วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

“ปลอดประสพ” นำทีมเพื่อไทยลุยหาเสียง-จับเข่าคุย ทุกข์ของคนบางขุนเทียน ชี้ปัญหาฝุ่น PM2.5 รัฐบาลต้องตั้งใจ ข้าราชการประจำต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ลั่นภายในปีเดียวหลังเป็นรัฐบาลแก้ปัญหาอย่างเห็นผลแน่ เผยพร้อมเอาบางขุนเทียนกลับมา เล็งสร้างเกาะคล้ายสร้อยไข่มุกสยาม ป้องกันน้ำทะเลกัดเซาะ

 


“ปลอดประสพ” นำทีมเพื่อไทยลุยหาเสียง-จับเข่าคุย ทุกข์ของคนบางขุนเทียน ชี้ปัญหาฝุ่น PM2.5 รัฐบาลต้องตั้งใจ ข้าราชการประจำต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ลั่นภายในปีเดียวหลังเป็นรัฐบาลแก้ปัญหาอย่างเห็นผลแน่ เผยพร้อมเอาบางขุนเทียนกลับมา เล็งสร้างเกาะคล้ายสร้อยไข่มุกสยาม ป้องกันน้ำทะเลกัดเซาะ

 

วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 แกนนำพรคเพื่อไทย นำโดยนายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมการนโยบายที่ดินและสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย พร้อมนายประภัสร์ จงสงวน แกนนำพรรคเพื่อไทย, นายอุเมส ปานเดย์ แกนนำภาค กทม. และนายศรัณยสัณฑ์ วีรกุลสุนทร ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางขุนเทียน (เฉพาะแขวงท่าข้าม) และเขตจอมทอง (ยกเว้นแขวงบางขุนเทียน) พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงที่บริเวณตลาดคลองพิทยาลงกร เขตบางขุนเทียน ทั้งนี้ แกนนำและผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ยังนั่งรถสามล้อไฟฟ้าเพื่อไปตรวจพื้นที่ทะเลบางขุนเทียน ผ่านป่าชายเลน และรับเรื่องร้องเรียนจากประธานชุมชนที่อาศัยอยู่ริมทะเล รวมถึงเครือข่าย 7 จังหวัดประสบน้ำทะเลกัดเซาะ ณ สะพานรักษ์ทะเล ที่ขอให้ผลักดันการก่อสร้างคันหินป้องกันน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียนให้ด้วย เพื่อรักษาที่ดินและการดำรงชีวิตการเกษตร รวมถึงอาชีพประมงของชาวฝั่งทะเลบางขุนเทียน


จากนั้น แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ออกเดินทางไปเขตจอมทอง เพื่อตรวจสอบการก่อสร้างบริเวณริมถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 โดยประธานชุมชนจอมทอง พร้อมด้วยประชาชนในชุมชนกว่า 100 คน ได้เดินทางมาร้องเรียนปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 เพื่อขอให้พรรคเพื่อไทยช่วยแก้ปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ให้กับชาวบ้านเป็นเรื่องเร่งด่วนทันทีที่พรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งและได้เป็นรัฐบาลอีกด้วย


