน เพื่อ? ล้มรัฐบาล ทำได้มั้ย? ใครสนับสนุนบ้าง?


[ถอดเทป] รายการ แลไปข้างหน้ากับ ธิดา ถาวรเศรษฐ EP.120

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567

ลิ้งค์ยูทูป : https://www.youtube.com/watch?v=4QwAAxYSk8A


สวัสดีค่ะ ไม่ได้เจอกันนาน ขณะนี้ก็เกิดปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ จริง ๆ ตอนแรกก็ตั้งใจจะพูดเรื่องผลการเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี ก็เอาไว้อีกคลิปหนึ่งก็แล้วกัน ก็คือเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายกอบจ.และอนาคตการเลือกตั้งสส. จะสัมพันธ์กันอย่างไร? เกี่ยวข้องกันอย่างไร?


แต่ว่าวันนี้การเกิดเรื่องของคุณสนธิที่มาปลุกประชาชนและบอกว่าจะลงถนน ก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจในห้วงเวลานี้ค่อนข้างสูง เพราะว่าตัวเขาก็พูดเองว่ามันเหมือนอะไรที่วนกลับมา แน่นอนก็มีคนจำนวนหนึ่งซึ่งเคยผ่านเหตุการณ์เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ปี 2548 ปลุกระดมจนกระทั่งเกิดรัฐประหารปี 2549 ครั้งนี้เวลาผ่านไปตั้ง 20 ปี เราก็จะมาดูว่าเขาปลุกคนลงถนน ถามว่าเพื่ออะไร? ถ้าจะล้มรัฐบาล จะล้มได้ไหม? และใครจะสนับสนุนบ้าง?



ในทัศนะของดิฉันก็คือว่า “คุณสนธิ ลิ้มทองกุล” เป็นหัวหน้ามวลชนฝั่งจารีตอำนาจนิยมที่ค่อนข้างเป็นอิสระ เมื่อก่อนหน้านี้เขาก็มีพรรคการเมืองสนับสนุน แต่ในครั้งนี้หลายคนก็คิดว่าเขาคงจะทำไม่ได้ เพราะว่าดูไปเขาก็ไม่เอาพรรคการเมืองอะไร โจมตีพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทยนั้นแน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่าเขาโกรธมากถึงกับถามว่า ใครเอาทักษิณกลับมา? ถามแรง!!! เอากลับมาแล้วจะได้อะไร? ประมาณนั้น แม้กระทั่งพรรคสีน้ำเงิน ก็มีการถูกโจมตี


ดิฉันมองอย่างนี้นะคะว่า เขาเป็นหัวหน้ามวลชนที่ไม่ได้ไปขึ้นกับพรรคไหน แน่นอนรอบแรก ในอดีต "พรรคประชาธิปัตย์" ซึ่งเป็นพรรคการเมืองตัวแทนของฝั่งจารีตอำนาจนิยม ผู้สนับสนุนเขาก็ยังมีระดับจำนวนหลายล้าน ก็จะเป็นกำลังหลักของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่นำโดยคุณสนธิ อีกส่วนหนึ่งก็คือนักวิชาการ, ปัญญาชน, NGO ทั้งหลายที่ไม่ชอบคุณทักษิณ ก็เป็นกำลังที่สำคัญที่ทำให้มีการเติบโต



มาครั้งนี้เขาทำเพื่ออะไร?


