วันจันทร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2566

ก้าวไกล’ ขึ้นรถแห่ปราศรัยหลังจับเบอร์ผู้สมัคร ส.ส. มุ่งปลายทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ‘พิธา’ ชูกาก้าวไกลทั้ง 2 ใบ เลือกคนใหม่ไปเปลี่ยนประเทศ แก้ปัญหาที่ต้นตอ ร่วมทุกข์-สุขประชาชน

 


ก้าวไกล’ ขึ้นรถแห่ปราศรัยหลังจับเบอร์ผู้สมัคร ส.ส. มุ่งปลายทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ‘พิธา’ ชูกาก้าวไกลทั้ง 2 ใบ เลือกคนใหม่ไปเปลี่ยนประเทศ แก้ปัญหาที่ต้นตอ ร่วมทุกข์-สุขประชาชน

 

วันที่ 3 เมษายน 2566 หลังการจับสลากเบอร์ของผู้สมัคร ส.ส. รายเขตจากทุกพรรคการเมือง สำหรับเขตเลือกตั้งของกรุงเทพมหานคร ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์การกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกลจากทั้ง 33 เขตเลือกตั้ง ได้ร่วมกันขึ้นรถขบวนประชาสัมพันธ์เบอร์ผู้สมัครไปตามถนนของกรุงเทพมหานคร โดยวันนี้เริ่มต้นจากอาคารกีฬาเวสน์ 2 มุ่งไปตามเส้นทางสู่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อารีย์ อาคารรัฐสภา สานเสน พระบรมมหาราชวัง ก่อนจบลงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

 

โดยก่อนการเริ่มขบวน พิธาได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ระบุว่าในตอนนี้ผู้สมัครเขต ส.ส.พรรคก้าวไกล ต่างได้เบอร์ของตัวเองกันครบถ้วนแล้ว ทีมก้าวไกลทุกคนต่างพร้อมในการลงไปแนะนำตัวกับประชาชน ซึ่งในรอบนี้การเลือกตั้งจะมีความซับซ้อนขึ้นมาตรงที่บัตรเลือกตั้งใบหนึ่งเป็นพรรค อีกหนึ่งใบเป็นเขต ซึ่งบัตรเลือกตั้งจะไม่มีชื่อผู้สมัคร ดังนั้น ตนจึงขอประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าตรงนี้ ว่าสำหรับผู้สมัครขอให้ทุกคนได้จำเบอร์ ส่วนพรรคนั้น ในบัตรเลือกตั้งจะมีโลโก้และชื่อพรรคอยู่แล้ว

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการออกแบบบัตรเลือกตั้งเช่นนี้จะเป็นปัญหาสำหรับการหาเสียงของพรรคก้าวไกลหรือไม่ พิธาระบุว่าปัญหามีไว้ให้แก้ไม่ใช่ให้กลุ้ม หลังจากนี้พรรคก้าวไกลจะเน้นหาเสียงให้เรียบง่าย สะดวกต่อประชาชนในการจดจำ ไม่สับสน และที่สำคัญคือไม่น่าเบื่อแน่นอน เพราะพรรคก้าวไกลจะพยายามทำให้การเมืองเป็นเรื่องสนุกและมีความหวังสำหรับประชาชนทุกคน ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสในการสร้างการเปลี่ยนแปลง และยิ่งประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมาก ก็จะยิ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงเจตนารมณ์ของประชาชนได้มากเท่านั้น

 

สำหรับยุทธศาสตร์ในการหาเสียง จะเน้นไปที่การเลือกพูดถึงนโยบายหลักๆ ที่ตรงใจประชาชนให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ ให้ประชาชนจำได้ว่าผู้สมัคร ส.ส. เขตแต่ละคนของพรรคได้เบอร์อะไร นโยบาย 100 วันแรกจะทำอะไรบ้าง ก่อนลงลึกไปในรายละเอียดต่างๆ ต่อไป

 

พิธายังระบุด้วยว่าทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้พรรคก้าวไกลได้เปรียบกว่าครั้งอนาคตใหม่ คือการที่ผู้สมัครส่วนใหญ่ต่างมีโอกาสทำงานในพื้นที่มาแล้วสองปีกว่า ซึ่งตลอด 700 กว่าวัน ทุกคนได้คลุกคลีกับประชาชนทั้งในยามทุกข์และสุขที่สุด ทั้งช่วงโควิด วิกฤติของแพงค่าแรงถูก และปัญหาต่างๆ ทุกคนมีความเคลื่อนไหวช่วยเหลือประชาชนแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ และยังมีข้อเสนอและแนวทางการแก้ปัญหาที่แตกต่าง ตรงจุด  และแก้ที่ต้นตอ ตนจึงมั่นใจอย่างยิ่งว่าผู้สมัครของพรรคก้าวไกล จะไม่ประสบปัญหาในการเป็นที่จดจำ ชื่นชอบ และได้รับความเชื่อใจจากประชาชนในการเลือกตั้งอย่างแน่นอน

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ก้าวไกล #เลือกตั้ง66