วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2567

“ธิดา” มอง “ทักษิณ” เรียกคนเสื้อแดงกลับ ไม่ง่าย!!! ยังมีปัจจัยอื่นที่สำคัญกว่า

 




“ธิดา” มอง “ทักษิณ” เรียกคนเสื้อแดงกลับ ไม่ง่าย!!! ยังมีปัจจัยอื่นที่สำคัญกว่า


ถอดบทสัมภาษณ์ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ โดย สำนักข่าวทูเดย์

[คลิป https://www.youtube.com/live/vP7P_-xDC_I?si=-enTduEtJe_AYnfw]


ผู้ดำเนินรายการ : สืบเนื่องจากงานบวชที่ปทุมธานีที่คุณทักษิณไปร่วมงาน และได้พูดบนเวทีว่า “ผมกลับมาแล้ว พี่น้องคนเสื้อแดง จะกลับมั้ย?”


จุดยืนอย่างแรกที่อยากจะบอกก่อนนะ คืออาจารย์อาจจะมีความเห็นตรงหรือไม่ตรงกับพรรคเพื่อไทยหรือคุณทักษิณก็ตาม แต่ว่าตรงจุดยืนมันเป็นการมองอย่างคนที่เป็นมิตรกัน ไม่ได้ถือเป็นศัตรู เพราะว่าแน่นอนเราผิดหวังที่คุณทักษิณไปจับมือข้ามขั้ว กลายเป็นรัฐบาลผสมข้ามขั้ว แน่นอนเราไม่ชอบ แต่ว่าเราเข้าใจ และเราก็กำลังดูว่าจะไปได้แค่ไหน เพราะว่าอาจารย์ไม่ค่อยวางใจฝั่งจารีตอำนาจนิยม คือคุณทักษิณเขาเป็นคนมองในแง่ดีแบบนักธุรกิจประมาณนั้น แต่ว่าการณ์ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดหลายรอบ เราก็ไม่รู้ว่ารอบนี้จะตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า


ตอนนั้นที่คุณทักษิณไปในงานแล้วพูดถึงคนเสื้อแดง จากจุดยืนที่อาจารยพูดนะ เรากำลังมองว่าคุณทักษิณที่มาจับมือข้ามขั้วก็เป็นภารกิจที่ต้องการเป็นรัฐบาล แล้วก็ต้องการเป็นรัฐบาลที่ประสบความสำเร็จ ที่พูดถึงคนเสื้อแดง แน่นอนเลยมันเป็นภารกิจเพื่อเป็นการช่วยพรรคเพื่อไทยให้มีโหวตเตอร์มากขึ้น อันนี้ตรง ๆ ถ้าถามว่าคนเสื้อแดงจะกลับไหม? แต่ลึก ๆ มันก็มีความรู้สึกผูกพันระหว่างคุณทักษิณกับคนเสื้อแดง อาจารย์ถือว่ามันเป็นเรื่องจริง แม้บางครั้งคุณทักษิณอาจจะทำอะไรไม่ถูกใจคนเสื้อแดง แต่คุณทักษิณเปลี่ยนไป คนเสื้อแดงก็ไม่ได้ว่าอะไร หมายถึงว่าไม่ได้แสดงความโกรธเกรี้ยวอะไรอย่างรุนแรง เพียงแต่ว่าเวลาโหวตครั้งที่แล้ว ไม่ว่าจะตอนเป็นอนาคตใหม่ หรือตอนเป็นก้าวไกล มันก็ทำให้เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่าคนเสื้อแดงจำนวนมากไม่ได้โหวตให้พรรคเพื่อไทย


บรรยากาศงานบวชที่ จ.ปทุมธานี 
(ขอบคุณภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์)


สิ่งที่คุณทักษิณพูดก็คือ อยากจะเรียกคนเสื้อแดงให้กลับมาโหวตให้พรรคเพื่อไทยเหมือนในอดีต ประมาณนั้น อาจารย์มองว่าเป็นภารกิจ ถ้ามีดีลตามที่คนเชื้อกันเกือบทั้งประเทศว่า ฝั่งจารีตอำนาจนิยมต้องการที่จะให้พรรคเพื่อไทยเป็นคู่แข่งที่ดึงคะแนนจากพรรคก้าวไกล เพราะว่าดูไปแล้วก้าวไกลเป็นอะไรที่น่ากลัวมากกว่าสำหรับกลุ่มจารีตอำนาจนิยม จึงไม่มีทางเลือก ดังนั้น ภารกิจที่คุณทักษิณชวนคนเสื้อแดงกลับมา มันก็ไม่ได้ขัดใจฝั่งจารีตอำนาจนิยมนะ เพราะว่าเป็นเป้าหมายที่อยากจะให้ทำอยู่แล้ว


ที่อาจารย์ใช้คำว่า “จารีต” คือมันหนักกว่า “อนุรักษ์นิยม” พูดตรง ๆ ว่าเป็นพวกขวาจัด ค่อนข้างสุดโต่ง พวกสุดโต่งเหล่านี้จำนวนไม่ใช่น้อยไม่พึงพอใจคุณทักษิณ ก็ยังไม่ชอบคุณทักษิณ แต่กลุ่มจารีตอำนาจนิยมที่มีลักษณะการแข่งขันทางยุทธศาสตร์ และต้องการแข่งขันกับพรรคก้าวไกล ก็จำเป็นที่จะต้องจับมือกับเพื่อไทย เพราะฉะนั้น ที่คุณทักษิณไปดึงคนเสื้อแดงก็จะไม่มีการไม่พึงพอใจ


แต่จะกลับมาได้มั้ย? อาจารย์มองว่าส่วนหนึ่งถ้าจะกลับมาก็คือพรรคเพื่อไทยต้องประสบความสำเร็จในการเป็นรัฐบาลที่นำพาประเทศชาติและทำงานทางเศรษฐกิจได้ดีเป็นองค์ประกอบด้วย คือคุณทักษิณอาจจะเป็นองค์ประกอบหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด คนที่เคยมีความเชื่อมั่นคุณทักษิณและเคยมีความรักความผูกพัน บางทีคุณทักษิณพูดอะไรที่เขาอาจจะไม่พอใจ เช่น ขึ้นรถลงเรือ แต่เขาก็ลืม ๆ ได้ (ในอดีต) แต่พอบังเอิญมีพรรคทางเลือก มันก็จะกลายเป็นว่าโหวตเตอร์แยกทางกัน คนเสื้อแดงก็เลยแยกออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งก็ยังเป็น FC พรรคเพื่อไทยแม้จะข้ามขั้ว แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็น FC พรรคก้าวไกลเพราะใกล้ชิดกันทางแนวทางความคิดมากกว่า คุณทักษิณก็อาจจะมีความเชื่อว่าอาจจะดึงมาได้ส่วนหนึ่ง ก็เป็นไปได้!

 

แต่อาจารย์ว่าปัจจัยสำคัญมากกว่าก็คือ ความมีเสถียรภาพของรัฐบาลนี้ แล้วก็ความสำเร็จในการนำพาทางเศรษฐกิจ เพราะว่าคนเสื้อแดงหรือประชาชนเดี๋ยวนี้เขาก็ฉลาด แน่นอนเขาก็ต้องนึกถึงผลประโยชน์ของเขาและผลประโยชน์ของประเทศชาติไปด้วยพร้อม ๆ กัน บางคนก็อาจจะคิดถึงตัวเองมากสักหน่อย แต่อย่างไรก็ตาม มันไปด้วยกัน ผลประโยชน์ของประเทศชาติก็เป็นผลประโยชน์ของประชาชน ผลประโยชน์ประชาชน โดยเฉพาะมวลชนส่วนใหญ่ ก็เป็นผลประโยชน์ประเทศชาติ เพราะฉะนั้น ความสำเร็จในการนำพาประเทศชาติ อาจารย์ว่าสำคัญมากกว่า อาจจะมากกว่าที่คุณทักษิณกลับด้วยซ้ำ


ผู้ดำเนินรายการ : อาจารย์วิเคราะห์ว่าที่คุณทักษิณไปพูดบนเวทีงานบวชเมื่อวันเสาร์ เพื่อต้องการเรียกคะแนนกลับมาให้คุณเศรษฐา พรรคเพื่อไทย


