“รังสิมันต์” จี้รัฐไทยให้ชัด
กรณีรัฐทหารเมียนมาใช้ธนาคารไทยโอนถ่ายเงินซื้ออาวุธ
ย้ำขณะที่นานาชาติกำลังคว่ำบาตร
เราจะปล่อยให้ไทยเป็นเครื่องมือของรัฐบาลทหารในการปราบปรามประชาชนไม่ได้
วันที่
28 มิถุนายน 2567 รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ
พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการเปิดเผยรายงานจากผู้รายงานพิเศษขององค์การสหประชาชาติ
ว่ารัฐบาลทหารเมียนมาได้เปลี่ยนมาใช้ธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารอื่นๆ
ในประเทศไทยในการโยกย้ายโอนถ่ายเงิน เพื่อจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับการปราบปรามประชาชน
โดยรังสิมันต์กล่าวว่า
ก่อนหน้านี้รัฐบาลทหารเมียนมาใช้ธนาคารประเทศสิงคโปร์ในการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นหลัก
แต่ภายหลังถูกรัฐบาลสิงคโปร์กดดันหนัก
และขณะนี้รัฐบาลสิงคโปร์ได้สั่งปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลทหารเมียนมาทั้งหมดแล้ว
จึงจำเป็นต้องย้ายประเทศโอนถ่ายเงิน ซึ่งผลนั้นก็ตกมาอยู่ที่ประเทศไทย
รังสิมันต์กล่าวต่อไปว่า
ขณะนี้นานาประเทศกำลังคว่ำบาตรรัฐบาลทหารเมียนมาและเรียกร้องให้เมียนมากลับสู่ระบบประชาธิปไตยโดยเร็ว
ขณะเดียวกัน ประเทศในกลุ่มอาเซียนรวมถึงไทยก็ได้บรรลุฉันทามติ 5 ข้อต่อสถานการณ์ในเมียนมาไปแล้วเมื่อปี
2564 ซึ่งมีสาระสำคัญคือการยุติการใช้ความรุนแรงเพื่อเปิดพื้นที่เจรจาร่วมกันของทุกฝ่าย
ดังนั้น
เราจึงไม่สามารถปล่อยให้ประเทศไทยกลายเป็นเครื่องมือของกองทัพรัฐบาลทหารในการซื้อขายอาวุธต่อไปได้
และรัฐบาลไทยต้องมีนโยบายที่ชัดเจนต่อการแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว
ทั้งนี้
รังสิมันต์กล่าวว่า ตนจะใช้กลไกของคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ
เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
จึงขอให้ประชาชนร่วมกันจับตาและติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด