เลขาฯ
กกต. ชี้ หากพบพรรคการเมืองแอบอ้างชื่อประชาชนสวมสิทธิ์สมัครสมาชิก
นายทะเบียนเตรียมติดคุก มองทำประชามติทางไปรษณีย์ เสี่ยงทำการเลือกตั้งเป็นโมฆะ
(มีลิงค์สำหรับประชาชนเช็คสถานะสมาชิกพรรคการเมือง)
วันที่ 3
พฤศจิกายน 2568 นายแสวง บุญมี
เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง
กล่าวถึงประเด็นในสังคมที่มีประชาชนค้นหาชื่อตนเองในระบบพรรคการเมืองแล้วพบว่าเป็นสมาชิกพรรค
โดยที่เจ้าตัวไม่ได้สมัคร ว่า เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพที่ประชาชนอาจจะได้รับผลกระทบ
ซึ่งการสมัครสมาชิกพรรค
เจ้าตัวต้องสมัครใจ เมื่อสมัครเสร็จพรรคก็ต้องตรวจสอบ แม้เจ้าตัวสมัครใจ
ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
ซึ่งคุณสมบัติจะใกล้เคียงกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมาก
นายทะเบียนสมาชิกพรรคการเมืองต้องตรวจสอบและเสนอให้พรรคอนุมัติ
ก่อนจะลงในฐานข้อมูลระบบสมาชิกพรรคการเมือง
ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบได้สถานะการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ที่ https://party.ect.go.th/services/member-check
เมื่อมีข่าวเช่นนี้
ทางสำนักงานจะตรวจสอบไปยังพรรคการเมือง
ต้องสอบถามว่าเวลารับสมัครสมาชิกได้ดำเนินการตามกฎหมายหรือข้อบังคับหรือไม่
หากตรวจสอบแล้วว่ามีความผิดจริง กฎหมายก็กำหนดโทษ ในฐานะหัวหน้าพรรคจะโดนโทษปรับ
แต่ในทะเบียนสมาชิกที่เป็นคนตรวจสอบคนแรก จะมีโทษอาญาด้วย หากจำไม่ผิด
จำคุกไม่เกิน 3
ปี
เมื่อถามว่ากรณีนี้อาจเกิดขึ้นจากการที่พรรคจัดกิจกรรมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน
แล้วแอบอ้างเอาข้อมูลที่ประชาชนลงทะเบียนไปสมัครสมาชิกใช่หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า
ต้องรอการตรวจสอบก่อนต้องให้ความเป็นธรรมทั้งพรรคและประชาชน
ซึ่งเรื่องนี้เราไม่ทราบว่าประชาชนเป็นสมาชิกพรรคการเมือง
เพราะเป็นเรื่องของพรรคการเมืองและประชาชน
แต่หากรู้สึกว่าได้รับผลกระทบถูกแอบอ้างว่าเป็นสมาชิกพรรค
ก็สามารถตรวจสอบในฐานข้อมูลได้ แล้วมาร้องกับ กกต. เราก็จะตรวจสอบไปตามขั้นตอน
เมื่อถามว่าสามารถไปแจ้งความได้หรือไม่
นายแสวง กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ สามารถไปแจ้งความได้
ทำประชามติทางไปรษณีย์
เสี่ยงทำเลือกตั้งเป็นโมฆะ
นายแสวง
บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงข้อเสนอของนายพริษฐ์ วัชรสิทธุ
สส.พรรคประชาชน ในการทำประชามติล่วงหน้าผ่านไปรษณีย์ว่า
ขอบคุณในการให้ความเห็นเรื่องนี้
ซึ่งการจัดการเลือกตั้งกับการทำประชามติจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์
ภายใต้การดำเนินการที่เสรี เป็นธรรม โปร่งใส และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
จากนั้นพิจารณาดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายกำหนด
ส่วนการบริหารจัดการก็จะดำเนินการให้เรียบร้อยจนการเลือกตั้งเสร็จ
ที่ต้องดูผลการเลือกตั้งให้เรียบร้อย
หมายความว่าสิ่งที่จะทำให้การเลือกตั้งเรียบร้อย คือ กกต. ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
โดยเฉพาะถ้าการเลือกตั้งและการจัดทำประชามติ 2 เรื่องต้องทำพร้อมกัน
ซึ่งอาจจะมีความซับซ้อน
กกต.ต้องหาวิธีอำนวยความสะดวกให้ประชาชน
ทั้งหมดต้องพิจารณาว่าจะทำได้แค่ไหน
ภายใต้ความรับผิดชอบโดยไม่ได้กลัวสิ่งที่ต้องเผชิญ
แต่สิ่งที่คำนึงคือต้องทำให้การเลือกตั้งเรียบร้อย รวมถึงผลการเลือกตั้งด้วย
ทั้งนี้
บางเรื่องสามารถทำเกินกฎหมายได้ หากเป็นงานธุรการในการอำนวยความสะดวก แต่ในบางเรื่องที่กฎหมายกำหนดไว้
เสี่ยงที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ หากทำเกินกว่ากฎหมายกำหนด
"เราจะไม่เสี่ยงแม้แต่นิดเดียว
ในการที่จะทำให้กระบวนการเลือกตั้งและผลการเลือกตั้งเกิดความเสี่ยงเช่นนั้น
แต่เมื่อมีข้อเสนอมาอย่างนี้จะมาดูกฎหมายอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะทำได้แค่ไหน
เราคำนึงถึงเรื่องนี้อยู่เสมอ" นายแสวงกล่าว