เป็นภารกิจเลย ถ้ามีดีลกันจริงนะ ก็ต้องเป็นไปตามนั้น คือสมมุติว่าถ้ามีดีลนะ แล้วก็อยู่เฉย ๆ คุณทักษิณไม่ทำอะไร แล้วให้ก้าวไกลทำคะแนนเยอะ ๆ อาจจะไม่ตรงดีลก็ได้ เพื่อไทยต้องสามารถดึงคะแนนและเรียกความเชื่อมั่นมาได้ส่วนหนึ่ง แต่ว่าในกลุ่มฝ่ายจารีตเขาไม่ได้เป็นเอกภาพหรอก คุณทักษิณที่กลับมา ฝ่ายที่ยังเกลียดและไม่ชอบก็มีอยู่เยอะ คือเขาก็ไม่ชอบก้าวไกล และเขาก็ไม่ได้ชอบคุณทักษิณด้วย เพราะที่อาจารย์เคยพูดครั้งที่แล้วว่า สงครามระหว่างฝ่ายจารีตอำนาจนิยมกับฝ่ายเสรีนิยมประชาธิปไตยยังดำรงอยู่ อาจารย์ยังไม่ได้ถือว่าพรรคเพื่อไทยเป็นศัตรู เพราะว่าก้าวข้ามไปจริง แต่ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน ในความคิดของอาจารย์นะ เพราะว่ามันเกิดความไม่เป็นเอกภาพ (ในฝ่ายจารีต)


และในขณะนี้ ประเทศไม่มีเสถียรภาพในทางความมั่นคงเลยนะ เราจะเห็นว่าหุ้นตก ต่างประเทศก็ขาดความเชื่อมั่น เสถียรภาพทางการเมืองค่อนข้างที่จะแย่ ด้านฝั่งจารีตอำนาจนิยมก็ไม่เป็นเอกภาพ สองลุงก็ไปกันคนละทาง แล้วก็ยังมีฝ่ายที่เป็นขวาสุดโต่งที่ยังเกลียดและไม่พอใจคุณทักษิณอยู่ ยังมีอยู่พอสมควร ดังนั้น คุณทักษิณจะถูก bombard (ทิ้งระเบิด) ทั้งสองฝั่ง คือฝั่งจารีตอำนาจนิยมที่ไม่พอใจคุณทักษิณ คือรู้ว่าพวกต้องการดึงมาเพื่อลดคะแนนเสียงก้าวไกล และเพื่อให้ฝั่งนี้เป็นรัฐบาลได้ ถ้าไม่เอาเพื่อไทยก็เป็นรัฐบาลไม่ได้ รู้ว่าจำเป็น แต่ก็ไม่ชอบ ถ้ามีปัญหาที่จะทำให้เสียเครดิตได้ก็ต้องทำ!  ก็หมายความว่ากลุ่มขวาจัด โดยเฉพาะที่อาจจะไม่ได้ผลประโยชน์จากการที่คุณทักษิณมาเป็นรัฐบาล ก็พร้อมที่จะเล่นงานคุณทักษิณตลอด แล้วฝั่งประชาชนที่เลือกข้างเสรีประชาธิปไตยแล้วไม่พอใจในการข้ามขั้ว ก็ไม่พอใจคุณทักษิณด้วย


ผู้ดำเนินรายการ : คืออยู่ตรงกลาง โดนทั้งสองทาง อาจารย์กำลังจะบอกแบบนั้นใช่มั้ยครับ


ความจริงก็ไม่กลางนะ ก็พรรคเพื่อไทยมาทางขวาแล้วล่ะ ข้ามไปแล้ว ข้ามไปเพื่อทำให้เขาสามารถตั้งรัฐบาลได้ สืบทอดอำนาจได้ ก็คือพรรครัฐบาลที่แล้วที่มีคุณประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ก็คือพรรคฝั่งเขายังอยู่ครบ เพียงแต่เปลี่ยนว่านายกฯ มาเป็นคุณเศรษฐา แต่ความหมายก็คือว่าในฝั่งขวาก็มีเฉด ฝั่งซ้ายก็มีเฉด คุณทักษิณนั้นข้ามขั้วมาแล้ว แต่อาจารย์ก็ไม่แน่ใจนะว่าจะมีเสถียรภาพอยู่ได้นานแค่ไหน?


ผู้ดำเนินรายการ : อาจารย์ประเมินว่าถ้าคนเสื้อแดงจะกลับเพื่อไทย เศรษฐกิจต้องดี การเมืองต้องเสถียร คนเสื้อแดงถึงจะกลับมา


หมายถึงคนเสื้อแดงส่วนหนึ่ง อย่าลืมว่าโหวตครั้งที่แล้วพรรคเพื่อไทยบอกว่าไม่เอาสองลุง ฉะนั้นใน 10 ล้านเสียงที่โหวตให้ ไม่แน่ใจว่าเที่ยวนี้เพื่อไทยจะรักษา 10 ล้านเสียงนี้ได้หรือเปล่า รอบแรกสมัยคุณยิ่งลักษณ์ 14 ล้านเสียง (คะแนนปาร์ตี้ลิสต์) ผ่านมาตั้งหลายปี คนก็มากขึ้น แต่กลายเป็นว่าได้แค่ 10 ล้านเสียง หายไป 4 ล้านเสียง หมายความว่าคนเยอเนอเรชั่นใหม่ก็ไม่ได้มาเติม


ผู้ดำเนินรายการ : เราต้องมาคำนวณใหม่เช่น เหตุการณ์ที่ข้ามขั้วไปนั้น 10 ล้านเสียง จะเหลือเท่าไหร่


การที่จะดึงกลับ มันต้องดูว่า 10 ล้านเสียงนี้จะรักษาไว้ได้มั้ย คือ 4 ล้านเสียงที่ไปแล้ว อาจารย์ว่ายาก! ยกเว้นว่าบางส่วนที่กลับมาอาจจะมีความผูกพันกับคุณทักษิณ แล้วรัฐบาลประสบความสำเร็จ มีความพึงพอใจระดับหนึ่ง แต่อาจารย์ว่าน้อย


ผู้ดำเนินรายการ : อยากให้อาจารย์วิเคราะห์ เช่น การ “ข้ามขั้ว” ไปจับกับสองลุง ยังเหลือถึง 10 ล้านเสียงมั้ย?


จริง ๆ อาจารย์ว่าไม่ถึง แต่พูดแบบนี้ FC เพื่อไทยส่วนหนึ่งอาจจะไม่พอใจ แต่ว่าต้องเข้าใจว่าเราอยู่กับความเป็นจริง สมมุติว่าคุณรักเพื่อไทย คุณก็ต้องยอมรับความเป็นจริง แต่เวลาพูดความจริงมันจะมีคนเกลียด เป็นเรื่องที่รู้กัน แต่อาจารย์ต้องอยู่กับความเป็นจริง เพราะต้องการให้คนวิเคราะห์อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงว่า 10 ล้านเสียงนี้จะรักษาไว้ได้มั้ย?


คือเยนเนอรเรชั่นใหม่ Y, Z อาจารย์ว่ายาก มันก็เหลือแต่พวกคนรุ่นเก่า รุ่นแก่ รุ่น 50, 60, 70 อาจจะมีส่วนกลับมาบ้างจำนวนหนึ่ง ก็คืออยู่ใน 10 ล้านเสียงนี้



ผู้ดำเนินรายการ : จาก 10 ล้าน จะลดลงไปเยอะมั้ย?