ดิฉันดูจากการปราศรัยก็เห็นได้ว่า ในการปราศรัยเขาก็จะมีเรื่องที่ประหนึ่งว่าประเทศชาติกำลังดูจะล่มสลายไปแล้วเหมือนกัน ไม่ว่าจะประเด็นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง MOU44 ที่เกี่ยวข้องกับเกาะกูด เกี่ยวข้องกับรัฐบาลกัมพูชา อันนี้ก็พุ่งเป้าไปที่คุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยโดยตรง ว่ามีความสัมพันธ์พิเศษ แล้วจะประมาณว่าขายชาติ ประมาณนั้น อันนี้อยู่ในประเด็นชาตินิยม


นอกจากนั้นก็ยังมีประเด็นเรื่องของการที่มีการคัดเลือกประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงค์ชาติ) ซึ่งไล่ไปจนกระทั่งถึงประธานที่เป็นกรรมการคัดเลือก แล้วก็เป็นไปไม่ได้ที่จะยอมรับ คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง ซึ่งอันนี้ก็ดูจะสัมพันธ์กับกลุ่มสานุศิษย์หลวงตาบัว และนักวิชาการการเงิน ซึ่งไม่ยินดีที่รัฐบาลนี้จะเอาคุณกิตติรัตน์มา ก็ดูมีความท้าทายอย่างแหลมคมใน 2 ประเด็นนี้ แต่นอกจากนั้น เขาก็ได้พยายามพูดเพื่อที่จะให้มีแนวร่วม เช่น ปัญหาเรื่องตากใบ แต่ว่าในที่สุดก็ไปพูดเรื่องยิงเจ้าแม่กวนอิม อะไรต่าง ๆ เหล่านี้


แม้กระทั่งในประเด็นพรรคประชาชน ก็คือ เขาแสดงตัวเป็นผู้นำมวลชนในอุดมการณ์ “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” แบบดั้งเดิม ชาตินิยมในประเด็น MOU44 ที่จะมีปัญหาเรื่องเขตแดนไหล่ทวีป แล้วก็รับข้อเรียกร้องมาจากกลุ่มของหลวงตาบัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของการจัดตั้งประธานบอร์ดแบงค์ชาติ ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้ว่ามีอำนาจอะไรมากมาย แต่ว่าเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ แต่ว่าโดยสรุปก็คือ “สนธิ กลับมาแล้ว” เวลาคุณทักษิณขึ้นเวทีก็บอก “ทักษิณ มาแล้ว” ตอนนี้คุณสนธิขึ้นเวทีก็พูดเหมือนกันก็พูดประมาณว่านี่ก็ “สนธิ มาแล้ว” เหมือนกัน



ดังที่ดิฉันได้เคยบอกแล้วว่า ฝั่งอนุรักษ์นิยมเขาไม่เป็นเอกภาพ ดังนั้นมันจะมีอนุรักษ์นิยมสายที่เป็นยุทธศาสตร์ (การเมือง) และสายอื่น ๆ เพราะว่าสนธิเขาตั้งคำถามเลยว่า ใครเอามา? เอามาทำไม? ถามแรงมายังพวกเดียวกัน ก็แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของ “สนธิ ลิ้มทองกุล” พอสมควรว่า ไม่ขึ้นกับใคร ไม่เอาทักษิณก็คือไม่เอาระบอบทักษิณ เอาทักษิณกลับมาทำไม?


แต่ในฝั่งจารีตอำนาจนิยมในทัศนะของดิฉัน ที่มีลักษณะยุทธศาสตร์นั่นก็คือ จะเป็นสายลุงตู่ หรือว่าสายอำนาจจารีตนิยมที่ยังต้องการรักษาอำนาจของตนเองที่ส่งผ่านมาจากยุคของ “พลเอกประยุทธ์” เพื่อมาสู่รัฐบาลนี้ เราจะเห็นว่าคนหรือพรรคในรัฐบาลนี้ก็ล้วนแต่เป็นพรรคที่อยู่กับพลเอกประยุทธ์มาก่อนทั้งสิ้น นโยบายต่าง ๆ แม้กระทั่งนโยบายการเงินก็ประมาณเดียวกันกับนโยบายที่พลเอกประยุทธ์ได้ทำเอาไว้ ดังที่ดิฉันเคยบอกว่า เขาจะอนุญาตให้คุณทำ แม้กระทั่งเศรษฐกิจนะ ไม่ต้องพูดเรื่องการเมือง คุณจะทำได้เท่าที่เขาอนุญาต ถ้าเขาไม่อนุญาตคุณจะทำไม่ได้ คุณจะแจกเงินหมื่นหมดทุกคนเป็นไปไม่ได้ อาจจะได้เฉพาะกลุ่มเปราะบางหรือบางกลุ่มอะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ก็สู้กันไป ต่อรองกันไป