นายปลอดประสพ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในระยะยาวอาจส่งผลอันตรายถึงชีวิตได้ โดยมีที่มาจาก 2 แหล่งคือ 1.ในเมืองใหญ่ และ 2.ในพื้นที่ชนบท ซึ่งในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ นั้น จากการศึกษาพบว่า สาเหตุส่วนใหญ่มาจากรถยนต์ถึง 70% ที่เกิดจากการสันดาปไม่สมบูรณ์ และเป็นรถบรรทุกมากกว่ารถยนต์นั่ง นอกจากนี้ยังเกิดจากต่างประเทศ โดยลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดฝุ่นจากการเผาซางข้าวโพดมาจากประเทศกัมพูชา รวมถึงการที่กรุงเทพฯ อยู่ติดทะเล ดังนั้นไอเกลือก็จะผสมมาด้วย โดยไอเกลือจะจับฝุ่น PM 2.5 ไม่ให้เคลื่อนย้ายไปไหน ดังนั้น วิธีแก้ ในกรุงเทพฯ จึงต้องแก้จากต้นตอ คือ 1.เอารถไฟฟ้ามาแทน ทั้งรถโดยสารประจำทางและรถยนต์ส่วนตัว โดยรถโดยสารประจำทางนั้น รัฐบาลจะต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่าย ส่วนรถยนต์ส่วนตัวรัฐบาลก็จะต้องช่วย โดยอาจจะลดภาษีหรือลดราคา สำหรับปัญหารถติดในกรุงเทพฯ นั้นก็ต้องไม่ให้รถติด โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ๆ เราจะต้องทำถนนสายพิเศษให้รถบรรทุกเหล่านี่วิ่งเข้าออกไปจนถึงท่าเรือคลองเตยเพื่อไม่ให้เกิดรถติด เป็นต้น ขณะที่ต่างประเทศเราก็ต้องเจรจากับประเทศกัมพูชา เพื่อไม่ให้มีการเผาซางข้าวโพดในช่วงลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดมาด้วย อย่างไรก็ตาม เราเคยทำการศึกษากับนาซ่า ที่เขาจะมาช่วยศึกษาเกี่ยวกับเรื่องไอทะเล แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คัดค้าน เพราะกลัวว่าประเทศจีนจะเข้าใจประเทศไทยผิด ไม่เช่นนั้นเวลานี้เราคงมีความรู้เรื่องไอทะเลมากกว่านี้ไปแล้ว


นายปลอดประสพ กล่าวต่อว่า สำหรับต่างจังหวัด โดยเฉพาะในภาคเหนือ 70% เกิดจากการเผาซางข้าวโพด ซึ่งส่วนมากมาจากประเทศพม่าหรือประเทศลาว ดังนั้น การดำเนินการในเรื่องนี้จะต้องบังคับบริษัทของประเทศไทยที่ไปทำธุรกิจอยู่ในประเทศเหล่านี้ ต้องควบคุมหรือใช้การลงโทษโดยการขึ้นภาษีหรือไม่ให้นำเข้า ซึ่งมีอยู่ประมาณ 5 บริษัท เพราะเรื่องนี้เรามีความตกลงระหว่างประเทศอยู่แล้ว เกี่ยวกับการปฏิบัติทางการเกษตรที่ถูกต้อง รวมทั้งยังมีข้อตกลงในอาเซียนไม่ให้มลพิษทางอากาศลอยข้ามประเทศ กรณีเผาปาล์มน้ำมันด้วย โดยอาจจะลงโทษด้วยการเก็บภาษีหรือไม่ให้นำเข้า ตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่จะมีขึ้นในอนาคตหากใครก็ตามที่ทำให้เกิดมลพิษ จะต้องจ่าย ขณะที่ในประเทศไทยเองที่มีการเผาเราก็ต้องไม่ให้เผาเช่นกัน โดยจะใช้วิธีเชิญชวนให้เปลี่ยนมาปลูกต้นไม้ยืนต้นแทน ซึ่งมีชาวเขาประมาณ 20,000 ครอบครัวที่ปลูกข้าวโพด จะให้ครอบครัวเหล่านี้หันมาปลูกต้นไม้ยืนต้นแทน โดยจะแจกโฉนดให้เพื่อให้เปลี่ยนมาปลูกไม้ยืนต้นแทน เชื่อว่าจะช่วยลดการเผาป่าในเมืองไทยได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเองจะต้องทำงานหนักกว่านี้ ขณะที่กระทรวงมหาดไทยก็ต้องเข้ามาช่วยด้วย โดยการรื้อฟื้นสำนักควบคุมไฟป่าขึ้นมาใหม่ แล้วจ้างชาวบ้านในพื้นที่ให้เข้ามาช่วยกันดูแลป่าไม้จากไฟป่าเหล่านี้