อาจารย์ว่าลดเยอะแหละ แต่พูดแบบนี้ไม่ต้องมาโกรธกันนะ เราวิเคราะห์ความเป็นจริง เพราะว่าคนที่รักพรรคเพื่อไทยจริง ยิ่งคุณไปด่าคนที่เขาไม่เลือกก็ยิ่งสร้างศัตรู อาจารย์อยากให้คนเราแยกมิตรแยกศัตรูให้ถูก มองความเป็นจริงว่าพรรคเพื่อไทยในอดีตเคยอยู่ฝั่งประชาธิปไตย แต่เมื่อข้ามขั้วมา สิ่งที่ได้คือได้เป็นรัฐบาล คุณทักษิณได้กลับมา แต่ในที่นี้ต้องยอมรับความสูญเสียด้วย มันไม่มีอะไรที่บวกอย่างเดียว ด้านลบก็คือการข้ามขั้วที่คุณต้องเผชิญกับความเป็นจริงว่า มวลชนจำนวนหนึ่งรับไม่ได้ เพราะว่าเขาสู้กับฝั่งจารีตอำนาจนิยมมาตลอด และเขารู้ว่านั่นแหละเป็นศัตรูตัวจริง การที่เขาไม่ถือว่าพรรคเพื่อไทยหรือคุณทักษิณเป็นศัตรู แต่เฉย ๆ อาจารย์ว่ามันก็ดีแล้วนะ ถ้ายังไม่สามารถนำพาประเทศประสบความสำเร็จในช่วงระยะเวลานี้ ซึ่งขณะนี้อาจารย์ว่าสภาพค่อนข้างวิกฤตทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ทุกด้านเลย ตลาดหุ้นก็ลงดิ่งอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจนั้นที่ใครบอกว่าไม่วิกฤตตอนนั้นนะ แต่อาจารย์ก็ไม่รู้ว่าแค่มี “ดิจิทัลวอลเล็ต” มันเป็นระยะสั้น มันแก้ไม่ได้หรอก! เพราะมันเป็นปัญหาโครงสร้างของเราที่เสียหายมากตั้งแต่ตอนทำรัฐประหารมา เราไม่ได้ปรับให้ทันกับเหตุการณ์ อุตสาหกรรมของเราก็เป็นอุตสาหกรรมแบบตะวันตกดิน แล้วแรงงานมีฝีมือของเราก็น้อย คือเรามีปัญหาทุกอย่างทั้งเชิงโครงสร้างและในทางการศึกษา อันเนื่องมาจากการเมืองที่เขาถือว่าเอาความมั่นคงของฝ่ายจารีตอำนาจนิยมเป็นสำคัญ แต่อันนี้คือการทำลายประเทศก็คล้าย ๆ พม่านั่นแหละ


ผู้ดำเนินรายการ : มีวิธีไหนที่จะทำให้ประชาชนกลับมาศรัทธา “เพื่อไทย-เศรษฐา-ทักษิณ” ได้


ก็ต้องบริหารตอนนี้ให้ดี แต่อาจารย์ว่าเขาก็บริหารลำบาก เพราะว่าในฝั่งจารีตอำนาจนิยมก็พยายามเตะตัดขา ก็ดู 40 สว. ออกมาพูดเรื่องการตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” อันนี้ก็หนักนะ หนักจนต้องเอาคุณวิษณุมาเป็นตัวช่วย



ผู้ดำเนินรายการ : อาจารย์มองยังไง บางคนที่เขาโกรธแค้นกับความที่เพื่อไทยไปข้ามขั้ว มีการเผาเสื้อกัน มองเห็นอะไรในหัวใจคนเสื้อแดงกลุ่มนี้


มวลชนเผาเสื้อแดงหน้าพรรคเพื่อไทย 
ขอบคุณภาพ : มติชน

เขาเสียใจ เขาเจ็บแค้น อาจารย์เข้าใจพวกเขา แล้วอาจารย์ก็เข้าใจพวกที่เป็น FC แบบไม่ลืมหูลืมตา เข้าใจทั้งสองส่วน พวกกองเชียร์พรรคสุดขั้วนั้นก็ด่าอาจารย์นะ แต่อาจารย์ไม่ถือสา คนที่มาโกรธจนกระทั่งเผาเสื้อแล้วถูกกล่าวหาว่าเปลี่ยนเป็นสีส้ม อาจารย์ว่ามันไม่เกี่ยว อันนั้นมันเรื่องของพรรค แต่ว่าฝ่ายประชาชน ถ้าคุณยังมีอุดมการณ์ต่อสู้กับฝั่งเผด็จการจารีตอำนาจนิยม คุณก็ยังเป็นคนเสื้อแดง แต่เรื่องกองเชียร์พรรคมันอีกเรื่องหนึ่ง คนที่ออกมาเผาเสื้อเขาเสียใจมาก เขาโกรธแค้นเพราะว่าเราสู้มานานนะ หลายปีนะ โดยทั่วไปพวกนี้ก็อายุจะค่อนข้างมากสักหน่อย ตั้งแต่ปี 2550 จนมา 2567 เป็นเวลา 10 กว่าปี หลายคนก็หมดเนื้อหมดตัว แล้วคนที่ตายไป บาดเจ็บ ครอบครัวล่มสลาย เขาเอาจริงนะ เราดูว่าเขาเป็นชาวบ้าน เพราะฉะนั้นเขาเสียใจเพราะว่าเขาได้ทุ่มเทให้เยอะ


 

ก็เหมือนวันที่คุณทักษิณพูดเรื่องขึ้นรถลงเรือ อาจารย์ต้องเป็นคนพูดคิวต่อไป คุณทักษิณพูดว่าขอบคุณ ไม่รู้ว่ามีใครไปบอกอะไรแกว่าให้ทิ้งคนเสื้อแดงเถอะ แล้วก็อาจจะให้กลับมาหรืออะไร นี่เดาเอานะ แกก็บอกว่าขอบใจคนเสื้อแดงที่เอาเรือมาส่ง แล้วต่อไปก็จะขึ้นรถเอง ทีนี้คนก็ฮือฮากัน อาจารย์ต้องเป็นคนพูดคนต่อไปในงานรำลึกที่ราชประสงค์ แต่อาจารย์เฉยเลย คือคิดว่าอาจารย์รู้จักคนนะ ก็เข้าใจว่าคุณทักษิณก็เป็นคุณทักษิณ แกก็เป็นแบบนี้ แกก็มาจากธุรกิจ เราจะถือว่าแกจะต้องเป็นนักต่อสู้เต็มที่ มันไม่ใช่! เขามาตั้งพรรคก็เขาอยากเป็นรัฐบาล เขาก็อยากมีอำนาจ มองในแง่ดีก็คือ เขาอยากทำในสิ่งที่ดี ๆ ก็ได้ หมายถึงมันต้องดีต่อเขาและครอบครัวเขาด้วย มันต้องดีทุกอย่างไง พอมีปัญหาการทำรัฐประหารและมีความเสียหายต่าง ๆ เกิดขึ้น ถ้าเราประเมินเขาถูกต้อง เราก็ไม่โกรธ


ผู้ดำเนินรายการ : อาจารย์กำลังจะบอกว่าคุณทักษิณคือนักธุรกิจ คือพ่อค้า ไม่ใช่นักต่อสู้


เขาเป็นหัวหน้าพรรค เป็นเจ้าของพรรค แล้วทำการเมืองในระบบประชาธิปไตยแบบทุนนิยม มันก็เป็นอย่างนั้น แต่ว่าอาจารย์ก็นับถือหัวใจเขานะว่าถ้าเป็นคนอื่นก็อาจจะเลิกไปแล้ว แกก็ยังสู้ไม่เลิก เรื่องพรรคการเมือง แต่เขาสู้คนละแบบกันกับอาจารย์ เราเข้าใจ เราไม่ได้คิดว่าเขาจะต้องทำให้เหมือนเรา อาจารย์ก็เฉย ๆ ถึงไม่พอใจก็เฉย ๆ ก็รู้ว่าทำไมเขาถึงพูดอย่างนั้น แต่ว่ามวลชนเขาไม่สามารถจะคิดแบบอาจารย์ได้ เขาก็ต้องมีความโกรธ เพราะว่าเขาทุ่มเทเสียสละ แน่นอนอาจารย์ก็ทุ่มเทเสียสละ แล้วหลายอย่างคุณทักษิณก็ลำบาก มวลชนก็ลำบาก ที่สำคัญทำให้การต่อสู้ประชาชนก็ลำบากมากขึ้น


ผู้ดำเนินรายการ : วันที่พรรคเพื่อไทยไปจับกับพรรคสองลุง อาจารย์รู้สึกโกรธ เสียใจ เสียดาย หรือมีความรู้สึกอย่างไรต่อพรรคเพื่อไทยและคุณทักษิณ


ถ้ามองในแง่หลักการและการต่อสู้ของประชาชน อันนี้มันเสียหายมาก! ทำให้กำลังฝ่ายประชาธิปไตยถูกแบ่งแยกออกไปเลย ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยเดี่ยว ๆ แต่หมายถึงมวลชน หมายถึงคณะทำงาน คนเสื้อแดง โหวตเตอร์อะไรต่าง ๆ ก็ต้องติดสอยห้อยตามข้ามขั้วไปด้วย แปลว่ากำลังฝ่ายประชาธิปไตยก็อ่อนลงไประดับหนึ่ง มันไม่ใช่เรื่องที่ดี


แต่ในขณะเดียวกันเราก็เข้าใจว่าเขาข้ามไป เพราะพรรคการเมืองทุกพรรคต้องการเป็นรัฐบาล แล้วคุณทักษิณก็ถูกกระทำอยู่ 17 ปี ก็อยากกลับบ้าน อยากมาทำพรรคการเมือง แต่อาจารย์อยู่ฝ่ายประชาชนในการต่อสู้ ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ไม่เห็นด้วยอย่างมาก เราทวงความยุติธรรมหรือต่อสู้ต่าง ๆ เพื่อให้ได้ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง อันนี้กลายไปอยู่กับการสืบทอดอำนาจ แล้วมันจะดีได้ยังไง พูดกันตรง ๆ ว่า ถ้าไม่มีพรรคเพื่อไทย เขาก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ แต่ขณะเดียวกัน ก้าวไกล กบเพื่อไทยก็ต้องยอมรับความจริงว่าก็ถูกสกัด สมมุติว่าเพื่อไทยมารวมกับก้าวไกล เราก็ไม่รู้ว่าอาจจะมีทั้งปัญหารัฐประหาร หรือมีอะไรเกิดขึ้นก็ได้เหมือนกัน


คืออาจารย์พูดยากเพราะว่าอาจารย์ไม่ได้ถือเขาเป็นศัตรู เข้าใจแต่ไม่เห็นด้วย และทำให้มีความเสียหายอย่างหนัก มวลชนผิดหวังจำนวนมาก 


🚩🚩🚩"คุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยอาจจะเข้าใจผิดว่าถ้าทำให้เศรษฐกิจดีคนก็จะได้กลับมา โดยเฉพาะคุณทักษิณก็กลับมา แต่จริง ๆ ประชาชนไปไกลกว่านั้น เขาต้องการทำให้ระบอบที่เป็นอยู่นี้ ที่เป็นแบบไทย ๆ ความยุติธรรมแบบไทย ๆ ให้มันเปลี่ยน เขาต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประเทศที่มีระบอบประชาธิปไตยจริง ๆ"🚩🚩🚩


ความจริงที่มาว่ากัน “สามนิ้ว” มันผิดตรงไหน อันนี้มันเป็นหลักการของระบอบประชาธิปไตย “เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ” เป็นเรื่องหลักการ ไม่มีอะไรผิด


พอมีการข้ามขั้วไปหลายคนก็ใช้คำแรง แต่อาจารย์เนื่องจากไม่ได้ถือเป็นศัตรู อาจารย์ไม่อยากใช้คำแรง แต่บอกได้เลยว่าในส่วนของพลังการต่อสู้ เราก็ผิดหวังอย่างมาก


🎯🎯🎯ที่คนต้องออกมาเพราะเขาเจ็บปวด สู้มาตั้ง 10 กว่าปี ลองคิดดู แน่นอนส่วนหนึ่งสู้เพื่อผลประโยชน์ตัวเองแต่เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติด้วย สู้อย่างทุ่มเท แล้วคุณไปจับมือกับอีกข้างหนึ่งเฉย ถามว่าแล้วมวลชนจะโกรธมั้ย เขาก็โกรธอยู่แล้ว🎯🎯🎯


ผู้ดำเนินรายการ : ดังนั้นการที่คุณทักษิณไปพูดบนเวทีว่า ผมกลับมาแล้ว เสื้อแดงจะกลับมามั้ย อาจารย์ก็คิดว่าไม่ได้กลับ


FC นั่นแหละเขาได้อยู่แล้ว ไม่ได้ไปไหน แต่คนที่ไปแล้ว อันนี้อาจารย์ว่ายากนะ ไม่ว่าจะเป็น 4 ล้านรอบก่อนที่หายไป หรือ 10 ล้านที่เพิ่งได้มา ก็ยากเมื่อข้ามขั้วไปแล้ว อาจารย์ดูแล้วก็คือการที่คุณทักษิณจะอยู่ในฝั่งนี้ก็อยู่ยาก ดูตอนดีล รู้หรือเปล่าว่าจะต้องเจอ 112 แล้ว 40 สว. ก็มาเล่นงานคุณเศรษฐา อาจารย์ว่ายาก! เขาอยู่ก็อยู่ยาก! ดังที่บอกแล้วว่าฝั่งอำมาตย์เขาไม่ได้เป็นเอกภาพ แล้วอย่าเข้าใจว่าที่เข้ามาเขารักกันหมดเลยนะ ไม่ใช่! ฝั่งอำมาตย์ที่ไม่ชอบใจคุณทักษิณมีเยอะแล้วพร้อมที่จะเหยียบให้จมดินคาตีนไปเลย มีไม่ใช่น้อย



ผู้ดำเนินรายการ : ถามว่าชะตากรรมของคุณทักษิณต่อจากนี้จะเป็นยังไง?


คือขณะนี้ต้องยอมรับว่าฝั่งจารีตอำนาจนิยมเขาอยู่ในสภาพที่อ่อนแอในเชิงความนิยมของประชาชนมาก ถ้าโหวตตอนนี้เขาจะเหลือ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง เสียงที่จะสนับสนุนอาจารย์ว่าไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ที่สนับสนุนฝั่งขวาจัดนะ ถัดมาอีกสัก 10% ก็อาจจะกลาง ๆ หน่อย แต่อาจารย์ว่า 70% ของประชาชนต้องการความก้าวหน้าในทางการเมืองการปกครองทุกอย่าง คือถ้าการเมืองไม่ก้าวหน้า เศรษฐกิจไม่มีทางก้าวหน้าได้ ดังนั้นฝั่งจารีตอำนาจนิยมอยู่ในภาวะที่แย่ เขาจึงต้องอาศัยคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยเข้ามา




แต่ลองคิดดูว่า คุณทักษิณก็ลำบากอยู่แล้วเพราะว่าถูกดึงคะแนนไปเยอะ แล้วต้องมาเกาะกับสิ่งที่มันถ่วง คือฝั่งจารีตอำนาจนิยมที่คุณทักษิณอยู่ด้วยมันก็เป็นตัวถ่วงให้คุณทักษิณยิ่งจมลงไปอีก เขาไม่ได้อยู่กับอะไรที่มันดูดีนะ คือข้ามขั้วไป แต่ขั้วนี้กำลังจมดิ่งเหมือนกับราคาหุ้น อาจารย์มองว่ามันจะพากันลงเหวมากกว่า


ถามว่าตอนคุณทักษิณกลับมา คิดหรือเปล่าว่าจะเจอ 112 อาจารย์ว่าไม่คิด คุณเศรษฐาก็ไม่คิดว่าจะเจอเรื่อง 40 สว. เพราะถ้าเจอก็หนักเหมือนกันอย่างที่บอก สองอันนี้มันแสดงให้เห็นว่า ถึงมีดีลก็ยังมีการเตะตัดขาอยู่ คือเอาคุณทักษิณมาพยุงเพื่อให้พวกเขาอยู่ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีการเตะตัดขาอยู่ส่วนหนึ่ง คือส่วนหนึ่งรู้ ว่าต้องให้คุณทักษิณแข็งแรงหรือพรรคเพื่อไทยแข็งแรงหน่อย เพื่อพวกเขาจะได้เกาะอยู่ได้ แต่อีกส่วนหนึ่งความเกลียดชังพรรคเพื่อไทยและคุณทักษิณในฝั่งจารีตอำนาจนิยมก็ยังไม่พึงพอใจ ยังหมั่นไส้ อาจารย์ว่ามันพากันร่วงหมด พากันจมหมดทั้งกลุ่มก้อน


ผู้ดำเนินรายการ : สถานการณ์ของเพื่อไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อคุณทักษิณออกมาในที่สาธารณะ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน พูดบนเวทีต่าง ๆ ก็ไปผูกโยงกับคะแนนของ “เศรษฐา-พรรคเพื่อไทย” คะแนนก็ดิ่งลงไปเรื่อย ๆ


ที่ดิ่งไม่ใช่เพราะคุณเศรษฐาทำให้ดิ่ง ที่ดิ่งในความหมายก็คือในขณะที่ประชาชนก้าวไปข้างหน้า ประชาชนต้องการให้ประเทศชาติก้าวไปข้างหน้า และต้องการให้หลุดจากโซ่ตรวนของจารีตอำนาจนิยม แต่เมื่อคุณทักษิณกับคณะเข้าไปอยู่กับคณะรัฐบาลเก่า เข้าไปอยู่ในโซ่ตรวนอันนั้น คำถามก็คือประชาชนส่วนหนึ่งก็ต้องยืนดูว่าเขาจะไปได้ถึงไหน ส่วนหนึ่งก็แสดงความไม่ชอบรุนแรง แต่คนส่วนใหญ่เขาอาจจะไม่พูดอะไร แต่เวลาโหวตเขาก็โหวตอีกทาง เวลาเราพูดอะไรเราประเมินความคิดบางทีมันลำเอียง เราดูของจริงตอนโหวต อย่างที่บอก 14 ล้าน มา 10 ล้าน, 10 ล้าน นี่ก็บอกว่าไม่เอาสองลุง แล้วตอนนี้พอเป็นอย่างนี้มันจะเหลือเท่าไหร่ คุณทักษิณจึงต้องออกแรง


ผู้ดำเนินรายการ : พอออกแรงแบบนี้จะส่งผลดีหรือเสียต่อพรรคเพื่อไทย


👿👿👿การข้ามขั้วไปไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้ว 👽👽👽 


ก็เป็นความหวังว่าคนเคยรักกันนะ เคยเชื่อกันนะ ผมมาแล้วก็ไว้ใจผมนะ ก็อาจจะได้เฉพาะบางเยนเนอเรชั่น อันนี้ก็อย่าโกรธกันนะกองเชียร์เพื่อไทย แต่พูดความจริง และความจริงอาจจะทำให้คนส่วนหนึ่งโกรธ มันก็ช่วยไม่ได้ ถ้าเราไม่พูดความจริง เราก็จะเป็นส่วนหนึ่งของความเลว ของประวัติศาสตร์ อาจารย์คิดอย่างนั้นนะ


ผู้ดำเนินรายการ : อาจารย์บอกว่า “คุณทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ยังไม่ใช่ศัตรู และยังไม่ใช่ที่จะเป็นมิตรขนาดนั้นเพราะไปข้ามขั้ว


คือไม่ใช่มิตรในการต่อสู้กับจารีตอำนาจนิยม ก็เป็นอดีตสหายร่วมรบ

 

ผู้ดำเนินรายการ : คือจะรักก็ไม่ได้แล้ว จะเกลียดก็ยังกระไรอยู่เหรอครับ


คือยังมีความผูกพันอยู่ แต่ว่ายังให้เวลา เพราะอาจารย์ยังคิดว่าเขายังอยู่ในช่วงเวลาของการก้าวข้ามเส้น ซึ่งมันเป็น Transitional period (ระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน) ก็ได้ คือ Transitional period ที่ดี ๆ เขาหมายถึงว่า จากระบอบเผด็จการไปประชาธิปไตย แต่อันนี้มันกลับ มันย้อนหลัง เขาจะอยู่ได้แค่ไหนก็เป็นเรื่องของเขา แต่ถามว่าเสียใจมั้ย เสียใจมาก


ผู้ดำเนินรายการ : อาจารย์บอกว่าจะนับเป็นมิตรก็ยังไม่ใช่ นั่นคืออดีตสหายร่วมรบ เรามีเวลาให้เขา จะมีปัจจัยอะไรที่ทำให้รู้สึกว่านี่คือกลับมาเป็นมิตรได้อีกครั้ง หรือนี่คือศัตรูของฉันแล้ว


การที่จะเรียกคะแนน ขณะนี้เขามีเวลาสั้นนะ ที่อาจารย์ให้คนไปเรียกร้องบอกว่าถ้าคุณจะทวงความยุติธรรมให้คนเสื้อแดงคือคุณมีเวลาน้อยแล้วนะ เพราะเสถียรภาพไม่ดี หมายถึงว่า อะไรที่ทำให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าได้ในเส้นทางที่ถูกต้อง ถ้ารู้ก็ทำเสีย ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปการเมือง เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ การนิรโทษกรรม ตอนนี้ก็คงเห็นพ้องต้องกันหมดแล้วมั้ง นิรโทษ 112 ตอนนี้คนเสื้อแดงที่เป็นกองเชียร์ส่วนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่เคยโจมตีเยาวชน ก็หยุดโจมตีแล้ว เพราะคุณทักษิณโดน อาจจะเป็นอย่างนั้น อาจารย์ก็ขำแต่ไม่ว่าอะไร นี่ไงมนุษย์ ระดับความเข้าใจกับความรับรู้มันไม่เท่ากัน เราก็ไม่ถือสา


✅✅✅ อะไรที่เป็นเรื่องก้าวหน้า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การนิรโทษกรรมประชาชน การทวงความยุติธรรมให้คนที่ตาย อันนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องทั้งนั้นเลย การปฏิรูปกองทัพ การปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ คืออะไรที่เป็นสิ่งถูกต้อง คุณทำ แต่อาจารย์รู้ว่าจะต้องถูกเตะตัดขาจำนวนหนึ่ง ถ้าเขากล้าทำ ก็อาจจะได้คะแนนส่วนหนึ่งกลับมา แต่อาจารย์ว่าเขาทำยาก 🔆🔆🔆


ผู้ดำเนินรายการ : แต่ถ้า 4-5 ข้อที่อาจารย์พูดมาแล้วเขาไม่ทำล่ะ


ไม่ทำก็คงยากที่คนที่เคยร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจะกลับมา อันนี้เป็นช่วงเวลา เมื่อคุณเป็นรัฐบาล คุณทำอะไรได้บ้าง แต่ตั้งแต่แรกอาจารย์ก็ไม่เชื่อ อาจารย์ใช้คำว่า จะทำอะไรได้ก็ต้องแล้วแต่ฝั่งจารีตอำนาจนิยมอนุญาตให้ทำได้แค่ไหน เช่น LGBT โอเค ไม่กระทบความมั่นคง อนุญาต! อย่างนี้ทำได้ ให้สนับสนุนการท่องเที่ยว โอเค ทำอย่างไรให้เศรษฐกิจดีขึ้น อย่างนี้โอเค


แต่ถ้าคุณไปกระทบการเมืองในแบบที่เขาถือว่าเป็นความมั่นคง “ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์” อาจารย์มองว่าขณะนี้เหมือนกับการต่อสู้ระหว่างคำขวัญ 2 แบบ คำขวัญของฝั่งจารีตอำนาจนิยม เป็นคำขวัญตั้งแต่ยุค ร.6 แล้วเขาก็ตีความแบบนั้น คือท่อง “ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์” ถือเป็นความมั่นคง แล้วพอมายุคสงครามเย็นก็ยิ่งหนักเข้าไปอีก แล้วทุกวันนี้ที่ทำอยู่เหมือนกับอยู่ในยุคสงครามเย็น ถึงได้จับคนแล้วไม่ให้ประกันตัว เวลาคนเขาชู 3 นิ้ว หมายถึง “เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ” มันผิดตรงไหน นี่คือหลักของระบอบประชาธิปไตย ถ้าคุณไม่เอาสามหลักนี้ แปลว่าคุณไม่เอาระบอบประชาธิปไตย ที่คุณพูดว่าประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ไม่ใช่! ตัดคำว่าประชาธิปไตยทิ้งไปเลย เป็นการปกครองแบบไทย ๆ


ผู้ดำเนินรายการ : เวลาอาจารย์พูดถึงขบวนการนักศึกษาหรือประชาชนที่ร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อาจารย์ดูมีอารมณ์ อาจารย์มองเห็นอะไรในกระบวนการต่อสู้ที่ผ่านมาแล้ว และ ณ ตอนนี้พวกเขาทยอยที่จะเดินเข้าคุก แม้ว่ายังไม่ถูกศาลตัดสิน