แต่ดิฉันมองว่ากลุ่มจารีตเหล่านี้และรวมทั้งสายลุงตู่เป็นสายยุทธศาสตร์ ก็คือไม่ต้องการให้ประเทศชาติจำเป็นจะต้องมีการทำรัฐประหารอีก คือยังอยู่ในระบอบประชาธิปไตยแบบปลอม ๆ นี่แหละ แบบจำแลงนี่แหละ แต่ว่าดูมันจะดีขึ้นด้วยเพราะสามารถดึงฝ่ายเสรีนิยม หรือฝั่งที่เคยบอกว่าตัวเองเป็นฝั่งประชาธิปไตยมาร่วม มันจะทำให้โฉมหน้าของรัฐบาลนี้ 1) เป็นรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจมาจากคณะรัฐประหาร 2557 ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม 2) ทำให้ดูชอบธรรมในสายตาชาวโลกมากขึ้นเพราะแกนนำรัฐบาลเป็นพรรคอันดับสอง มาจากการเลือกตั้ง



คือต่างประเทศกับประเทศไทยเขาไม่ได้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายจารีตอำนาจนิยมต้องการจะรักษาอำนาจ คือไม่ยอมคืนอำนาจให้กับประชาชน พูดตรง ๆ ว่าเขามีขั้วตามความคิดตามระบอบ เช่น เป็นซ้าย เป็นขวา เป็นสังคมนิยม เป็นกลาง ๆ แต่ของเรา ถ้าพูดภาษาคนเสื้อแดงเดิมก็คือ มีฝั่งระบอบอำมาตยาธิปไตย หรือฝั่งจารีตอำนาจนิยม กับฝั่งประชาชนที่รักประชาธิปไตย เมื่อคุณทักษิณข้ามขั้วโดยการจูงมือของฝั่งในระบอบอำมาตย์ การข้ามขั้วของคุณทักษิณนั้น ดิฉันก็ไม่เห็นด้วยว่ามันเป็นสามก๊ก มันก็เป็นสองก๊กนั่นแหละ คือข้ามจากก๊กของประชาชนผู้ต่อต้านเผด็จการมาอยู่ฝั่งสืบทอดอำนาจแล้ว แต่พรรคพวกในฝั่งนี้ไม่ได้ยอมรับ เช่น กลุ่มพันธมิตรฯ ดังนี้เป็นต้น


ดิฉันเคยบอกแล้วว่า “ก็ขอให้โชคดี” ก็คือคุณจะต้องเจอ แล้วคนที่จะจัดการกับคุณจะไม่ใช่ฝั่งประชาชนผู้รักประชาธิปไตย จะเป็นฝั่งของจารีตอำนาจนิยมนั่นแหละ ทีนี้ก็มาสู่คำถามว่า ทำไม “สนธิ ลิ้มทองกุล” ถึงต้องทำ? ทำเพื่ออะไร? จะล้มรัฐบาลได้ไหม? ใครจะสนับสนุนบ้าง?


