วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ก่อแก้ว พิกุลทอง : วาระครบรอบ 10 ปี เมษา-พฤษภา 53




ยูดีดีนิวส์ : 19 พ.ค. 63 ที่ห้องประชุมศูนย์ข่าวยูดีดีนิวส์ ภายหลังที่ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้กล่าวรำลึก 10ปี เหตุการณ์เมษา-พฤษภา 53 แล้ว นายก่อแก้ว พิกุลทอง ซึ่งวันนี้ได้เดินทางมาร่วมงานได้กล่าวว่า

วันนี้ดีใจที่ได้มาเจอพวกพี่ ๆ ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีและร่วมต่อสู้กันมากว่าสิบปีแล้ว วันนี้เรามารำลึกครบรอบ 10 ปี ของเหตุการณ์ที่โหดร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมืองไทย เราก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในเมืองหลวง ในประเทศที่เราคิดว่าเป็นศิวิไลซ์แล้ว แต่ว่าเราก็คิดผิด

สิบปีที่ผ่านมา โลกเปลี่ยนไปเยอะมากแล้ว ผมเองก็เปลี่ยน เห็นมั้ยครับ (ชี้ไปที่ผมตัวเอง) เมื่อก่อนดำตอนนี้ขาวหมดแล้ว

นปช.เองก็เปลี่ยนนะ นปช.เองตอนนี้ก็มี 4 ซีกแล้ว ซึกหนึ่งซีก “ตู่” ซีกหนึงซึก “เต้น” ซีกหนึ่งก็ไปสนับสนุนอนาคตใหม่บ้าง อีกซีกหนึ่งโน่น ไปโน่นเลย ไป ป.ประยุทธ์เลยโน่น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเหมือนกันว่าคนที่สามารถเปลี่ยนจากซ้ายไปขวา จากขวาไปซ้าย กลับหลังหันได้ขนาดนั้นก็มีเหมือนกัน

ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ ยิ่งเทคโนโลยีไม่ต้องพูดถึงเปลี่ยนไปมาก สมัยปี 53 บางคนยังใช้โทรศัพท์ไม่เป็นเลย วันนี้เราใช้ไลน์ ใช้เฟสบุ๊คกันเป็นหมดแล้ว ส่วนใหญ่ไว้คอยติดตามข่าวสารของบ้านของเมือง ไว้คุยเรื่องประชาธิปไตยกัน ส่วนบางคนบางกลุ่มก็มีบ้างเอาไว้ด่ากันก็เข้าใจกันได้

แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนเลยในช่วงสิบปีที่ผ่านมาก็คือ “ความอยุติธรรมของสังคม” ที่เรายังคงเฝ้ามองและยังเศร้าสลดกับมันอยู่ ถึงวันนี้คนตายเกือบร้อยศพ ยังไม่สามารถเอาคนสั่งการขึ้นสู่ศาลยุติธรรมได้

อีกสิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนก็คือวาทกรรมทำลาย “เสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง” “เสื้อแดงล้มเจ้า” “เสื้อแดงโง่ ถูกจ้างมา” ผ่านมาสิบปีแล้ว ข้อมูลอะไรเยอะแยะพิสูจน์แล้วว่ามันไม่จริง แต่พวกเขาก็ยังพยายามใช้วาทกรรมทำลายเหมือนเดิม พอหาเหตุผลเถียงเสื้อแดงไม่ได้ บอก “มึงล้มเจ้า” พอหาเหตุผลมาต่อสู้กับประชาธิปไตยไม่ได้ ก็บอกว่า “ทักษิณจ้างมา” มันก็เป็นอย่างนี้ คือคนบางกลุ่มที่คิดว่าตัวเองมีการศึกษา ตัวเองมีฐานะ ตัวเองร่ำรวย แต่มองเหยียดหยามคนอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและเพื่อความเท่าเทียม พอใช้เหตุใช้ผลในการอธิบายเหตุผลไม่ได้ก็ใช้วาทกรรมทำลาย

อีกสิ่งหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยนก็คือเรื่องที่นายหัววีระพูดว่า “ประชาธิปไตยของไทย วันนี้ก็ยังวนเวียนในอ่างอยู่” เราต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาสิบกว่าปีแล้วนะ วันนี้ก็ยังไม่ได้ ไม่รู้เราอยู่ในระบอบอะไร สื่อมวลชนบางสื่อก็บอกว่าอยู่ในระบอบ 3ป. (ป.ป้อม, ป.ป็อก. ป.ประยุทธ์) ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ นะครับ เพราะว่ามันไม่ใช่เผด็จการเต็มตัว แต่เป็นเผด็จการซ่อนรูปแบบในการสืบทอดอำนาจแล้วยึดครองอำนาจไว้ในมือจนกว่าตัวเองจะพึงพอใจ วันนี้เราอยู่ในรูปนั้น

