"อ.ธิดา" เปิดหนังสือฉบับที่ 2 กล่าวถึงเหตุผล 6 ประการ โต้รายงาน คอป. รายละเอียดความว่า
ความเห็นต่อบทสรุปรายงานคอป. (ฉบับที่ 2)
สิ่งที่ได้แจ้งในการวิพากษ์รายงานฉบับที่
1 ในปัญหาการก่อเกิดคอป. จากผู้ปราบปรามประชาชน การแต่งตั้งประธานคอป.
จากนายกรัฐมนตรีเวลานั้นคือนายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ และการแต่งตั้งคณะกรรมการตลอดจนอนุกรรมการ
มีการแต่งตั้งคนจำนวนหนึ่งในตำแหน่งที่สำคัญในการค้นหาความจริงและรากเหง้าของความขัดแย้ง ที่มีทัศนคติด้านลบต่อคู่กรณีความขัดแย้ง คือกลุ่มนปช. คนเสื้อแดง และพ.ต.ท.
ดร.ทักษิณ ชินวัตร นับจากดร.คณิต
ณ นคร, นายสมชาย
หอมลออ, นายเมธา มาสขาว
(เคยทำงานในคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ที่อยู่ฝั่งพันธมิตรและใกล้ชิดนายสุริยะใส กตะศิลา
อดีตผู้ประสานงานพันธมิตร)
นายชัยวัฒน์ ตรีวิทยา
เป็นหัวหน้าการ์ดพันธมิตร แม้แต่
นายสมชาย หอมลออ
เองก็มีการแสดงออกและให้ความคิดเห็นที่สนับสนุนกลุ่มพันธมิตร และนายคณิต
ณ นคร ก็ทราบดี ยังกล่าวว่า
“ใกล้ชิดพันธมิตรแล้วทำไมเราไม่ได้วางกฎเกณฑ์เรื่องคุณสมบัติของคนที่มาทำงาน” แสดงว่ารู้ดีว่าตนเองและคนส่วนหนึ่งในคอป.
ไม่เป็นกลาง
ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นกรรมการคอป.
นี่แสดงว่าการแต่งตั้งคณะบุคคลที่เป็นกรรมการคอป. ละเมิดหลักการพื้นฐานการไม่มีส่วนได้เสีย การมีประวัติสนับสนุนหรือเกลียดชังข้างหนึ่งข้างใด
ประการที่สองในกระบวนการจัดทำชุดความจริงไม่โปร่งใส ไม่มีการรายงานปฏิบัติการเป็นกำหนดเวลา ตรงไปตรงมา
และด้วยวิธีการที่ได้รับการยอมรับ
จึงนำมาซึ่งผลสรุปที่บิดเบี้ยวเป็นไปตามธงที่ตั้งไว้และไม่ได้เริ่มต้นจากความจริง ดังที่ได้กล่าวไว้ในความเห็นฉบับแรก
มีรายละเอียดมากมายที่จะได้กล่าวต่อไปถึงการเลือกนำเสนอความจริงบางส่วนที่ไม่ครบถ้วน
เลือกนำเสนอเฉพาะด้านที่ส่งผลลบต่อนปช.และพ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร
ละเลยการนำเสนอองค์ประกอบแห่งความรุนแรงและการตัดสินใจปราบปรามประชาชนของภาครัฐ และการนำเสนอความรุนแรงภาคประชาชนล้วนเป็นข้อมูลที่เชื่อถือไม่ได้ และเป็นข้อมูลจาก ศอฉ.
จากเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนปราบปรามประชาชน
และจากพรรคประชาธิปัตย์
แม้ต้องรอจนถึง 27 มิถุนายน 2555
ดังจะมีข้อโต้แย้งต่อไปแต่ละกรณีในประเด็นชายชุดดำนั้น พบว่าจำนวนมากมายที่แสดงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าออกด้านหทารสะดวกสบาย ไม่ได้นำเสนอในประเด็นนี้แม้แต่น้อย กลับปรักปรำว่าการตาย 9
รายมาจากชายชุดดำที่ได้รับความร่วมมือกับการ์ดนปช. และอ้างว่าเป็นคนของพลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล หน้า 112 ข้อ 5.
อ้างว่าคนชุดดำปฏิบัติการโจมตีเจ้าหน้าที่ก่อนด้วยอาวุธสงคราม โดยก่อนและขณะโจมตี
คนชุดดำพร้อมอาวุธสงครามปะปนกับผู้ชุมนุมโดยมีผู้ชุมนุมและการ์ดนปช.