คือกลุ่มของคุณสนธิ ในทัศนะดิฉันจะไม่ได้อยู่ในยุทธศาสตร์ของการสืบทอดอำนาจและให้ระบอบประชาธิปไตยดำเนินไปได้ เป็นลักษณะอนาธิปไตยคือไม่สนภูมิทัศน์ทางการเมือง มีอย่างเดียวคือไม่เอาทักษิณ ไม่เอาระบอบทักษิณ ถ้าเป็นสีนะ คือไม่เอาพรรคประชาชน ไม่เอาพรรคเพื่อไทย แล้วก็ไม่เอาพรรคสีน้ำเงินด้วยการพูดเรื่อง "เขากระโดง" เพราะว่า ต้องการที่จะปลุกประชาชนให้เห็นว่ารัฐบาลนี้และแม้กระทั่งฝ่ายค้านในรัฐสภานี้ใช้ไม่ได้ ฝ่ายค้านก็เป็นพวกจะล้มเจ้า เซาะกร่อนบ่อนทำลาย ฝ่ายรัฐบาลก็มีทั้งโกงกินที่ มีทั้งที่จะเอาผลประโยชน์ไปแบ่งครึ่งกันกับกัมพูชา ต่าง ๆ เหล่านี้ก็คือนี่เป็นการปลุกประชาชนขึ้นมา




แล้วถามว่า เฉพาะเพื่อไทย/ล้มคุณทักษิณ หรือเปล่า? ถ้าดูอย่างนี้แล้วไม่ใช่นะ! พูดกันตรง ๆ ก็คือเหมือนจะล้มระบอบประชาธิปไตยนั่นแหละ ไม่ใช่แต่เฉพาะรัฐบาล ไม่เอาพรรคฝ่ายค้านด้วย เพราะฉะนั้นบางคนก็นึกว่าจะมีพรรคฝ่ายค้านมาอยู่ร่วมม็อบสนธิ ดิฉันไม่เห็นด้วย ประชาชนที่สนับสนุน “พรรคประชาชน” ที่เป็นฝ่ายค้าน เขารู้อยู่แล้วว่านโยบายพรรคประชาชนเป็นอย่างไร เขาอาจจะเคยต่อต้านสิ่งที่เรียกว่าระบอบทักษิณ แต่เมื่อเขามาอยู่ในพรรคประชาชนแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะข้ามขั้วไปจับมือกับมวลชนฝั่งจารีต เพราะว่ามวลชนฝั่งจารีตไม่เอาทั้งฝ่ายค้าน ไม่เอาทั้งฝ่ายรัฐบาล


ลองคิดดูว่าในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีเสียงเป็นอันดับหนึ่ง อันดับสองก็เป็นพรรคภูมิใจไทย แล้วพรรคประชาชนมีเสียงเป็นอันดับหนึ่งในฝ่ายค้าน ทั้งสามพรรคที่ได้รับความนิยมจากประชาชน ถูกคุณสนธิด่าและโจมตีทั้งหมด พรรคประชาชนนั้นแน่นอน อาจจะจัดน้อยหน่อยเนื่องจากไม่มีอำนาจ อาจจะพูดถึงน้อย แต่ในความเป็นจริงก็ถือเป็นสิ่งที่ไว้ใจไม่ได้และไม่เอาเช่นกันตามทัศนะของฝ่ายจารีต


ในฝั่งจารีตอำนาจนิยม ความไม่เป็นเอกภาพของเขาจะถูกคุณสนธิปลุกอย่างรุนแรงมาก การปลุกอย่างรุนแรงมากตรงนี้ไม่ได้หมายความว่าจะล้มแค่ระบอบทักษิณ ไม่ได้หมายความว่าจะล้มแค่รัฐบาล แต่ว่ามันจะเกิดลักษณะอนาธิปไตย แปลว่าเขาไม่สนใจว่ามันจะต้องมีการเลือกตั้ง เพราะว่าพรรคการเมืองมันเลวหมด ( 3 พรรคนี้) แย่หมดเลย นั่นก็หมายความว่าประชาชนที่เลือกพรรคการเมืองนี้มาก็ไม่ใช่ประชาชนที่เขาชื่นชม ก็แปลว่าเขาก้ไม่ได้สนใจระบอบประชาธิปไตย ในทัศนะดิฉันนะ



