วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

จาตุรนต์ ฉายแสง : รำลึก 10 ปี 10 เมษายน 2553 และเหตุการณ์ เมษา-พฤษภา 2553 ตอนที่ 1


รำลึก 10 ปี 10 เมษายน 2553 และเหตุการณ์ เมษา-พฤษภา 2553


(ตอนที่ 1)


คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ขอให้ผมเขียนบทความสักบท บอกว่าจะไปใช้ในงานรำลึก 10 ปี 10 เมษายน 2553 ซึ่งคงจัดในรูปแบบที่เหมาะกับสถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้ ผมอยู่ในเหตุการณ์วันที่ 10 เมษา 2553 แบบจังๆ ยังฝังใจจดจำตลอดมา จึงเชื่อว่าจะแชร์ความทรงจำให้เป็นประโยชน์ต่อการรำลึกเหตุการณ์นี้ได้บ้าง


ก่อนวันที่ 10 เมษา 2553 เล็กน้อย รัฐบาลในขณะนั้นประกาศว่าจะกระชับพื้นที่ที่ราชประสงค์ ส่วนพื้นที่ที่ราชดำเนินนั้นจะให้ใช้เป็นที่ชุมนุมได้


สายๆวันที่ 10 เมษา เริ่มมีข่าวว่ารัฐบาลจะปฏิบัติการกระชับพื้นที่ ไม่ชัดเจนว่าเป็นที่ใด ผมกับเพื่อนนั่งรถไฟฟ้าไปราชประสงค์เพื่อสังเกตการณ์ ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาดูแลบริเวณนั้นแล้วก็ค่อนข้างแน่ใจว่าจะไม่มีการกระชับพื้นที่ที่ราชประสงค์ ผมกับเพื่อนจึงกลับมาตั้งวงหารือติดตามสถานการณ์กันต่อ


บ่ายแก่ ๆ มีข่าวรัฐบาลประกาศจะขอคืนพื้นที่ที่ราชดำเนิน ผู้ที่อยู่ทางราชดำเนินโทรมาบอกว่าสถานการณ์ที่ราชดำเนินตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ แกนนำส่วนใหญ่ติดอยู่ทางราชประสงค์


ประมาณ 5 โมงเย็น ผมกับเพื่อนตัดสินใจไปที่เวทีชุมนุมที่สะพานมัฆวานเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้


เมื่อไปถึงพบผู้ที่อยู่กับเวทีหลายคนมาเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่ามีการยิงตรงจุดโน้นบ้าง จุดนี้บ้าง อยากให้ผมช่วยขึ้นเวทีพูดดึงมวลชนกลับมารวมตัวกันจะได้ไม่เป็นอันตราย ขณะนั้นก็มีเฮลิคอปเตอร์บินวนเวียนไปมา มวลชนกระจัดกระจาย


ก่อนจะขึ้นเวที มีคนชี้ให้ผมดูอาวุธของทหารจำนวนหนึ่งที่กองอยู่ใต้เวที ขอให้ผมประกาศบอกเจ้าหน้าที่ว่าทางผู้ชุมนุมพร้อมจะร่วมมือมอบอาวุธคืนให้ ไม่มีใครประสงค์จะใช้อาวุธเหล่านี้


ผมขึ้นเวทีพร้อมพี่ ๆ น้อง ๆ หลายคนยืนอยู่สองข้าง  ขณะนั้นมีเสียงดังปนกันแยกไม่ออกว่าเสียงปืนหรือเสียงอะไรระเบิดตลอดเวลา เฮลิคอปเตอร์โปรยแก๊สน้ำตาบริเวณรอบๆเวที


ผมพยายามพูดให้มวลชนตั้งสติและมารวมตัวกัน ระหว่างนั้นมีโน้ตส่งมาว่ามีประชาชนถูกยิงเสียชีวิตบ้างแล้ว ผมไม่ได้ประกาศออกไปเพราะเกรงจะทำให้มวลชนแตกตื่น เห็นว่าตอนนั้นใกล้จะเย็นเข้าทุกที  จึงได้พูดผ่านไมค์ถึงคุณอภิสิทธิ์ นายกฯและคุณอนุพงษ์ ผบ.ทบ.ว่าถ้ายังพยายามยึดพื้นที่อยู่อย่างนี้ พอมืดแล้วจะเป็นอันตราย อาจเกิดเหตุแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ ขอให้หยุดการยึดคืนพื้นที่ไว้ก่อน วันรุ่งขึ้นค่อยว่ากันใหม่และผมได้บอกด้วยว่าที่เวทีมีอาวุธอยู่ ขอให้ส่งตัวแทนมารับอาวุธไปด้วย


ผมพูดอยู่อีกสักพักจนรู้สึกว่ามวลชนกลับเข้ามาอยู่ด้านหน้าเวที ไม่กระจัดกระจายแล้ว และทราบว่าคุณณัฐวุฒิ กำลังเดินทางจากราชประสงค์แล้วด้วย เมื่อพูดทุกอย่างที่ควรพูดหมดแล้วก็ส่งไมค์ให้โฆษกเวทีทำหน้าที่ต่อ ก่อนลงจากเวทีโดนแก๊สน้ำตาโปรยลงมาจากฮ. ลงมาแล้วจึงต้องไปหาที่ล้างตาอยู่พักใหญ่


ประมาณ 1 ทุ่ม - 2 ทุ่ม ผมได้รับการติดต่อจากตัวแทนนายกฯ ขอให้ช่วยเจรจาหาทางคลี่คลายสถานการณ์ ผมจึงทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างตัวแทนนายกฯกับคุณณัฐวุฒิในการคลี่คลายสถานการณ์จนตกลงกันได้


แต่ต่อมามีการยิงถล่มปะทะกันอย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ผมยังทำหน้าที่ประสานงานให้ 2 ฝ่ายอยู่บ้าง ทางฝ่ายแกนนำผู้ชุมนุมพร้อมร่วมมือกับรัฐบาล พยายามประกาศขอให้มวลชนให้ความร่วมมือช่วยเหลือในการลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล


ทางรัฐบาลถามว่าจะให้ทางรัฐบาลทำอย่างไรกับการชุมนุม ผมบอกไปว่าก็ขอให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้บาดเจ็บอยู่ห่างจากที่ชุมนุมไว้ก่อน จะได้ไม่เกิดเหตุแทรกซ้อน


เหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน 2553 จบลงอย่างน่าสลดใจ เกิดความสูญเสียใหญ่หลวงทั้งชีวิตและเลือดเนื้อของทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนจำนวนมาก

การชุมนุมของประชาชนที่ราชประสงค์ยังดำเนินต่อไปอีกเดือนกว่า ๆ เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายทั้งที่น่าประทับใจและเศร้าใจ จนไปสิ้นสุดลงที่การเข้ากระชับพื้นที่ของทางฝ่ายเจ้าหน้าที่เป็นผลสำเร็จ และแกนนำมอบตัวสู้คดีที่ยังไม่จบสิ้นจนถึงทุกวันนี้


(จบตอนที่ 1)