วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ธิดา ถาวรเศรษฐ : ออกจดหมายฉบับที่ 1 โต้ คอป.



หลังจากคอป. ซึ่งมีนายคณิต ณ นคร เป็นประธานกรรมการ ได้เผยแพร่

รายงานฉบับสมบูรณ์
คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)
กรกฎาคม 2553 - กรกฎาคม 2555
ฉบับเต็มดูที่ http://www.thaipublica.org/…/Final-Report-TRCT_17-9-12_2.pdf

อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. (ในขณะนั้น) ได้ออกหนังสือฉบับที่ 1 โต้รายงาน คอป. โดยเบื้องต้นพบว่า รายงานของคอป.ฉบับนี้เต็มไปด้วยอคติและการเกลียดชังคนเสื้อแดงและซ่อนระหว่างบรรทัดโจมตีคุณทักษิณ  ชินวัตรว่าเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาทั้งปวง พยายามสร้างความชอบธรรมให้กับอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ,  สุเทพ  เทือกสุบรรณ  ในการใช้การทหารระดับรุนแรงสูงสุดต่อประชาชนและจงใจลดความน่าเชื่อถือในขบวนการต่อสู้ของประชาชนที่ใช้สันติวิธีในการต่อสู้แท้จริง

#10ปีพฤษภา53
#10ปีพฤษภา53ถามหาฆาตกร

สำหรับข้อโต้แย้งประเด็นต่าง ๆ ในจดหมายมีรายละเอียดดังนี้

ความเห็นต่อรายงานคอป. และองค์กรคอป.  (ฉบับที่ 1)


        การก่อตั้งคอป. คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อส่งเสริมให้เกิดความปรองดองแห่งชาติ (Truth for reconciliation commission Thailand) เริ่มจาก 8 มิถุนายน 2553 ในเวลาหลังปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนหมาด ๆ  เลือดยังไม่ทันแห้ง  แล้วเริ่มต้นได้เมื่อ 17 กรกฎาคม 2553 – 16 กรกฎาคม 2555 

        2 ปีแห่งการค้นคว้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามชื่อคณะกรรมการ  กล่าวได้ว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง  มิหนำซ้ำยังเป็นเหตุแห่งความร้าวฉานรอบใหม่ด้วยเมื่อได้ฟังและอ่านรายงานทั้งหมดของคอป.

        ความผิดพลาดแรกที่ทำให้คณะกรรมการนี้ไม่อาจบรรลุเป้าหมมายที่ดีได้มาจากจุดเริ่มต้นของคณะกรรมการ

1.  การก่อตั้งคอป. ในเวลาที่ผู้ปราบปรามประชาชนเป็นรัฐบาล  เป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งเอง  นี่ไม่ชอบด้วยหลักการแห่งการก่อตั้ง TRC ของสากล  เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ปราบปรามประชาชนจะตั้งคณะกรรมการที่จะมาลงโทษตนเอง

