แม่น้ำจากเหมืองแร่ประเทศเพื่อนบ้านเป็นพิษทุกสาย
จากน้ำกก-สาย ตอนนี้ลามน้ำสาละวิน “ภัทรพงษ์” อัดรัฐบาลอืดอาดไม่แก้ที่ต้นตอ MOU แรร์เอิร์ธ
เร่งจัดการลับ ๆ 4 วันจบ แต่ปัญหานี้กลับนิ่งเฉย
วันที่
5 พฤศจิกายน 2568 นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่
พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์เฟซบุ๊กถึง
แม่น้ำจากเหมืองแร่ประเทศเพื่อนบ้านเป็นพิษทุกสาย
จากแค่น้ำกก-สาย ตอนนี้มาน้ำสาละวินอีก ปัญหาที่รัฐบาลอืดอาดไม่แก้ที่ต้นตอ
แปลกใจกับ MOU
แร่แรร์เอิร์ธ เร่งรีบจัดการลับๆ 4 วันจบ
ประโยชน์ของชาติอื่นจัดการรวดเร็ว แต่ปัญหาของชาติไทยกลับนิ่งเฉย ไม่ทำอะไรเลย
อีกปัญหาใหญ่ทางภาคเหนือ
ที่ไม่ถูกพูดถึงจากรัฐบาลเลย คือ ปัญหาแม่น้ำเป็นพิษจากการทำเหมืองแร่ในเมียนมา
แล้วส่งของเสียผ่านแม่น้ำ
ไหลเข้าสู่ประเทศไทยทางจังหวัดเชียงราย-เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ที่รัฐบาลทั้งชุดนี้
รวมถึงชุดที่แล้วเพิกเฉย ไม่แก้ปัญหาที่ต้นตอ และยังรับมือกับปัญหาภายในประเทศกันแบบรวก
ๆ และตอนนี้ไม่ใช่เพียงน้ำกก น้ำสาย แต่ยังพบน้ำสาละวิน
ที่ไหลเข้าทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นพิษเพิ่มขึ้นอีก
และเมื่อเปรียบเทียบการแก้ปัญหานี้กับการเซ็น
MOU แร่แรร์เอิร์ธกับสหรัฐอเมริกาเมื่อสัปดาห์ก่อน ปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกัน
แต่ผลลัพธ์การทำงานต่างกันชัดเจน
เพราะรัฐบาลทำงานกันไวมากกับการเอื้อประโยชน์ให้สหรัฐอเมริกา เร่งรัดและรวดเร็วมาก
4 วันจบ แต่กับปัญหาของประชาชนคนไทย
ในเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันโดยตรง กับอืดอาดชักช้า ไม่มีอะไรขยับเลย
ผมขอไล่เรียง
timeline ของรัฐบาลกับการดำเนินการ MOU ฉบับนี้ให้ฟังครับ
เริ่มที่
วันจันทร์ที่
20 ต.ค. กระทรวงต่างประเทศของไทย ได้รับร่าง MOU ฉบับนี้จากสหรัฐฯ
วันพุธที่
22 ต.ค. กระทรวงต่างประเทศเรียกประชุมร่าง MOU โดยมี
กรมอุตฯเหมืองแร่ กรมเจรจาระหว่างประเทศ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ BOI
มาเข้าร่วมประชุมหารือแก้ไขร่างขั้นต้น
โดยมีการแก้ไขจากดราฟแรกที่สหรัฐส่งมาเพียง 4 จุด
วันพฤหัสบดี
23 ต.ค. เช้า กรมอุตฯเหมืองแร่ และกรมทรัพฯธรณี
เข้าชี้แจงรองนายกที่ดูแลกระทรวงอุตสาหกรรม (สุชาติ ชมกลิ่น)
วันพฤหัสบดี
23 ต.ค. ต่อ คณะรัฐมนตรีมีการประชุมลับเพื่อพูดคุยเนื้อหาร่าง MOU โดยไม่มีข้อเสนอจากรัฐมนตรีแม้แต่คนเดียวในการแก้ไขข้อความใด ๆ เพื่อเติม
หลังจากนั้นกระทรวงต่างประเทศของไทยจึงส่งร่างที่ไทยปรับแก้ให้สหรัฐอเมริกาตรวจสอบ
ซึ่งสหรัฐก็เห็นชอบกับการเสนอแก้ไขของรัฐบาลไทยทั้งหมด (แน่นอนสิครับ
ไม่มีการแก้เนื้อหาในส่วนที่สหรัฐได้เปรียบแบบเกินเหตุเลย)