ทีนี้คนก็มองว่า เมื่อไม่มีพรรคการเมืองหนุน ถ้าอย่างนั้นเขาจะทำได้มั้ย? หมายความว่าจะขับเคลื่อนได้มั้ย? จะมีมวลชนมากมั้ย? เพราะว่าไม่มีพรรคการเมืองหนุน ประชาธิปัตย์ก็แย่แล้ว รทสช. (พรรครวมไทยสร้างชาติ) พรรคของลุงตู่ ซึ่งก็ได้เสียงมาจำนวนหนึ่งเขาก็อยู่ในรัฐบาล เขาก็คงไม่สามารถไปหนุนได้ แต่ว่ามวลชนอิสระที่เคยอยู่กับพันธมิตรเดิม ดิฉันมองว่าคนที่จะเป็นมวลชนที่จะไปหนุนช่วยคุณสนธิ ก็อาจจะเป็นพวก FC บุคคล FC พันธมิตรดั้งเดิม ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่มีอายุมาก ๆ เขากำลังดูว่า FC จะมากขึ้นมั้ย? ก็ลองทดลองในหอประชุมแล้วก็จะนัดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หนึ่งก็คือ FC ของพันธมิตร เช่น ลูกจีนรักชาติ


อันที่สองเท่าที่ดิฉันดูก็คือ จะมีกลุ่มของสันติอโศก แต่ว่ากลุ่มสันติอโศกก็ได้มาร่วมกับ คปท. ก็ดูว่าไม่ได้มีบทบาทอะไรมาก จำนวนคนก็ยังน้อย ดิฉันก็เข้าใจ แม้กระทั่งสันติอโศกก็คงไม่เป็นเอกภาพกันสักเท่าไร ก็เห็นมาอยู่หน้าทำเนียบ


อีกกลุ่มก็คือศิษย์หลวงตามหาบัว ซึ่งสร้างกระแสก่อนหน้านี้เป็นวิวาทะธรรมยุตกับมหานิกาย ประมาณเหมือนจะทำสงครามกัน กลุ่มศิษย์หลวงตามหาบัวที่เป็นคนสำคัญและเป็นนักวิชาการและคนทางธุรกิจการเงินก็มีอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ว่าก็ไม่ใช่มวลชนที่กว้างใหญ่ไพศาล


อีกกลุ่มที่ดิฉันดูว่าถ้าเขาตั้งใจที่จะขยายก็ต้องจากกลุ่มนี้นั่นก็คือ กลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเคยขึ้นอยู่กับการประสานงานของ “สมศักดิ์ โกศัยสุข” อยู่กับพันธมิตรฯ แล้วก็มา กปปส. ฉะนั้น แรงงานรัฐวิสาหกิจก็ล้มรัฐบาลตั้งแต่ยุคไทยรักไทย จนกระทั่งมายุคเพื่อไทยของคุณยิ่งลักษณ์ ขนาดพนักงานในธนาคารก็ไม่ยอมปล่อยเงินออกมาที่จะจ่ายค่าจำนำข้าวให้กับชาวนา อย่างนี้เป็นต้น หรือพวกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจอื่น ๆ เช่น การบินไทย ไฟฟ้า ประปา อันนี้ก็ต้องดูว่าเอาเข้าจริงเขาจะมาร่วมมั้ย? แต่ดิฉันมองแล้วว่าอยู่ในเป้าหมายของคุณสนธิที่จะไปดึงมา