คณิต  ณ นคร มีประวัติออกจากพรรคไทยรับไทยในระยะเริ่มต้น  แน่นอนต้องไม่แยกจากไปด้วยความรักแน่นอน  ต่อมายังเป็นประธานคตน. (คณะ กรรมการอิสระตรวจสอบ ศึกษา และวิเคราะห์ การกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้โทษและการนำนโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความ เสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของประชาชน)  ที่ตั้งขึ้นในยุครัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์  จุลานนท์และคตน. ก็ได้ชี้ไว้ในรายงานการศึกษาเบื้องต้นว่า น่าเชื่อว่ารัฐบาลทักษิณมีความผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (Crime against Humanity) ได้เกิดขึ้น  เผยแพร่ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ  ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้อาศัยรายงานนี้ฟ้องร้องต่อ ICC  อ.คณิต  ณ นครได้อาศัยรายงานคอป. แสดงทัศนะโต้แย้งดร.เฉลิม  อยู่บำรุงที่ออกรายการเมื่อ 30 มิถุนายน 2555 และอ้างว่าชี้แจงความจริงในหนังสือคอป. 385/2555 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2555 และชี้แจงไปยังนายกรัฐมนตรีด้วยตามหนังสือคอป.386/2555 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2555 นี่แม้แต่รายงานคอป.ฉบับนี้ยังบันทึกข้อโต้แย้งลงไป  แสดงถึงทัศนคติด้านลบต่ออดีตนายกทักษิณ  ชินวัตร  และแสดงถึงการนำความคิดส่วนตนมาปนในรายงานคอป.ฉบับนี้  นอกจากนั้นยังอ้างความคิดเห็นส่วนตนที่ได้ให้สัมภาษณ์มาหลายครั้งเกี่ยวกับปัญหาที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญละเมิดหลักนิติธรรม  ในกรณีคดีที่พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ  ถูกกล่าวหาทำผิดมาตรา 295 ในรัฐธรรมนูญ 2540 คดีที่เรียกกันว่า “ซุกหุ้น” ว่าเป็นสาเหตุแห่งปัญหาประเทศที่ไม่ลงโทษพ.ต.ท. ดร.ทักษิณว่าเป็นผู้ผิด  และได้เคยระบุไว้ว่าดร.ทักษิณต้องเสียสละไม่กลับประเทศ  เพียงเท่านี้ก็แสดงถึงทัศนคติด้านลบและเลือกข้างชัดเจน  ไม่สมควรที่จะอยู่ในฐานะประธานคอป.  การพยายามเดินสายเจรจากับแกนนำคนเสื้อแดงและคนในพรรคเพื่อไทย  ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากหลายฝ่ายเพื่อให้การทำงานได้ราบรื่น

เมื่อพูดถึงประธานคอป. ก็จำเป็นต้องพูดถึงประธานอนุกรรมการตรวจสอบค้นหาความจริง  สมชาย  หอมลออ  เป็นที่ชัดเจนว่าได้แสดงความเห็นอยู่ในกลุ่มของผู้ไม่คัดค้านรัฐประหาร  อาจมีเครดิตดีในฐานะทำงาน NGO ระหว่างประเทศซึ่งก็มีความคล้ายคลึงกับ NGO ทั่วไป  และปัญญาชนทั่วไปที่มีความเกลียดชังคุณทักษิณในฐานะ “ทุนสามานย์” และละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยอ้างคดี “ฆ่าตัดตอน” 2,500 คน  อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเกิดขึ้นของคอป. ในยุคผู้ปราบปรามประชาชนมีอำนาจและเป็นผู้แต่งตั้ง  ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ผิดพลาด  เพราะโดยทั่วไปคณะคอป.หรือ TRC ในโลกนี้ล้วนเกิดขึ้นในระยะเวลาที่ฝ่ายประชาชนผู้ถูกกระทำได้อำนาจรัฐแท้จริง  จึงจะเกิดคอป.หรือ TRC ที่สามารถค้นคว้าความจริงเพื่อประชาชนได้  หาไม่ก็จะเป็นคอป. ที่บิดเบือนความจริง  ทำให้ความจริงพร่ามัวหรือสร้างความชอบธรรมในการปราบปรามประชาชน

2. ไม่ได้เริ่มต้นจากความเป็นจริงทางภาวะวิสัย  ไม่ได้เริ่มจากการตาย  การบาดเจ็บของประชาชน  แต่เริ่มด้วยความเชื่อว่าการชุมนุมของประชาชนไม่ชอบธรรม  มีความรุนแรง  มีการใช้อาวุธ  มีชายชุดดำ  ข้อมูลที่นำมาอ้างถึงจึงเป็นไปเพื่อสนับสนุนความเชื่อนี้เพราะความจริงทางภาวะวิสัยมีหนึ่งเดียว  แต่คอป.ทำความเชื่อของตนและศอฉ.ให้กลายเป็นความจริง