เราจะเห็นชัดเจนครับ
กระบวนการการทำ MOU
แร่แรร์เอิร์ธครั้งนี้จบไวมาก เพียง 4 วันเท่านั้น
และชัดเจนมาก ว่าไม่มีรัฐมนตรีคนไหน มั่นใจใน MOU ฉบับนี้เลย
เพราะทันทีที่เป็นประเด็นสังคม
แทนที่รัฐมนตรีทั้งหลายที่เกี่ยวข้องจะอธิบายถึงประโยชน์และไขข้อกังวลของประชาชน
รัฐมนตรีแทบทุกคนกลับเรียงหน้าออกมาพูดว่า MOU ฉบับนี้ยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้
และที่หนักขึ้นไปอีก คือ รองนายกฯที่กำกับกระทรวงอุตสาหกรรม
ที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงทรัพฯและสิ่งแวดล้อม กลับให้สัมภาษณ์ว่า
รัฐบาลไม่ได้อยากเซ็น MOU ฉบับนี้ คำถามตัวโต ๆ ครับ
แล้วเซ็นทำไม ทำไมไม่มีการแก้ไขถ้อยคำที่ทำให้ไทยเสียประโยชน์ใน MOU จากรัฐมนตรีเลย ทำไมต้องประชุมลับ และทำไมต้องเร่งรัดจัดการในเวลาแค่ 4
วันกับ MOU ฉบับนี้
หากจะบอกว่าไทยเก่งการต่างประเทศ
ในเรื่องนี้ ก็ไม่ใช่ เพราะกับรัฐบาลชุดนี้ กว่าหนึ่งเดือนที่ทำงานมา
ไม่เคยมีการเจรจากับเมียนมาและจีน
ในการแก้ปัญหาน้ำเป็นพิษจากการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในเมียนมาแล้วส่งผลกระทบมายังไทยเลย
เวทีการเจรจาระดับอาเซียน รัฐมนตรีไทยก็หลบ ให้รองปลัดไปแทน
เวทีการเจรจาอาเซียน-จีนด้านสิ่งแวดล้อมโดยตรง รัฐมนตรีก็หลบ ให้รองปลัดไปแทนอีก
ทั้ง ๆ ที่ประเทศอื่นส่งรัฐมนตรีไป
ทิ้งโอกาสการแก้ปัญหาให้ประชาชนคนไทยแบบไม่ละอาย
บวกกับรัฐบาลชุดที่แล้วที่มีเวลาเป็นปีในการจัดการ แต่ก็มีการเจรจาระดับรัฐมนตรีต่อรัฐมนตรีกับเมียนมาไปเพียงครั้งเดียว
และไม่มีอะไรคืบหน้า ทำให้การแก้ปัญหาที่ต้นตอไม่ถูกขยับโดยรัฐบาลไทยเลย
ปัจจุบัน
คนจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย กำลังเจอกับปัญหาแม่น้ำสาละวิน
แม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก เป็นพิษ ประปาหมู่บ้านเจอตะกั่วเกินเกณฑ์
ตรวจปัสสาวะคนก็เจอสารหนูเกินมาตรฐาน แม่น้ำที่ประชาชนเคยใช้ปลูกพืชผล ปลูกข้าวกิน
ตอนนี้ปนเปื้อนหมด แต่ทุกคนก็ยังต้องกินพืชผลจากน้ำปนเปื้อนเหล่านั้น
ปลาที่มีปรอทในเกณฑ์เสี่ยงกับเด็ก สตรีมีครรถ์ และผู้สูงอายุ
แต่ภาครัฐกลับบอกว่ากินได้ไม่มีปัญหา เจ้าหน้าที่ของรัฐกินปลาถ่ายรูปโชว์ก็มี
นี่คือปัญหาใหญ่ที่สะท้อนให้เห็นว่า
ทำไมเราจำเป็นต้องมีรัฐบาลที่เข้าใจปัญหาและทำงานแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
ไม่ใช่รัฐบาลที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
แล้วปล่อยให้ประชาชนต้องเผชิญกับปัญหามลพิษไปตามยถากรรมแบบนี้ครับ
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #MOU #แรร์เอิร์ธ #น้ำกก #น้ำสาย #น้ำสาละวิน #เหมือง #ภัทรพงษ์ลีลาภัทร์ #พรรคประชาชน #เชียงใหม่