นี่ไง สงครามยังไม่จบ เมื่อตอนคนเสื้อแดงเขาใช้อาวุธปราบปราม แต่ตอนนี้เขาใช้กฎหมายปราบปราม แล้วการใช้กฎหมายปราบปรามเยาวชน ถามว่าเวลาพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล คุณมองเห็นไหม? คำถามว่า ที่มีการเรียกตัวไปว่าไปชู 3 นิ้ว ผิด! มันเป็นการเปิดเผยธาตุแท้ว่าไม่เอาประชาธิปไตย ถ้าคุณไม่เอา 3 นิ้วที่ เขาชูเป็นเชิงสัญลักษณ์ เหมือนคนเสื้อแดงใช้เสื้อสีแดง คนรุ่นใหม่เขาใช้ 3 นิ้ว เขาไม่ได้ใช้สีเสื้อ การต่อสู้มันต้องมีสัญลักษณ์ ใส่เสื้อสีแดงตอนนั้นก็คือไม่เอารัฐธรรมนูญ 50 เอาไฟแดงเลย ของเยาวชนเอา 3 นิ้ว ก็เป็นสัญลักษณ์ว่าเขาจะเอาระบอบประชาธิปไตยแบบที่มีเสรีภาพ มีเสมอภาค และมีภราดรภาพแบบสากล นี่ก็คือสัญลักษณ์ของการต่อสู้ แปลว่าคุณไม่ต้องการให้ประเทศไทยมีระบอบประชาธิปไตยแน่นอนเลย นี่เป็นการเปิดเผยอย่างโจ่งแจ้งของจารีตอำนาจนิยมในปัจจุบัน


แล้วเวลาพรรคเพื่อไทยเข้ามาร่วมด้วย คำถามว่า แล้วคุณจะเอายังไง? อาจารย์เชื่อว่าในใจเขาก็คงมองเห็นว่าไอ้ 3 อันนี้มันเป็นเรื่องธรรมดา


💥💥💥อาจารย์ก็ยังเชื่อว่าเขาอยากได้ประชาธิปไตยแบบสากล แต่เขาก็ต้องมาจับมือแบบนี้ อันนี้มันยังเป็นสงคราม เราก็อยากให้เขาทำในสิ่งที่ดีกับทิศทางที่ก้าวหน้า แต่ว่าในขณะเดียวกันเราก็จะมองโลกสวยไม่ได้ เพราะเรารู้ว่าเขาจะทำได้เท่าที่จารีตอำนาจนิยมอนุญาต 💥💥💥


ผู้ดำเนินรายการ : ถ้าอาจารย์ประเมินแบบนี้ หลายสิ่งหลายอย่างที่พูดมา “เพื่อไทย” อาจจะทำไม่ได้ ถ้ากลุ่มจารีตไม่อนุญาต


แน่นอน!!!


ผู้ดำเนินรายการ : หมายความว่าคะแนนของเขาก็จะลดลงอีกในการเลือกตั้งครั้งหน้า


มันเป็นผลที่เกิดขึ้นเช่นนั้นเอง แต่เขาอาจจะมีความเชื่อว่า เขาทำทางเศรษฐกิจและคุณทักษิณกลับมา อาจจะเรียกคะแนนได้ระดับหนึ่ง ยังไงเขาก็ต้องพากันไป แต่สำหรับความรู้สึกประชาชน อาจารย์พูดแทนประชาชนได้ว่ามันกำลังจมดิ่งนะ


ผู้ดำเนินรายการ : ไปกันทั้งคู่ ทั้งคุณทักษิณ ทั้งกลุ่มอำนาจเก่า


อย่าไปเรียกคุณทักษิณเลย เอา “พรรคเพื่อไทย” ที่ไปจับมือกับสิ่งที่ไม่มีอนาคต คิดดูก็แล้วกัน


ผู้ดำเนินรายการ : “พรรคก้าวไกล” ขณะนี้กำลังเผชิญหน้ากับเรื่องคดีความ “ยุบ/ไม่ยุบ” บางคนฟันธงไปแล้วว่าเขาจะถูกยุบพรรค อาจารย์มองความเคลื่อนไหวและการดำเนินไปของพรรคก้าวไกลอย่างไร?


“พรรคก้าวไกล” เขาเปลี่ยนจากการต่อสู้ในภาคประชาชนมาเป็นพรรคการเมือง อาจารย์ไม่ได้ไปใกล้ชิดเลยนะ ถ้าพูดกันตรง ๆ อาจารย์รู้จักคนเพื่อไทยมากกว่าก้าวไกลเยอะ อาจารย์ไม่ได้ไปคุยกับคุณธนาธร ปิยบุตร หรืออะไรเลย คนละสังคมเลย เพียงแต่ว่าเรานั่งมองเรารู้ว่าเขาตั้งพรรคขึ้นมาเป็นพรรคที่มีลักษณะการต่อสู้ที่ไม่เอาจารีตอำนาจนิยม ต้องการประชาธิปไตยแบบสากลว่างั้นเถอะ เมื่อเป็นเช่นนี้มันก็ใกล้เคียงกับคนเสื้อแดงเป็นส่วนใหญ่ที่เขามีอุดมการณ์แบบนี้


ในการเดินทางของพวกเขา เขาอยู่ในฐานะที่เขาได้รับการเลือกตั้ง อยู่ในอำนาจนิติบัญญัติ แต่เมื่อมันไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย ตอนนี้มันชัดเจนว่า “ไม่ใช่” ถ้าชู 3 นิ้วแล้วยังถูกจับ ไอ้ 3 นิ้วมันคือสัญลักษณ์ประชาธิปไตยนะ ถ้าถูกจับเพราะชู 3 นิ้ว ก็แปลว่าคุณไม่เอาระบอบประชาธิปไตย ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในระบอบประชาธิปไตย คือใช้คำว่าประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ยังมากเกินไปนะ ต้องบอกว่าเป็นการปกครองแบบไทย ๆ เอาคำว่า “ประชาธิปไตย” ทิ้งไปเลย อาจารย์คิดอย่างนั้น เพราะถ้าเป็นจารีตอำนาจนิยม จะทำอะไรก็ได้


เช่น การยุบพรรค ตัดสิทธิ์ ตัดคอคน ตัดสิทธิ์ตลอดชีวิต เหมือนประหารชีวิตไปเลย ทำได้ทั้งนั้น โดยที่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องผิด เขาถือว่านี่คือปัญหาความมั่นคง ตีความ “ความมั่นคง” ในแบบดั้งเดิม ไม่ได้ตีความ “ความมั่นคง” ในแบบของระบอบประชาธิปไตยที่คนต้องแตกต่างกันได้ ต้องมีสิทธิเสรีภาพ มีความเท่าเทียมกัน ไม่ต้องรบราฆ่าฟันกัน ระบอบประชาธิปไตยไม่จำเป็นต้องมาฆ่ากัน ไม่จำเป็นต้องมายุบพรรค อย่างที่เขายกตัวอย่างขนาดเป็นพรรคนิยมนาซี ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมันยังไม่ยุบเลย ก็ให้ประชาชนเขาตัดสินไป แต่นี่ประชาชนไม่ได้ตัดสินเพราะกลุ่มจารีตอำนาจนิยมตัดสินเอง


🚨🚨🚨  เมื่อไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย ที่เราสู้กัน ไม่ว่าจะสู้กันทางกฎหมายหรืออะไรก็ตาม อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ยุบพรรค หรือจัดการประหารชีวิตทางการเมืองก็ได้หมด  🚨🚨🚨


ผู้ดำเนินรายการ : ทำไมกลุ่มอำนาจนิยมยังใช้วิธีนี้อยู่ ไม่สน ฉันจะยุบ และวิธีนี้ใช้มาแล้วทุกยุคทุกสมัย อาจารย์มองอย่างไร?


ไม่ ๆ ทุกยุคทุกสมัยเขาใช้การปราบปราม ใช้การรัฐประหาร พอสถานการณ์เปลี่ยน การรัฐประหารครั้งสุดท้ายปี 2557 ก็ส่งผลสะเทือนมาก และเป็นการรัฐประหารที่วางแผนอย่างดีเยี่ยมที่สุด นั่นก็คือ เขาตัดสินใจแล้วว่าต่อไปนี้เขาจะใช้รัฐธรรมนูญ ใช้กฎหมายเป็นอาวุธในการจัดการ ไม่เช่นนั้นมันดูป่าเถื่อนเกินไป มันหลงยุคเกินไป พอมาใช้กฎหมาย หลัง ๆ เยาวชนก็จะโดนปัญหาเรื่องกฎหมายเป็นหลัก ดังนั้น กฎหมายและการลงโทษก็คือเครื่องมือสำคัญของฝั่งจารีตอำนาจนิยมที่จะมาจัดการกับคนที่เห็นต่าง เพราะมันเป็นสงครามที่ยังไม่จบ!


พวกหนึ่งจะไปข้างหน้า อีกพวกหนึ่งบอกไปไม่ได้ ใช้วิธีแยกสลาย ดึงเพื่อไทยมา แต่ในความเป็นจริงนั้น คนก็ยังต้องสู้กับจารีตอำนาจนิยม เพราะเขาต้องการอำนาจเป็นของประชาชน แต่ฝั่งจารีตอำนาจนิยมต้องการให้อำนาจอยู่กับคน 1% อยู่กับสิ่งที่ล้าหลัง มันไม่เป็นวิทยาศาสตร์ แต่เพราะความที่เป็นจารีตอำนาจนิยมนี่แหละ ก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้บรรลุ ก็ต้องชมเขานะ ตั้งแต่ 2475 มาจนปัจจุบัน ที่ผ่านมา เขาใช้กองทัพเป็นหลัก คุณใช้กองทัพได้ แล้วมันก็เหมือนพม่าไง ในที่สุดคนทั้งประเทศก็ไม่เอา แต่ว่าทหารก็ยังครองอำนาจในพม่าอยู่ นี่เขาจะเอาถึงขนาดนั้นเหรอ ให้ดูพม่าเป็นตัวอย่าง โอเค คุณมีปืน คุณมีอาวุธ คุณมีกฎหมาย มีเครื่องมือ คุณมีหมด แต่ประชาชนไม่เอาคุณ


ผู้ดำเนินรายการ : เรามองระยะสั้น ๆ สมมุติว่า “พรรคก้าวไกล” ถูกยุบ อาจารย์มองว่า พรรคก้าวไกลในชื่อพรรคอะไรก็แล้วแต่ในอนาคต กลุ่มคนที่จะมาเลือกเขาจะมากขึ้นกว่าเดิมอีกมั้ย?


มากขึ้น เพียงแต่ว่าเราเสียดายบุคลากรจำนวนมาก อย่างคุณช่อก็โดนไปตลอดชีวิต อาจารย์ว่ามองไปข้างหน้านะ ลักษณะการนิรโทษฯ พวกนี้จะต้องมีนะ อาจารย์มองว่านอกจากเด็กหรือคนแก่ตอนนี้ที่โดนมาตรา 112 แล้วพวกที่ถูกตัดสินอย่างไม่ชอบธรรม อันนี้ต้องแก้ไขนะ ต้องนิรโทษให้ยาวไปถึงกลุ่มนั้นด้วย คือเขาไม่ได้ถูกคุมขัง แต่เขาถูกตัดสิทธิ์ชีวิตทางการเมืองทั้งหมด อาจารย์ว่ามันใช้ไม่ได้ เพราะว่าการเมืองไม่ถูกใจจารีตอำนาจนิยมใช่มั้ย? คุณก็เลยทนไม่ได้ คุณก็เลยเด็ดหัวทีละคน ๆ อาจารย์เสียดายคน


ผู้ดำเนินรายการ : อาจารย์บอกว่าสังคมอาจารย์กับสังคมของพรรคก้าวไกลไม่ได้มาข้องแวะกัน แต่ในฐานะนักต่อสู้ อาจารย์มอง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน” อย่างไร?


ถ้าเขาโดนเที่ยวนี้ เสียดาย!!! เสียดายคนในพรรคก้าวไกลถ้าหากว่าพรรคจะต้องโดนยุบ แค่ 5 ปี ก็เสียดายแล้ว 10 ปี ก็เสียดายแล้ว แต่อาจารย์กำลังมองว่าพวกเขาจะโดนแบบประมาณปัญหาจริยธรรมแล้วก็ตัดสินตลอดชีวิต ซึ่งตรงนี้หนทางข้างหน้า อาจารย์จะทันหรือเปล่าไม่รู้นะ เราต้องแก้ไข มันก็คล้าย ๆ นิรโทษฯ ต้องเอาพวกเขากลับมาให้ได้ เพราะว่าเป็นการใช้กฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับหลักการในระบอบประชาธิปไตย ถ้าเราเปลี่ยนให้เป็นระบอบประชาธิปไตยจริงได้ เราต้องย้อนกลับไปแก้ปัญหาสิ่งเหล่านี้ คืออาจารย์เสียดายคนที่ถูกตัดสิน ไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกล หรือแม้กระทั่งในพรรคอื่นที่ถูกตัดสิน เช่น คุณปารีณา ไม่ควรมีใครถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ไม่ควรเลย


ขนาดเป็นนักโทษฆ่าคน ก็ยังมี 20 ปี 10 ปี มีอภัยโทษ แล้วนี่เขาทำอะไร? เขาฆ่าใคร? อาจารย์ว่ามันเป็นปัญหาที่ว่าอุดมการณ์ ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ ถูกใช้ในลักษณะที่ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย กลายเป็นว่าอุดมการณ์แบบ เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ ของระบอบประชาธิปไตย มันเหมือนกับเป็นการปะทะกันของ 2 คำขวัญนี้ ยังเป็นการต่อสู้ของ 2 ระบอบ ถามว่าเราเสียใจมั้ย พรรคเพื่อไทย ก็เท่ากับไปอยู่อีกระบอบหนึ่ง ระบอบที่ครั้งที่แล้วเราพูดว่าใครแก้ไข 112 ก็ไม่ได้นะ ตอนนี้จะเปลี่ยนมั้ย?


อาจารย์ก็มองอย่างขำ ๆ อย่างที่อาจารย์บอกว่าอาจารย์ไม่ค่อยจะไปโกรธหรือเกลียดใครเพราะรู้ว่าเขาเป็นอย่างนี้ และสมควรที่ประชาชนต้องเข้าใจว่า จะให้เขาทำแบบที่เราคิดไม่ได้ อยู่ที่ว่าเขาจะเป็นปฏิปักษ์กับประชาชนมากแค่ไหน “เขา” นี่อาจารย์หมายถึงพรรคการเมืองต่าง ๆ ครั้งที่แล้วเขาไปร่วมสมาทานกับคุณประยุทธ์ ทำให้คุณประยุทธ์สามารถสืบทอดอำนาจได้ จนกระทั่งอยู่ได้ 9 ปี อันนั้นเป็นความเสียหายอย่างรุนแรงนะ แต่ครั้งนี้คุณประยุทธ์รู้ตัว ถอยไป คุณประวิตรยังอยู่ แต่ก็อยู่แบบประสาของแก พออยู่แบบนี้ก็กลายเป็นว่าอำนาจของฝั่งจารีตอำนาจนิยมก็ยังดำรงอยู่ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่เสียหายกับสังคมไทยอย่างหนัก


ผู้ดำเนินรายการ : เรื่องคนเสื้อแดง อาจารย์ยังติดค้างทวงคืนความเป็นธรรมให้เขาอยู่มั้ยครับ?


อ๋อแน่นอน สำหรับคนเสื้อแดง จะเรียกว่าติดค้างก็ไม่เชิง เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือ เราใช้เงื่อนไขการเสียชีวิตของคนเสื้อแดงมาทำให้ตระหนักว่า ไม่ควรจะมีสิ่งนี้เกิดขึ้นในอนาคต การทวงความยุติธรรมของคนตาย ที่อาจารย์ใช้คำขวัญ “นิรโทษกรรมให้คนเป็น ทวงความยุติธรรมให้คนตาย” เพื่อไม่ให้มีคนตายอีกในอนาคต เพื่อที่จะให้การปราบปรามประชาชนหมดไป แต่จะให้หมดไปได้ต้องมีการทวงความยุติธรรม ก็คือ คนที่ฆ่าประชาชนมือเปล่าต้องถูกลงโทษ ดังนั้น พรรคเพื่อไทยทำได้มั้ย? แก้กฎหมายให้ทหารที่ทำความผิดอาญาต่อประชาชนมาขึ้นศาลพลเรือน


ผู้ดำเนินรายการ : สิ่งที่อาจารนำเสนอ สมมุติว่ารัฐบาลนี้ทำไม่ได้ อาจารย์ยังจะเป็นมิตรกับ “คุณทักษิณ-เพื่อไทย” อยู่มั้ย?


