วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ภาคประชาชน ออกแถลงการณ์ 14 ตุลา ตามหาเสรีภาพ ผนึกกำลังจับมือปกป้องประชาธิปไตย ประกาศ 6 ข้อเรียกร้อง จี้รัฐอย่าถ่วงเวลาแก้รัฐธรรมนูญ ก่อนเดินขบวนอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

 


ภาคประชาชน ออกแถลงการณ์ 14 ตุลา ตามหาเสรีภาพ ผนึกกำลังจับมือปกป้องประชาธิปไตย ประกาศ 6 ข้อเรียกร้อง จี้รัฐอย่าถ่วงเวลาแก้รัฐธรรมนูญ ก่อนเดินขบวนอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย


วันนี้ (14 ต.ค. 67) ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ผนึกเครือข่าย โมกหลวงริมน้ำ, กลุ่ม24มิถุนาประชาธิปไตย, Milk Tea Alliance Thailand, Singhadang Feminists’ Club, Thai for Palestine, เฟมินิสต์คลับ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, Fenimism-Serii-Palestine และ เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ร่วมกันจัดกิจกรรม รำลึก 51 ปี 14 ตุลา


เวลา 15.00 น. ตัวแทนแต่ละกลุ่มต่างสับเปลี่ยนกันปราศรัยในประเด็นต่าง ๆ อาทิ รัฐธรรมนูญ, นิรโทษกรรม, ประเด็นแรงงาน เป็นต้น ก่อนที่นายเสกสิทธิ์ แย้มสงวนศักดิ์ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ 14 ตุลา ตามหาเสรีภาพ ผนึกกำลังประชาชน จับมือปกป้องประชาธิปไตย ระบุว่า


การลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ของประชาชนในเหตุการณ์ 14 ตลา 2516 ประชาชนตื่นตัวในเรื่องสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย อย่างกว้างขวางมีการจัดทำรัฐธรรมนูญ 2517 ที่ขยายสิทธิเสรีภาพประชาชนมากขึ้น นักศึกษา กรรมกร ชาวนา ได้รวมตัวกันต่อสู้ เรียกร้องเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เช่น ค่าจ้างชั้นต่ำ สิทธิที่ดินทำกิน ความเสมอภาคเท่าเทียมทางเพศ สวัสวัสดิการสังคม และการสร้างสมานฉันท์ประชาชนระหว่างประเทศให้ได้มาซึ่งเอกราช สันติภาพ


แต่แล้วกลุ่มศักดินาและและเครือข่ายอนุรักษ์นิยม ก่อการรัฐประหารนองเลือด 6 ตุลาคม 2519 ทำลายประชาธิปไตยสังคมไทยเข้าสู่ยุคมืดด้วยการแก้ไขมาตรา 112 เป็นเครื่องมือในการปิดกั้นเสรีภาพและปราบปรามประชาชน


ในระยะะเวลา 51 ปี ที่ผ่านมา สังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำ คนรวยยิ่งรวยมากขึ้นและประชาชนทุกข์ยากแสนสาหัส กรรมกร ชาวนายากจนข้นแค้น ความไม่เสมอภาคทางเพศ ในด้านการเมือง แม้ว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแต่ก็ไร้เสถียรภาพ มีการรัฐประหารที่ประสบผลสำเร็จ 4 ครั้งและรัฐบาลเผด็จการปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนหลายครั้งโดยลอยนวลพ้นผิด


ขณะที่ประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไดย ต่อต้านการรัฐประหารกลับถูกจับกุมคุมขัง ไม่ได้รับสิทธิประกันตัวและไม่มีการนิรโทษกรรม

ประชาชนที่ถูกดำเนินคดีไม่เป็นธรรม


ในโอกาสการรำลึก 51 ปี ของการลุกขึ้นสู้ประชาชนในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2567 กลุ่มองค์กรตามรายชื่อท้ายนี้ ขอเรียกร้องต่อประชาชนผนึกกำลังการต่อสู้ให้ได้รับสิทธิเสรีภาพ ความเป็นธรรม ดังต่อไปนี้


1. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับจากสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง 100%


2. นิรโทษกรรมคดีทางการเมืองทุกคดีรวมถึงคดีมาดรา 112 ไม่มีข้อยกเว้น และ นิรโทษกรรมแก่ราษฎร ซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ เป็นวาระเร่งด่วนในสภาผู้แทนราษฎร


3. รัฐบาลต้องน่าตัวจำเลย 7 คนในคดีความรุนแรงตากใบเข้าสู่พิจารณาของศาลก่อนหมดอายุความ 25 ตุลาคม 2567 นี้


4. รัฐบาลไทยต้องมีบทบาทต่อการสร้างสันติภาพและประชาธิปไตยนานาชาติ ด้วยการยุติการซื้ออาวุธและเทคโนโลยีจากอิสราเอลที่กำลังดำเนินการฆ่าลำลำงเผ่าพันธุ์ในปาเลสไตน์ รัฐบาลไทยให้การคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือมนุษยธรรมของประชาชนชาวเมียนมาที่ลี้ภัยจากรัฐเผด็จการและที่ต้องลี้ภัยสงคราม ให้ทุกหน่วยงานยุติการสร้างความเกลียดชังและแสวงหาผลประโยชน์จากความเปราะบางของคนเมียนมาในสภาวะสงคราม


5. รัฐบาลต้องเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ บังคับใช้กฎหมายแรงงาน จ่ายเงินค่าชดเชย นายจ้างปิดกิจการ รัฐบาลต้องลงนามอนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศ 87และ98 ประกันสิทธิการรวมตัวเป็นสหภาพแรงงานและการเจรจาต่อรอง ยกระดับสิทธิการลาคลอดได้ค่าจ้างเต็ม 180 วัน และเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุถ้วนหน้าเดือนละ 1,000 บาท


6. รัฐบาลต้องใช้ที่ดินของรัฐเพื่อทำโครงการที่อยู่อยู่อาศัยก่อนการใช้ที่ดินเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยอย่างถ้วนหน้า ผลักดันการกระจายถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อสังคม รวมไปถึงสิทธิชุมชนตามหลักพหุวัฒนธรรมและสิทธิสถานะบุคคลของคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ และกลุ่มชาติพันธุ์


ในวาระโอกาส 51 ปี 14 ตุลาคม จึงขอเรียกร้องต่อประชาชนทุกกลุ่ม ทุกสาขาอาชีพในการผนึกกำลังกันต่อสู้ให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ สร้างความเป็นธรรมในสังคม


จากนั้น เมื่อเวลา 17.10 น. ผู้จัดกิจกรรมได้เชิญชวนประชาชนให้ตั้งขบวนด้านหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา นำขบวนด้วยป้ายข้อความที่เขียนว่า คืนสิทธิประกันตัว, ปล่อยนักโทษการเมือง, นิรโทษกรรมรวม 112


จากนั้นตามด้วยรถปราศรัย ขบวนประชาชนที่ถือป้ายข้อความต่าง ๆ อาทิ แก้รัฐธรรมนูญ , การนิรโทษกรรมประชาชน และประเด็นสิทธิเสรีภาพต่าง ๆ โดยมุ่งหน้าสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย


และเมื่อขบวนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้มีการนำป้ายข้อความที่ถือมา ไปยืนถือรวมถึงมีการคล้องแขนกัน ยืนเป็นแนวรอบของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สื่อถึงการปกป้องประชาธิปไตยดังเช่นเจตนารมณ์วีรชน 14 ตุลา 


และปิดท้ายกิจกรรมด้วยการร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา ก่อนเปล่งเสียงพร้อมกันว่า ‘ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ปล่อยเพื่อนเรา’ โดยผู้จัดกิจกรรมได้บอกกับมวลชนว่าสามารถอยู่ตรงนี้ได้ถึง 6 โมงเย็นเท่านั้นก่อนแยกย้ายด้วยความสงบ 


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #51ปี14ตุลา #14ตุลา16