3. การกำหนดยุทธศาสตร์ 4 มิติ
    3.1 Truth seeking การตรวจสอบค้นหาความจริงในประเด็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นในห้วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม 2553  รวมถึงประเด็นจากเหตุปัญหาความขัดแย้งและเหตุการณ์ความรุนแรงในประเทศในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
           3.2 การเยียวยาฟื้นฟู
          3.3 การศึกษาวิสัยรากหญ้าปัญหาความขัดแย้ง
          3.4 การสร้างความปรองดอง
          
          เราเห็นว่าสอบไม่ผ่าน  ไม่มีหลักการในกระบวนการค้นหาความจริงเพื่อการปรองดอง  น่าตำหนิที่สุด  โดยเน้นความเชื่อว่าผู้ชุมนุมมีการใช้อาวุธและมีชายชุดดำ  ใช้ข้อมูลที่ไม่อาจอ้างที่มาและอ้างผู้สังเกตุการณ์  ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ  และเจ้าหน้าที่ทหารเป็นด้านหลัก  ไม่มีหลักการ (Methodology) แบ่งประเภทที่มาของข้อมูล  ให้ข้อมูลรอบด้าน  ไม่มีการวางลำดับชั้นความน่าเชื่อถือของข้อมูล  เช่น ฝ่ายทหารและฝ่ายผู้ชุมนุมในแต่ละเหตุการณ์  จำนวนมากใช้ข้อมูลศอฉ. และเจ้าหน้าที่  ซึ่งจะขัดแย้งกับการสืบสวนสอบสวน  ประจักษ์พยานวัตถุพยานที่แสดงให้เห็นชัดในคำวินิจฉัยศาลกรณีนายพัน  คำกอง  ซึ่งชัดเจนว่ามีการยิงจากทหารโดยไม่มีชายชุดดำ  ไม่มีการต่อสู้ของผู้ชุมนุม  (ไม่มีผู้ชุมนุมด้วยซ้ำในจุดนั้น)  ในวันที่ 14 บริเวณราชปรารภ

4. อคติแห่งเนื้อหา  ในรายงานเสนอด้านลบของผู้ชุมนุมทั้งสิ้น  ไม่มีการนำเสนอด้านบวก ด้านการตั้งองค์กรนปช. แนวทางนโยบายเป็นสันติวิธี  และการขอโทษเมื่อมีความผิดพลาด  การคืนอาวุธให้เจ้าหน้าที่  การตรวจสอบจับกุมผู้ติดอาวุธเข้าในที่ชุมนุม  การปฏิบัติผ่อนปรนให้กับข้อเรียกร้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับพื้นที่การชุมนุมและกาiจราจร  ยอมถอยจากหน้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  หลายอย่างถูกบิดเบือน  เอาคำปราศรัยในเวลาต่าง ๆ กันมานำเสนอในความรุนแรง  แต่ที่พูด 99% เรื่องดี ๆ ไม่นำเสนอ 

เบื้องต้นเพียงย่อ ๆ แค่นี้ก็จะเห็นว่ารายงานของคอป.ฉบับนี้เต็มไปด้วยอคติและการเกลียดชังคนเสื้อแดงและซ่อนระหว่างบรรทัดโจมตีคุณทักษิณ  ชินวัตรว่าเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาทั้งปวง  แม้จะมีคำแนะนำดี ๆ บ้างก็ตาม  ก็ถูกลบไปด้วยรายงานแห่งอคติที่พยายามสร้างความชอบธรรมให้กับอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ,  สุเทพ  เทือกสุบรรณ  ในการใช้การทหารระดับรุนแรงสูงสุดต่อประชาชนและจงใจลดความน่าเชื่อถือในขบวนการต่อสู้ของประชาชนที่ใช้สันติวิธีในการต่อสู้แท้จริง  คดี 98 ศพและผู้บาดเจ็บ 2,000 คนจะฟ้องร้องคอป.ต่อสาธารณชนได้ในไม่ช้านี้

อ.ธิดา  ถาวรเศรษฐ
ประธานนปช.(แดงทั้งแผ่นดิน)
19  กันยายน  2555