“พรรคกำลังคิดที่จะตั้ง “เกษตรกลวิธาน” หรือการนำเครื่องมือกลเข้ามาใช้ ซึ่งจะเข้ามาช่วยทำหน้าที่ฝังกลบให้ ซึ่งนอกจากจะลดการเผาแล้ว ยังจะทำให้เนื้อดินดี ร่วนซุย และอุ้มน้ำ ทั้งนี้ เชื่อว่าฝุ่น PM 2.5 ในต่างจังหวัดนั้น ถ้าเจรจากับต่างประเทศ ควบคุมการเผาได้ ภายในปีเดียวหลังจากเป็นรัฐบาลจะเห็นผลแน่นอน แต่รัฐบาลต้องตั้งใจ และข้าราชการประจำต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ส่วนในกรุงเทพฯ อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย เพราะจะต้องมีการก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่มีพรรคไหนเคยพูด แต่ผมพูดได้เพราะปฏิบัติเอง และเรื่องนี้รัฐบาลพร้อมทำทันที” นายปลอดประสพ กล่าว


นายปลอดประสพ ยังกล่าวถึงแนวทางการป้องกันน้ำท่วมประเทศไทยด้วยว่า เนื่องจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นซึ่งเป็นแบบนี้กันทั่วโลก ถ้าไม่ทำอะไรเลยภายใน 20 ปีจากนี้ไป ประเทศไทยจะสูญเสียพื้นที่กว่า 1.5 หมื่นตารางกิโลเมตร ตั้งแต่จังหวัดลพบุรีลงมา รวมถึงชลบุรี และกาญจนบุรีด้วย คนจะไม่มีที่อยู่อาศัยกว่า 15-20 ล้านคน ซึ่งความเสียหายจะมากกว่าเมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่หลายเท่า ดังนั้น เรื่องนี้เรายอมไม่ได้ ลงทุนแค่ไหนก็ต้องทำ เพราะอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นทำให้น้ำทะเลสูงขึ้นอย่างแน่นอน เวลานี้ทั่วโลกที่เป็นเมืองชายทะเล ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซียหรือพม่า ก็ย้ายเมืองหลวงกันไปก่อนหน้านี้แล้ว ขณะที่อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกาก็กำลังสู้อยู่ ดังนั้น ประเทศไทยก็ต้องสู้ ไม่เช่นนั้นภาคกลางจะจมทะเล โดยเราจะทำในทะเลเหมือนกับประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่เรียกว่าเดลตาร์เวิร์ค จะสร้างเป็น 9 เกาะ เริ่มตั้งแต่จังหวัดสมุทรสาคร ร้อยเรียงกันไปเหมือนสร้อยไข่มุกสยาม แต่ละเกาะจะมีพื้นที่ประมาณ 30 คูณ 20 กิโลเมตร ซึ่งเท่ากับว่าประเทศไทยจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยจุดแรกที่จะทำคือที่บางขุนเทียน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของฝั่งตะวันตก และเป็นจุดเริ่มต้นของภาคกลางที่มีพื้นที่ต่ำสุด รวมทั้งอ่อนแอต่อการกัดเซาะมากที่สุด เราจึงต้องเอาบางขุนเทียนกลับมา


นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า การทำสิ่งเหล่านี้เป็นโครงการที่ใหญ่มากนับตั้งแต่มีประเทศไทยมา ซึ่งอาจจะเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะจะเป็นการเปลี่ยนระบบนิเวศวิทยา อาจจะกระทบต่อการไหลของกระแสน้ำ อาจจะกระทบต่อการวางไข่ของกุ้ง หอย ปู ปลาได้ ดังนั้น ในปีแรกหากเราเป็นรัฐบาล จะใช้มหาวิทยาลัย 2 กลุ่ม มีบริษัทที่ปรึกษาเป็นพี่เลี้ยง ให้ไปทำการทบทวนสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้องหรือไม่ เกิดปัญหากระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ จากนั้นเราจะเลือกผลการศึกษาที่ดีที่สุดมาทำ ทัั้งนี้ เกาะที่เกิดขึ้นเช่น บางขุนเทียน เราจะทำให้อุตสาหกรรมประมงฟื้นตัวกลับมา เพราะอุตสาหกรรมประมงของสมุทรสาครเราจะย้ายมาที่เกาะใหม่นี้ ท่าเทียบเรือก็จะย้ายมาที่นี่ และยังอาจจะกลายเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ ได้ เพราะจะมีทั้งถนน ทางด่วน และรถไฟฟ้าเข้ามา ซึ่งเป็นการสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่ขึ้นมา อย่างไรก็ตาม เกาะแรกนั้นอาจจะใช้เวลา 3-4 ปี จากนั้นจึงค่อยๆ ทำเกาะอื่นๆ ต่อไปตามสภาพความเป็นจริง โดยระหว่างเกาะก็จะทำประตูน้ำเชื่อมด้วย ซึ่งพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคเดียวที่จะปกป้องคุณ เพราะถ้าไม่ทำอันตรายแน่ และอาจจะเร็วกว่าที่คุณคิดด้วย