ไม่ได้ห้ามปราบหรือขัดขวางการปฏิบัติการด้วยอาวุธของคนชุดดำ
ทั้งยังได้รับการสนับสนุนหรือร่วมมือจากการ์ดนปช. จำนวนหนึ่งด้วย
กรณี
พลทหาร ณรงค์ฤทธิ์ สาละ
อ้างว่าก่อนถูกยิ่งปรากฏภาพชายใส่เสื้อและคลุมหน้าสีดำ 3
คนถืออาวุธปืนปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมบนถนนวิภาวดีรังสิต อ้างว่าพบจักรยานยนต์มีลูกระเบิด M79 62 ลูก อ้างต่อว่าเป็นของตำรวจ
กรณีการเสียชีวิตที่ปะทะที่สะพานมัฆวานเวลาประมาณ
15.00 น. รายงานนี้กลับอ้างว่าไม่ยืนยันว่าเกิดจากฝ่ายใด นี่อคติชัดเจน
เพราะเวลานั้นยังไม่ปรากฏคนชุดดำเลย
กลางวันแสก ๆ ด้วย
.การอ้างชายชุดดำ 4 คนถืออาวุธ AK47 เดินออกจากถนนตะนาวฝั่งอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา
เข้าไปในกลุ่มผู้ชุมนุม
โปรดแจ้งหลักฐานการพบคนเหล่านี้แล้วโปรดบอกด้วยว่ามีใครตาย
บาดเจ็บจากปืนอาก้าคน 4 คนนี้บ้าง
แต่ผลการชันสูตรบาดแผลจากศพล้วนบ่งบอกความน่าจะเป็นกระสุน M16 ทั้งสิ้น และจาก M67 ไม่มีใครตายจาก AK47
ตัวอย่างการรายงานความจริงที่บิดเบี้ยว
และเลือกนำเสนอยังมีอีกมากมาย เช่น กรณีสไนเปอร์ เป็นต้น การพูดแตะผิวเผินว่ามีการยึดครองพื้นที่สูงของเจ้าหน้าที่รัฐโดยละเลยการให้รายละเอียดซึ่งหาได้มากมายในสังคม
online และปฏิบัติการชายชุดดำฝั่งทหาร
พร้อมสรุปว่าการประท้วงของประชาชนมีความรุนแรงของฝั่งประชาชนมากเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการปราบปรามด้วยความรุนแรง เป็นการสรุปอย่างไม่ใช่การทำงานที่น่าเชื่อถือได้เลย
ประการที่สาม
การละเลยความขัดแย้งที่เกิดจากฝั่งประชาชนของระบอบอำมาตย์คือ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ที่ใช้ความรุนแรงทั้งโดยการปราศรัยปลุกระดมประชาชนด้วยความรุนแรง การโกหกใส่ร้ายป้ายสีและการก่อความรุนแรงต่าง ๆ
ถึงขั้นปิดสนามบินนานาชาติ
ยึดสถานีโทรทัศน์ การใช้อาวุธทำร้ายคนเสื้อแดงถึงแก่ชีวิต
คุณณรงค์ศักดิ์ กอบไธสงค์
เหล่านี้ล้วนพูดผิวเผินเบาบาง
ทำให้มีผู้ร้ายเพียงเฉพาะคุณทักษิณ
ชินวัตร,
แกนนำนปช. คนเสื้อแดงเท่านั้น
นี่หรือความเป็นกลาง!
เช่นเดียวกับความรุนแรงบริเวณศาลาแดง
– สีลม – สวนลุมพินี – ถนนพระรามที่ 4 – บ่อนไก่ – ถนนวิทยุ ช่วงวันที่ 13 – 18
พฤษภาคม เน้นการรายงานว่ามีการยิง M79 ทั้งที่การตายของพลเรือน 21 คน ทหารอากาศ 1 คน
เกือบทั้งหมดชัดเจนว่าจากกระสุนความเร็วสูง 5.56 mm. และอ้างว่ามีคนร้ายยิงปืนเข้าใส่ชาวชุมชนบ่อนไก่ อ้างว่ายิงมาจากซอยงามดูพลี หมายความว่าใครยิง? ถ้าคนเสื้อดำเป็นนปช. เขาจะยิงชาวบ่อนไก่ทำไม? ใครยิง ใครคือชายชุดดำตรงนี้ ถ้ามี?
แต่ประชาชนบ่อนไก่เขาบอกกันทั้งนั้นว่าทหารยิง
ในความรุนแรงแถวราชปรารภและสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์
รายงานฉบับนี้อ้างปฏิบัติการชายชุดดำเช่นเคย อ้างว่ามีการยิง M79
จำนวนมาก
และยิงอาร์พีจีใส่แนวกำลังเจ้าหน้าที่ทหารบริเวณราชปรารภหน้าโรงแรมอินทราถึงสถานีรถไฟฟ้าวันที่
14 – 18
เชื่อว่ามีปฏิบัติการชายชุดดำโดยใช้อาวุธสงครามยิงใส่แนวเจ้าหน้าที่โดยคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ทหาร
ความพยายามอ้างผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่ามีการปะทะที่สวนลุมพินี
30 นาที ทั้งที่ทหารที่ปฏิบัติการบอกว่าไม่มี
แต่คอป.ยังเชื่อว่ามีการยิงมาจากสวนลุมพินี
และที่สุดก็ค้านกันเองว่ามีคนชุดดำยิงเข้าไปในสวนลุมพินี ตกลงหมายความว่าชายชุดดำยิงกันเอง?
ประการที่สี่
ความเสียหายจากการก่อรัฐประหารและการที่ตุลาการรับเอาอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ของคณะรัฐประหารนั้นให้น้ำหนักน้อยมาก ทั้งที่นี่คือเรื่องใหญ่ที่สุด
และเป็นปัญหาหลักในการทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมไทย
ประการที่ห้า การเน้นปัญหาตุลาการตัดสินผิดพลาดไม่ลงโทษ
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร โดยละเลยปัญหากระบวนการยุติธรรมอื่น ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยอมรับอำนาจรัฐประหาร
แสดงถึงอคติชัดเจนของประธานคอป.และประธานกรรมการค้นหาความจริงและรากเหง้าความขัดแย้ง ซึ่งยังต่างกับส่วนที่ 3
ที่ยังเขียนได้ดี แต่ส่วนที่ 2 ของประธานอนุกรรมการ นายสมชาย
หอมลออได้บดบังส่วนอื่นไปหมดสิ้น
ประการที่หก
(สุดท้าย) ในความเห็นฉบับนี้
สรุปรายงานฉบับนี้ได้แสดงออกถึงการบิดเบือนความจริงเพื่อนำไปสู่การแตกร้าวยิ่งขึ้นในสังคมไทยอย่างสมบูรณ์แบบ
อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ
ประธานนปช.
(แดงทั้งแผ่นดิน)
21 กันยายน 2555
#10ปีพฤษภา53
#10ปีพฤษภา53ถามหาฆาตกร