วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ปิดท้ายเดือนสีรุ้ง! “นายกฯ” โบกธงปล่อยพาเหรด “LOVE PRIDE ♡ PARADE 2024” ส่งท้ายเดือนแห่ง pride ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญคนทุกกลุ่ม ขอทุกคนร่วมผลักดันไทยเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030 ขณะ “ศุภลักษณ์” ขอทุกคนให้กำลังใจ “เศรษฐา” เหตุทำงานหนักไปทุกหนทุกแห่ง

 


ปิดท้ายเดือนสีรุ้ง! “นายกฯ” โบกธงปล่อยพาเหรด “LOVE PRIDE ♡ PARADE 2024” ส่งท้ายเดือนแห่ง pride ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญคนทุกกลุ่ม ขอทุกคนร่วมผลักดันไทยเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030 ขณะ “ศุภลักษณ์” ขอทุกคนให้กำลังใจ “เศรษฐา” เหตุทำงานหนักไปทุกหนทุกแห่ง


วันที่ 30 มิถุนายน 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Love Pride ♡ Parade 2024 ณ สนามกีฬาแห่งชาติ (ศุภชลาศัย) ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ไทยสู่การเป็น Pride Friendly Destination ต่อยอดผลักดันไทยเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030  ถือเป็นการเฉลิมฉลองส่งท้าย Pride Month เดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาวหลากหลายทางเพศ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมงาน


นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า งานครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่าย ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน และความเท่าเทียมของคนทุกกลุ่ม  LGBTQ+ เป็นกลุ่มที่รัฐบาลไม่เคยละเลยและตั้งใจเต็มที่ในการยกระดับสิทธิขั้นพื้นฐาน  ซึ่งปีนี้แตกต่างจากปีก่อนๆ เพราะพรบ.สมรสเท่าเทียมผ่านการพิจารณาของสภาแล้ว ถือเป็นความน่าปลาบปลื้มใจ


นอกจากนี้รัฐบาล ยังพร้อมให้การสนับสนุนงานคล้ายให้เป็นเฟสติวัลที่สำคัญ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีศักยภาพสูง รัฐบาลสนับสนุนให้มีการจัดเทศกาลPrideทั่วประเทศ เพื่อแสดงให้ทั่วโลกเห็นว่าประเทศไทยให้ความสำคัญกับสิทธิ ความเสมอภาคและความหลากหลายทางเพศ และจะผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพการจัดเวิลด์ไพรด์ 2030


แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายขั้นตอน เราต้องช่วยกันผลักดันอีกหลายพรบ.เพื่อทำให้ประเทศไทยเข้าเป็นแคนดิเดตให้ได้ งานวันนี้นอกจากจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศไทยในด้านความเป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวทั่วโลก ยังสามารถส่งต่อแนวคิดสร้างสรรค์ซอฟพาวเวอร์ของประเทศ ผ่านขบวนพาเหรดที่สื่อความหลากหลายของประเทศทั้งเทศกาล ประเพณี แฟชั่น อาหารและกีฬา


ทั้งนี้ตนขอขอบคุณภาครัฐภาค เอกชนและภาคีเครือข่าย ที่ร่วมกันจัดงานวันนี้ ให้เป็นวาระของการสื่อสารความหมายของการเท่าเทียมทางสังคม


ขณะที่นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในฐานะรองประธานภาคีเครือข่ายภาคเอกชน กล่าวบนเวทีว่า ท่านนายกรัฐมนตรีเหนื่อยมาก ไปทุกหนทุกแห่ง เพิ่งลงจากเครื่องบิน แล้วเดี๋ยวก็จะกลับไปอีสานต่อ ขอให้เชียร์ท่านนายกฯ เยอะฯ ท่านทำงานหนักมาก ท่านจะได้มีกำลังใจ ท่านเศรษฐา การจัดงานในครั้งนี้ เราจะช่วยกันทำให้ประทับใจ มีความหวังให้ได้ ภาครัฐและภาคเอกชนต้องร่วมมือกันสมัครสมานสามัคคีกัน เราก็มีศรัทธาประเทศไทยจึงไปรอดและไปได้ดี


จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะได้ร่วมปล่อยขบวนพาเหรดที่ยาวที่สุดในเอเชีย 6 กิโลเมตร  ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวทางเศรษฐกิจสีรุ้ง โดยตกแต่งขบวนพาเหรดตามแนวคิดการสนับสนุนยุทธศาสตร์ Soft Power ในหลากหลายมิติ อาทิ การปลุกกระแสแฟชั่นผ้าขาวม้าไทยสู่ระดับโลก แสดงถึงความรัก ความเท่าเทียม และความเสมอภาค


โดยขบวนจะเคลื่อนจาก สนามกีฬาแห่งชาติ ไปตามถนนพระราม 1 ผ่านย่านปทุมวัน สยาม ราชประสงค์ เพลินจิต อโศก สุขุมวิท ไปสิ้นสุดที่อุทยานเบญจสิริ ระหว่างเวลาประมาณ 16.00 - 18.30 น.


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #PrideMonth