แต่สิบปีที่ผ่านมา เขาใช้ทุกกระบวนการ ทุกวิธีการในการทำลายฝ่ายประชาธิปไตย กระสุนปืนก็แล้ว ฆ่าคนตายเป็นจำนวนมากก็แล้ว ใช้วาทกรรมทำลายอย่างไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรดี เหยียดหยามอย่างไม่สิ้นสุด ทำทุกอย่างแล้ว ใช้กระบวนการทางกฎหมายที่อยุติธรรมก็ใช้มามากจนสังคมไทยรับไม่ได้ มีคนจำนวนมากที่ไม่เคยชอบเสื้อแดงเพราะเชื่อในวาทกรรมต่าง ๆ แต่วันนี้จำนวนมากกลับที่จะมายืนอยู่ข้างพวกเรา เพราะเขาเห็นแล้วว่าเรายืนบนสิ่งที่ถูกต้อง เราต่อสู้เพื่อสิ่งที่เป็นสากลของโลก

วันนี้หลาย ๆ ท่านที่เสียสละหยาดเหงื่อ เงินทอง เวลามาจำนวนมาก บางคนเดินแทบจะไม่ไหวแล้ว แต่จิตใจก็ยังสู้อย่างเต็มเปี่ยม เรื่องนี้ผมเองในฐานะที่เป็นน้องก็ขอขอบคุณพี่ ๆ ทุกคน วันนี้ยอมรับว่าเราเองสู้เราก็เหนื่อย แต่ท่านก็สู้ วันนี้สู้จนจะไม่มีกินอยู่แล้ว แต่ท่านก็สู้ เพราะผมเชื่อว่าท่านสู้เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของท่านเองและของลูกของหลานในอนาคตใช่ไหมครับ ยิ่งเราอยู่นานวันเวลาได้พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่เราเรียกร้องเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และสิ่งที่เราเรียกร้องจะทำให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้น

ยิ่งเราอยู่ในระบอบ 3ป. 6 ปีกว่าเราเห็นเลยว่าระบอบอย่างนี้เขาไม่ได้ทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศ เขาทำเพื่อตัวเขาเองและพวกพ้องเป็นหลัก เราจึงเห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่จะลง ๆ ความเหลื่อมล้ำของสังคมมากขึ้น จนวันนี้เราได้ที่หนึ่งของสิ่งที่เราไม่ควรได้ คือช่องว่างระหว่างคนรวยคนจนมากที่สุดเป็นลำดับหนึ่งของโลก วันนี้เราแทบจะไม่มีเงินในกระเป๋า แต่พวกท่านก็ยังสู้ ซึ่งผมเองต้องคารวะและขอบคุณทุกท่านไว้ด้วยใจจริง

วันนี้เรายังไม่ได้ความยุติธรรมกลับคืนมา แต่สิ่งที่น่าดีใจก็คือว่าในช่วงสิบปีที่ผ่านมานั้นเวลาได้พิสูจน์แล้วว่า

“เสื้อแดงฆ่าไม่มีวันตาย”

“ความถูกต้องไม่มีวันตาย”

“ความเป็นสากลไม่มีวันตาย”

ประชาธิปไตยไทยเราอาจจะมาช้าหน่อย แต่สักวันหนึ่งมันก็ต้องมา วันนี้ผมภาวนาตัวเองสองเรื่องว่า 
1) หายใจเข้าไว้และผมจะเห็นวันชนะ 
2) ภาวนาว่าอย่าติดคุก เพราะเข้าไปหลายรอบแล้ว

แต่สิ่งที่ผมดีใจวันนี้นอกจากเรื่องที่ว่า “เสื้อแดงฆ่าไม่มีวันตาย” แล้ว เราจะเห็นว่ามีคนรุ่นใหม่จำนวนมากออกมาต่อสู้ยืนเคียงข้างเรา ไม่ว่าเรื่องทวงหาความจริง ทวงหาความยุติธรรม และก็เรียกร้องประชาธิปไตย หลายคนนำหน้าพวกเราไปไกลซะด้วย ผมเองต้องขอบคุณน้อง ๆ บางคนวันนี้ก็นั่งอยู่ที่นี่ไม่ว่าจ่านิวเอง เนติวิทย์ หรือ ธนาธร หรือหลายคนอีกจำนวนมากซึ่งยอมรับว่าน้อง ๆ เหล่านี้มีจิตใจที่สูงส่งและเป็นคนหัวก้าวหน้าที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่ฝั่งฝันตามสากลโลก ก็ภาวนาอย่างเดียวว่าในการต่อสู้นั้น ขอให้น้องแคล้วคลาดปลอดภัย เพราะว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นเขามีวิชามารเยอะ และเขากล้าใช้ทุกอย่างเพื่อทำลายกระบวนการที่ถูกต้องนี้

วันนี้เรายังไม่ได้ความยุติธรรมกลับคืนมา แต่ขอเรียนว่าตราบใดที่เราอยู่ใต้กระบวนการของเผด็จการ หรือระบอบการปกครองแบบ 3ป. เผด็จการซ่อนรูปนั้นก็ยากที่เราจะไปทวงคืนความยุติธรรมให้กลับคืนมา ผมได้แต่วาดหวังว่าอีกไม่นานนี้เราจะขับไล่เผด็จการซ่อนรูปออกไปจากสังคมไทย เอารัฐบาลประชาธิปไตยมาสู่สังคมไทย แล้วตอนนั้นเราจะมีช่องทางในการขับเคลื่อนเรียกร้องเพื่อนำความยุติธรรมกลับคืนสังคมไทยให้เป็นจริงได้ครับ ขอขอบคุณครับ นายก่อแก้วกล่าว.