“วันนี้ในตลาดเราจะเห็นว่ามีทั้งปลาทูตัวเล็กและปลาทูตัวใหญ่ โดยปลาทูเล็กเป็นปลาทูไทย ส่วนตัวใหญ่จะเป็นปลาทูอินเดีย ซึ่งเมื่อก่อนเราไม่เคยสั่งปลาทูใหญ่เข้ามาในประเทศไทยหรอก แต่ตอนนี้ต้องสั่งเข้ามา เพราะพล.อ.ประยุทธ์ทำประมงไทยเจ๊งหมด วันนี้ถ้าเรากลับมา ปลาทูอินเดียจะไม่มี จะมีแต่ปลาทูไทย และที่อินเดียเองก็จะมีแต่ปลาทูไทยด้วยเหมือนกัน” นายปลอดประสพ กล่าว


***ซัดแรง กกต. เลือกตั้งล่วงหน้าเฮงซวย


ช่วงหนึ่งระหว่างการลงพื้นที่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ยังกล่าวถึงความผิดพลาดในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าของ กกต. จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย โดยเอ่ยทันทีว่า “เฮงซวย” ก่อนเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเอง ที่พบมีรายชื่อปริศนาเพิ่มมาหนึ่งคน ทั้งที่ตนอาศัยอยู่กับบุตรเพียงแค่สองคนเท่านั้น ซึ่งเบื้องต้นได้มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาแล้วว่าเกิดข้อผิดพลาดจากการส่งไปรษณีย์ผิด “นี่ปลอดประสพ อดีตรองนายกรัฐมนตรีนะ คุณยังกล้าทำ แล้วตาสีตาสาคุณจะไม่กล้าทำหรือ”


ถามต่อถึงการเกิดข้อผิดพลาดหลายกรณี อาจเสี่ยงถูกคนร้องให้การเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นโมฆะด้วยหรือไม่ นายปลอดประสพ ตอบว่าไม่รู้ ตนไม่อยากเดา ก่อนตำหนิต่อว่าการทำงานของ กกต. ต่อว่า “ไม่ได้เรื่อง ไปดูงานทำไมแต่ละองค์ บางองค์เป็นลูกน้องเก่าผมนะ อย่าให้เอ่ยชื่อ เดี๋ยวจะโทรถามว่าจงใจรึเปล่า และอย่าตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องเท็จว่าเกิดครั้งเดียว ครั้งหน้าไม่เกิดอีก ตนไม่เชื่อ”


เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นในการทำงานของ กกต. นายปลอดประสพ ถามกลับมายังผู้สื่อข่าวว่าใครนะ ก่อนบอกว่า “ยังมีอยู่หรือ”


ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าหากการเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นโมฆะจะส่งผลเสียต่อพรรคการเมืองหรือไม่ นายปลอดประสพ  กล่าวติดตลกว่า “ถ้าหากโมฆะเพราะ กกต. ก็กระทืบ กกต.”


“ขอให้ประชาชนออกมาเลือกตั้งเยอะ ๆ แล้วก็ต้องเลือกพรรคเพื่อไทย ต้องเลือกพรรคการเมืองที่ชนะแน่ ๆ และชนะเยอะ ๆ ถึงจะเปลี่ยนความตกต่ำของ 8 ปีที่ผ่านมาได้ ต้องเลือกแบบมียุทธศาสตร์” นายปลอดประสพ กล่าวทิ้งท้าย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #เลือกตั้ง66