คืออาจารย์ไม่โอเคนะ แต่เราบอกทางสว่างให้เขาก็คือ มันเป็นเรื่องดีต่อประเทศชาติ คือไม่ต้องฆ่าคนตาย ไม่ใช่เฉพาะคนเสื้อแดง แต่ประชาชนในอนาคตด้วย ใครจะไปรู้นะ ตอนนี้เขาใช้กฎหมาย แต่ถ้าเกิดยังไม่ได้ขึ้นมา เขาก็หันมาใช้การปราบปรามอีก เราต้องทำให้การปราบปรามมีคนถูกลงโทษ ถ้ามีทหารถูกลงโทษจากการที่ยอมทำตามเจ้านาย หรือว่าตัวเจ้านายเองที่เป็นทหารถูกลงโทษ การฆ่าคนกลางถนนฟรี ๆ ในอนาคตจะได้ไม่เกิดขึ้นอีก ฉะนั้นอาจารย์ที่ติดค้างก็คือติดค้างคนตายทุกยุคเลย


ผู้ดำเนินรายการ : อาจารย์คิดว่ารัฐบาลเศรษฐาจะแก้กฎหมายนี้มั้ยครับ?


อาจารย์ว่าน่าจะยาก ความจริงมันง่ายกว่าที่คุณสุทินเสนอนะ นี่คือการปฏิรูปกองทัพ แก้กฎหมาย 2 ฉบับได้เลย แต่อยู่ที่ว่าเขาให้ทำหรือเปล่า? ถ้าเขาบอกไม่อนุญาตให้ทำ เขาบอกเป็นความมั่นคง กองทัพจะทำอะไรอย่ามาตรวจสอบ อย่ามายุ่ง การฆ่าคนเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความมั่นคง ความมั่นคงของใคร? มันคงยากที่จะทำ แต่ว่า...กล้าทำมั้ยล่ะ ความจริงมันเป็นสิ่งที่ดี และเป็นสิ่งที่น่าจะทำได้ ก็คือทหารก็เลิกฆ่าประชาชน ถ้าคุณทำความผิดอาญาต่อประชาชนก็ขึ้นศาลแบบประชาชนทั่วไป นักการเมืองก็เหมือนกัน นี่พูดถึงการแก้กฎหมาย นี่ยกตัวอย่าง


สำหรับคนเสื้อแดงอาจารย์ดีใจที่ว่าเขามีการเติบโต เขาเป็นพลเมืองที่ตื่นรู้ เขาเลือกเองว่าเขาจะเดินไปทางไหน แม้ขณะนี้ไม่มีภาวะของการนำของนปช.แบบเดิม แสดงว่าเขามีความคิดเป็นของตัวเอง ตัวนี้เราไม่มีอะไรติดค้างกัน ส่วนคนที่ยังเอาเรื่องของพรรคการเมืองนำหน้าอุดมการณ์ ก็เป็นเรื่องของเขา เราชี้ทางสวรรค์ไว้ให้แล้วว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยอยากได้โหวตเตอร์ ได้รับความเชื่อมั่นมากขึ้น ต้องใช้ความกล้า เพราะขณะนี้อำนาจต่อรองก็มีพอควร ถ้าไม่มีเพื่อไทยพวกเขาก็เป็นรัฐบาลไม่ได้


ใช้จังหวะนี้กล้าเสียหน่อย ทำสิ่งที่ถูกต้อง แก้กฎหมาย ทวงความยุติธรรม เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ นิรโทษกรรม เลิกที่จะให้มีการประหารชีวิตทางการเมืองสำหรับนักการเมือง เลิกยุบพรรค พูดออกมาให้หมด มันเป็นอะไร มันเป็นของดีทั้งนั้นเลย มันอาจจะบาดหู แต่ขอโทษ มันบาดหูคนจำนวนน้อยนะ คุณจะเอาคนส่วนใหญ่มั้ย อยากเป็นพรรคการเมืองที่มีอนาคตที่จะเติบโต หรือจะดิ่งลง ที่อาจารย์พูดเมื่อกี้มันได้ทั้งนั้นนะ แก้รัฐธรรมนูญ นิรโทษฯ รวม 112 เอาคนผิดมาลงโทษ แล้วก็นิรโทษไม่ใช่แต่เฉพาะกรณีที่ถูกจับกุมคุมขัง แต่แม้กระทั่งคนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองทั้งหลาย ไม่ควรจะมีสิ่งเหล่านี้อีกแล้ว


ฝั่งจารีตอำนาจนิยมเขาต้องยึดคุณเป็นหลัก ใช่! เขามีเครื่องมือบางอย่าง เช่น เขาอาจจะบีบคุณทักษิณเรื่อง 112 ก็ได้สมมุติ องค์กรอิสระหรืออะไรก็ยังอยู่ในมือของฝั่งจารีต แต่อาจารย์ว่ายังไงอำนาจต่อรองของพรรคเพื่อไทยก็มีจำนวนหนึ่ง ถ้าทำก็อาจจะได้นะ เพียงแค่กลับมาแล้วไม่พอ ที่บอกว่าผมกลับมาแล้ว ไม่พอ! ผมอาจจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ มันใช้ได้ในช่วงนั้น ช่วงไทยรักไทย เพราะช่วงนั้นการเมืองมันดีนะ หลังปี 2540 มันเป็นปัญหาเศรษฐกิจ มีรัฐธรรมนูญ 40 มีต้มยำกุ้ง ฉะนั้นเสนอปัญหาทางเศรษฐกิจหลาย ๆ อย่างมันก็ดี แต่มาถึงตอนนี้คนเปลี่ยนไปแล้ว คนต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการเมือง ทางการทหาร และโดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรม


อาจารย์ถึงบอกว่า ⌛⌛⌛ ปัจจัยคุณทักษิณมันมีผลต่อประชาชนน้อยกว่าปัจจัยของการบริหารบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือ ต้องแก้ปัญหาทางการเมือง ไม่ใช่แก้เศรษฐกิจอย่างเดียว ถ้าการเมืองไม่ดี เศรษฐกิจมันดีไม่ได้ คุณจะลดความเหลื่อมล้ำได้ยังไงถ้าหากว่ายังเป็นระบอบแบบเดิม  ⏰⏰⏰


ผู้ดำเนินรายการ : อาจารย์ให้ทางออกเขาแล้ว อาจารย์คิดว่าเขาจะทำได้มั้ย อย่างข้อแรก เรื่องการเอาคนผิดมาลงโทษ ทำไม่ได้ แล้วข้ออื่นที่พูดมาทำได้หรือเปล่า


แค่ตั้งกรรมการเพื่อมาเร่งรัดคดีให้ไต่สวนตามกฎหมายยังไม่ขยับเลย อาจารย์ก็ไม่รู้ เราเคยแนะเขาเรื่องต่าง ๆ หลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้ เขาก็ไม่เชื่อ แต่เราก็ทำหน้าที่แล้ว เพราะว่าเราไม่ได้ถือเขาเป็นศัตรู ขึ้นอยู่กับว่าเขาก้าวข้ามไปก็จริง แต่สิ่งที่เขาทำนั้นจะเป็นปฏิปักษ์กับประชาชนมากขึ้น หรือว่ามีส่วนที่สนับสนุนประชาชนมากขึ้น ถ้าคุณทำเป็นปฏิปักษ์ประชาชนมากขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเหมือนกับศัตรูกับประชาชน ประเทศเปลี่ยนไปแล้ว คนไม่เอาแบบนี้แล้ว


ถ้าหากว่าคุณทำสิ่งที่ดีกับความก้าวหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางการเมือง เศรษฐกิจเขาทำอยู่แล้ว เราก็เข้าใจว่าเขาก็คงทำได้ยาก แต่ก็ขอให้กล้าหน่อย อาจารย์ยังไม่เชื่อว่าลำพังคุณทักษิณมาคนเดียวจะแก้สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยได้ หลายคนบอกว่ายิ่งหนักเข้าไปอีก


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ธิดาถาวรเศรษฐ #คนเสื้อแดง #เพื่อไทย #ทักษิณ #นิรโทษกรรมประชาชน