วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2567

จดหมายจากเรือนจำ 28 มิ.ย. 67 “ขนุน - สิรภพ” เขียนด้วยความเคารพ จิตวิญญาณราษฎร ความเชื่อที่ว่า “เราทำได้” สู่จุดเปลี่ยนในชีวิต ที่ทำให้เข้าถึงคำว่า “รัฐศาสตร์ คืออะไร”

 


จดหมายจากเรือนจำ 28 มิ.ย. 67 “ขนุน - สิรภพ” เขียนด้วยความเคารพ จิตวิญญาณราษฎร ความเชื่อที่ว่า “เราทำได้” สู่จุดเปลี่ยนในชีวิต ที่ทำให้เข้าถึงคำว่า “รัฐศาสตร์ คืออะไร” 


วันนี้ (28 มิ.ย. 67) เฟสบุ๊ค panusaya sithijirawattanakul โพสรูปจดหมายและข้อความในจดหมายระบุว่า 


สวัสดีครับผมขนุน-สิรภพ คงเป็นคำพูดประจำที่ผมมักไว้ใช้เพื่อแนะนำตัว แต่ถ้ามองย้อนกลับไปยังภูมิหลังของผมคงพูดได้ว่าน้อยคนนักที่จะรู้ ไม่ว่ารู้หรือไม่ผมเคยเรียนศิลป์ญี่ปุ่น ใครจะรู้บ้างว่าผมเคยไม่ตั้งใจเรียนมาก่อน แล้วสิ่งใดล่ะที่ทำให้ผมพลิกผันได้ถึงเพียงนี้ละ ถ้าย้อนกลับไปในสมัยม.4 อย่างที่บอกไป ผมไม่เอาไหนด้านการเรียน ทุกคนรู้ผมไม่เอาไหน แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปในวันที่โรงเรียนเปิดรับสมัครประธานนักเรียน/กรรมการนักเรียน


ผมหันไปพูดเล่น ๆ กับเพื่อนว่าคิดว่าพวกเราจะทำได้มั้ยวะ เพื่อนผมพูดว่ามีแค่พวกสายวิทย์เท่านั้นนะที่ได้ ผมพูดว่าแล้วทำไมเราจะทำไม่ได้ และใช่ผมกับเพื่อนรวมตัวกันเพื่อลงสมัครและชนะได้ในที่สุดจากการเชื่อว่า “เราทำได้” แต่ทุกความฝันที่อยากจะเปลี่ยนโรงเรียนจบลงด้วยที่ว่าว่าระเบียบอย่างงั้นอย่างงี้ แต่ชีวิตของผมไม่ได้จบลงแค่นี้ เพราะจุดเปลี่ยนของชีวิตผมเริ่มต่อจากนี้


ในช่วง ม.6 ผมได้เล่น FB ตามปกติ แต่มีโพสต์หนึ่งเด่นชัดสะดุดสายตา นั่นคือโพสต์เชิญชวนเข้าร่วมงาน “เปิดบ้านรัฐศาสตร์ จุฬา” คำถามแรกที่เกิดขึ้นภายในภายในหัวคือว่า “รัฐศาสตร์ คืออะไร” และไม่รีรอที่จะลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ในวันงานมีกิจกรรมมากมายทั้งเสวนา วงพูดคุยแลกเปลี่ยน และที่สำคัญสภาจำลอง กิจกรรมนี้เองที่เปลี่ยนอนาคตผมไปตลอดกาล ในสภาจำลองผมได้เจอผู้คนต่าง ๆ มากมายและเรื่องราวมากมายเช่นกันที่ผมไม่เคยรับรู้ วินาทีนั้นผมรู้สึกว่าตัวเอง “โง่” มาก แต่สิ่งที่แปลกไปถ้าผมอยู่ในระบบการศึกษาปกติจะถูกทบถมต่าง ๆนานา


แต่พี่คนหนึ่งเดินเข้ามาอธิบายอย่างเป็นมิตรว่า “ไม่รู้ไม่ผิด เรามาเรียนเรียนรู้กันได้” นับแต่นั้นมาผมเลยเปลี่ยนตัวเอง เปิดรับความรู้ใหม่ ๆ อ่านหนังสือ เข้าร่วมงานวิชาการเพื่อเพิ่มพูนความรู้ และที่สำคัญคือการได้เข้าร่วมกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท (ELS) ความรู้และประสบการณ์ของผมเติบโตอย่างรวดเร็ว เร็วเสียจนผมกระพริบตาอีกที ผมก็ได้เข้ามาเรียน รัฐศาสตร์ การปกครองเสียแล้วที่ มศว.


เวลาผ่านไปจนถึงปี 2020 ที่สังคมขับเคลื่อนครั้งยิ่งใหญ่ ถึงทุกวันนี้ผมยังภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพลังที่เกิดขึ้น ขอบคุณทุกเรื่องราวที่แปรเปลี่ยนชีวิตของผม หากไม่มีเรื่องราวข้างต้นคงไม่มีผมในทุกวันนี้ ถึงแม้ในวันนี้ความรุนแรงทางกระบวนการที่เกิดขึ้นจะกัดกินจิตวิญญาณของผมมากเพียงใด แต่ในเมื่อวันนี้ที่ผมยังสามารถกลับมาทบทวนที่มาของตนเองได้อยู่ ก็วางใจกันได้นะว่าผมคนนี้ยังคงยืนอยู่บนเส้นทางเดิมไม่เปลี่ยนแปลง หวังว่าผมจะได้ออกไปในเร็ววัน


แด่ เพื่อนมัธยม เพื่อน มศว เพื่อน ELS และอาจารย์ เพื่อนพี่ชาว CU โดยเฉพาะเนติวิทย์


ด้วยความเคารพ จิตวิญญาณราษฎร

สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ


สำหรับ สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ หรือขนุน เคยจัดกิจกรรมกลุ่ม ‘มศว คนรุ่นเปลี่ยน’ ปัจจุบันอายุ 23 ปี จบการศึกษาจาก ภาควิชารัฐศาสตร์สาขาการเมืองการปกครอง คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ตั้งแต่ 25 มีนาคม 2567 ในคดีมาตรา 112 ซึ่ง ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุก 2 ปี จากกรณีปราศรัยในการชุมนุม #18พฤศจิกาไปราษฎรประสงค์ เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2563 


โดยมีการยื่นขอประกันตัว 5 ครั้ง แต่ไม่ได้รับการพิจาณาปล่อยตัว ซึ่งครั้งล่าสุด ศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ รศ.ดร.สามชาย ศรีสันต์ อาจารย์สำนักบัณฑิตอาสาสมัคร ม.ธรรมศาสตร์ ประกาศวางเดิมพัน โดยใช้ตำแหน่งวิชาการ ยื่นขอสิทธิประกัน 'ขนุน สิรภพ' ให้กลับไปเรียนปริญญาโทต่อและให้เหตุผลที่เชื่อว่าขนุน ไม่คิดหนีแน่นอน แต่ที่สุดก็ถูกยกคำร้องการขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยศาลระบุว่าไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ซึ่งการไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว ส่งผลให้ 'ขนุน สิรภพ' ขาดโอกาสในการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ที่คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ขนุนสิรภพ #มาตรา112 #คืนสิทธิประกันตัวประชาชน