ที่เหลือนอกจากนั้นก็อาจจะเป็นองค์กรเอกชนที่มีโครงการหรือกลุ่มชาติพันธุ์ที่ไม่พอใจรัฐบาลในนโยบายต่าง ๆ ยังอุตส่าห์พูดเรื่องตากใบนะ พูดเรื่องปัญหาที่มีนายทหารที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้วก็หนีไป แต่ว่าโดยรวมก็คือคุณสนธิพยายามพูดให้เห็นว่าประเทศชาติย่ำแย่ เลวร้าย นั่นหมายถึงว่า รัฐบาล/พรรคการเมืองและนักการเมืองนั้น ไม่มีความสามารถที่จะดูแลและทำให้ประเทศนี้ดีขึ้นได้ มีแต่เลวลง ประมาณนั้น ซึ่งเราสามารถสรุปได้ว่า คุณสนธิไม่เอาระบอบประชาธิปไตย ไม่ฟังเสียงประชาชน ไม่เอาพรรคการเมือง เพราะว่าพรรคการเมือง 3 พรรคที่ได้คะแนนทั้งมากที่สุดคือพรรคประชาชน รองมาพรรคเพื่อไทย และแม้กระทั่งพรรคภูมิใจไทยซึ่งมีปัญหาเรื่องเขากระโดง อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ก็ถูกโจมตีหมด ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเขาก็ไม่เอาระบอบประชาธิปไตย



ถ้าถามว่า เพื่ออะไร? ก็คือเพื่อล้ม ไม่ใช่แต่เพียงจัดการคุณทักษิณ ไม่ใช่แต่เพียงล้มรัฐบาล แต่ไปไกล เพราะว่าทุกครั้งที่มวลชนฝั่งจารีตออกมานั้นก็คือจบด้วยการทำรัฐประหาร ซึ่งครั้งนี้อาจจะยากสักหน่อย เพราะว่าพรรคการเมืองที่เคยสนับสนุนอย่างเป็นน้ำเป็นเนื้อในฝั่งจารีตนั้น ไม่ปรากฏแล้ว ก็คือพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็อยู่ร่วมรัฐบาล มวลชนที่สนับสนุนเขาก็คงไม่ได้มาเต็มที่ และพรรคก็คงไม่สามารถจะออกมาสนับสนุนได้เหมือนในยุคก่อน ดังนั้น ยาก! แต่ให้เราเข้าใจวิธีคิดของเขาว่าเป้าหมายเขาไม่ใช่เฉพาะพรรคการเมืองและนักการเมือง และไม่ใช่เฉพาะคุณทักษิณ แต่ไปจนถึงระบอบ!!!


นี่ไง...ที่ดิฉันบอกว่า ข้ามขั้วไป แล้วถ้าจะบอกว่าเป็น “สามก๊ก” ดิฉันก็ไม่เห็นด้วยนะ เพราะมันยังเป็นสองขั้ว พรรคการเมืองบางพรรคข้ามขั้วไป แต่คุณก็จะต้องถูกจัดการโดยในขั้วฝั่งอำมาตย์ซึ่งเขารักคุณไม่ได้ แต่ประชาชนที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตยจะข้ามขั้วไปสมทบกับคุณสนธิ ดิฉันว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนที่สนับสนุนพรรคประชาชน จะเรียกว่า “ส้ม” หรือ “แดง” คนเสื้อแดงที่เคยสนับสนุนเพื่อไทยแล้วบัดนี้เปลี่ยนใจ คนเสื้อแดงเหล่านี้ ในความคิดของดิฉัน เขาก็คงไม่ออกมา ไม่ข้ามขั้วไปจับมือกับสนธิ


เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่อาจจะไม่ชอบคุณทักษิณอย่างเดียว แต่ถ้าหากคุณจับมือกับฝั่งที่เป็นฝั่งจารีต อย่านึกว่าประชาชนจะไม่รู้เท่าทัน เพราะว่าประชาชนจะไม่ข้ามขั้วเด็ดขาด พรรคการเมืองข้ามขั้ว อย่าคิดว่าประชาชนจะข้ามขั้ว ขอให้เข้าใจและมองให้ลึกว่า ถ้าเขาไม่ยอมรับฟังอำนาจประชาชน เป้าหมายของเขาจะเป็นเป้าหมายที่ทำลายระบอบประชาธิปไตยแน่นอน และดิฉันขอย้ำว่า “ประชาชนไม่ข้ามขั้ว” ค่ะ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #สนธิลิ้มทองกุล #ทักษิณชินวัตร #MOU44 #เขากระโดง #ประธานบอร์ดแบงค์ชาติ